กาลเวลาสบตาจิรัศยาเพราะรู้ดีว่าสถานการณ์ของภูริตาไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเธอเคยได้ยินข่าวว่าบิดาของหญิงสาวเสียชีวิต บริษัทของตระกูลต้องปิดกิจการ คิดว่าเวลานี้เพื่อนต้องลำบากมากแน่ๆ ทว่ากาลเวลาและจิรัศยาเข้าใจความรู้สึกของภูริตาดีว่าไม่อยากให้ใครมาแสดงความเห็นใจเพราะไม่ใช่นิสัยของเจ้าหล่อน ดังนั้นทุกคนจึงหยุดออกความเห็นว่าใครจะเป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อนี้ไว้แค่นี้
เวลาผ่านไปพักใหญ่ การสนทนาเป็นไปอย่างออกรสชาติ เป็นเพราะฤทธิ์ของไวน์แดงที่ทำเอาสามสาวแย่งกันพูดจ้อไม่หยุด และแน่นอนว่าจิรัศยาแพ้ไปตามระเบียบเพราะพูดไม่ทันพี่ๆ ก่อนเรื่องราวจะวกกลับมาถึงเหตุการณ์ตอนไปค่าย จำได้ว่าตอนนั้นเธอสามคนเคยนัดกันไว้ว่าจะไปขอพรกับพระตรีมูรติ เทพเจ้าที่คนนิยมมาขอความรักด้วยกันสักครั้ง แต่จนแล้วจนรอดเวลาว่างก็ไม่เคยตรงกันเลย
ภูริตาซึ่งดื่มไวน์ไปหลายแก้วเป็นคนออกปากชวนทุกคนเพราะศูนย์การค้าที่เธอรับประทานอาหารอยู่นี้ใกล้กับศาลพระตรีมูรติที่พูดถึงพอดี
และแม้ว่าแรกเริ่มของการมาพบกันโดยบังเอิญไม่มีใครตั้งใจมาขอพรเทพเจ้าผู้ดลบันดาลรัก แต่สุดท้ายทุกคนก็มานั่งอยู่ตรงหน้าศาลเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
กาลเวลาพยายามปรือตามองภาพตรงหน้าเพราะดื่มไปหลายแก้วจนมึนมากเหมือนกัน แต่กระนั้นเธอก็ยังมีสติดีพอที่จะระลึกได้ว่าอยากขออะไร
“สาธุ เทพพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าบุญของลูกช้างยังมี ช่วยดลบันดาลให้ลูกช้างได้พบรักกับชายหนุ่มจิตใจดี…” เธอหยุดคิดครู่หนึ่ง ไหนๆ ก็ไหนๆ อย่าหาว่าเธอโลภมากเลย ขอเนื้อคู่ทั้งทีก็ต้องเอาแบบจัดเต็ม “จิตใจดี หล่อไม่ต้องมากแค่คล้ายๆ พัคซอจุนก็พอ สะอาดสะอ้านลุคคุณชาย รักต้นไม้ รักธรรมชาติ ไม่ต้องรวยแค่มีฐานะพอที่จะให้ลูกช้างไปเที่ยวได้รอบโลกโดยไม่ต้องทำงาน…เท่านี้…ไม่ขอมากไปกว่านี้แล้วเจ้าค่ะ”
กาลเวลาขอพรเสร็จแล้วตั้งจิตอธิษฐาน ก่อนจะคิดได้ว่าผู้ชายประเภทที่เธอขอนั้นมีอยู่จริงหรือ…
หญิงสาวลืมตาขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ เธอหันมาพบกับจิรัศยาที่ขอพรเสร็จแล้วเหมือนกัน ส่วนภูริตายังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
“พี่แพมจริงจังมากเลยนะคะ”
“นั่นสิ สงสัยจะมีแผนอะไรในใจแล้วแน่ๆ…จิล่ะ”
“คะ?”
“พี่ถามว่าเราน่ะขออะไรท่าน”
“ก็ไม่เชิงขอหรอกค่ะ ออกแนวบ่นมากกว่า จิว่าเรื่องความรักน่ะเราคงบังคับใครไม่ได้หรอก ถ้าทุกคนที่มาขอพรจากท่านแล้วสมหวังกันหมด จิว่ามันต้องมีการเกิดเรื่องรักสามเส้าหรือชู้สาวเป็นร้อยๆ คู่แน่”
“บ้า จิก็คิดไปได้” กาลเวลาหัวเราะร่วนเพราะคิดไม่ถึงจริงๆ แต่ที่จิรัศยาพูดก็มีส่วนถูก ใครๆ ก็ต้องการความรักดีๆ กันทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวัง ฉะนั้นเธอก็คงต้องก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
“โทษที รอนานป่ะ”
ภูริตาขอพรเสร็จแล้วหันมาถาม
“ก็สักพัก ขออะไรแพม ยาวเป็นกิโลเชียว” กาลเวลาหยอกยิ้มๆ
“ของแบบนี้ห้ามบอกคนอื่นย่ะ เดี๋ยวไม่ศักดิ์สิทธิ์”
“แต่ฉันอยากบอก…” กาลเวลาหัวเราะคิก “ฉันบอกของฉันคนเดียวก็ได้ ฉันขอให้ฉันได้แฟนหน้าตาเหมือนพัคซอจุน”
เธอบอกพร้อมกับกดโทรศัพท์ให้เห็นภาพพักหน้าจอเป็นรูปพระเอกเกาหลีชื่อดัง ‘พัคซอจุน’ และพร้อมกันนั้นเธอเห็นว่าภูริตาและจิรัศยาทำหน้าแปลกๆ
“ขอมากไปมั้ยแก” ภูริตาถามตรงๆ แต่ยังดีที่จิรัศยาเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นเพราะเป็นมารยาท
“สำเร็จหรือไม่สำเร็จ อีกหกเดือนนัดเจอกันมั้ยล่ะ”
“จิโอเคค่ะ”
“ดีล ถ้าฉันง้อแฟนเก่าสำเร็จ ครั้งหน้าต้องให้ฉันเลี้ยงด้วย”
“สรุปว่าแกขอพรให้ง้อแฟนเก่าสำเร็จว่างั้น” กาลเวลาหรี่ตามองคนที่ไม่ยอมบอกว่าขออะไร อีกฝ่ายเม้มปากแน่นไม่ยอมตอบ แต่นั่นแหละเป็นคำตอบ “ย่ะ ครั้งหน้าฉันจะสั่งไม่ยั้งมือเลย”
โปรดติดตามตอนต่อไป