“หยางจง นายหาข้อมูลได้หรือยัง” เขาถามลูกน้องแต่ดวงตายังจับจ้องเธอ
“สักครู่ครับคุณแดนนี่” หยางจงรับคำแล้วรีบเปิดแท็บเลตเช็กข้อมูล “ได้แล้วครับ”
เดินเร็วๆ มาหาเจ้านายแล้วส่งแท็บเลตให้ กาลเวลานิ่วหน้า สังหรณ์ใจว่าข้อมูลที่ว่านั่นเกี่ยวกับเธอ
“กาลเวลา นนท์สวัสดิ์” แดนนี่ เฉินอ่านข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าจอช้าๆ “อายุยี่สิบหกปี อาชีพ…”
ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยคล้ายแปลกใจ พลางเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้ากาลเวลา
“บล็อกเกอร์นำเที่ยว”
กาลเวลาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ข้อมูลพวกนั้นเกรียงศักดิ์กรอกให้เธอตอนที่กดซื้อทริปผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งการที่เขาได้ข้อมูลพวกนี้มาไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“นั่นเรียกว่างานเหรอ”
“ใช่หรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ ฉันจ่ายเงินมาเที่ยวไม่ได้ขอมาฟรี”
แดนนี่ เฉินหัวเราะในลำคอ เขารู้จักคนที่ทำอาชีพอย่างเธอดี แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอคนประเภทนี้ เรือของเขามีบล็อกเกอร์มาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสายหลายเชื้อชาติ ยุคนี้ใครๆ ก็ทำตัวเป็นบล็อกเกอร์ได้ทั้งนั้น แค่มีโทรศัพท์กับค่าอินเตอร์เน็ตไม่กี่บาท
…แค่พวกอยากดัง
“ยังไงผมก็คงให้คุณขึ้นเรือไม่ได้ เรือของผมเป็นเรือสำราญ แล้วมันคงไม่สำราญเท่าไหร่นักหากว่ามีพวกบล็อกเกอร์เกลื่อนๆ มาคอยถ่ายภาพแขกของผม”
กาลเวลาเหมือนถูกตีแสกหน้าด้วยไม้หน้าสาม เธอทำงานนี้มาหลายปีไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย และที่แย่ไปกว่านั้นคือที่เขาพูดมันถูก
“ฉันมีจรรยาบรรณมากพอ ไม่ปล่อยภาพไม่สวยของใครลงสื่อ อีกอย่างคุณน่าจะดีใจ เพราะงานของฉันอาจทำให้คนรู้จักเรือของคุณมากขึ้น”
“ผมไม่ได้ง้อลูกค้าขนาดนั้น แล้วเรือผมก็เต็มทุกเที่ยวอยู่แล้ว”
“แล้วคุณจะเอายังไง” กาลเวลาอยากร้องไห้ อยู่ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา เธอคร้านจะเถียงกับเขาแล้วเพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ
แดนนี่นิ่งไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะร้องไห้ แต่ไม่ทันได้คิดอะไรต่อจากนั้นหยางจงก็ส่งภาพวิดีโอให้เขาดู
กล้องวงจรปิดตรงทางขึ้นเรือแสดงภาพบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่ที่กาลเวลากำลังถ่ายวิดีโอบรรยากาศรอบๆ วอล์กเวย์ซึ่งทอดยาวเทียบไปกับเรือ กระทั่งตอนที่พริมามาแย่งโทรศัพท์ไปเพราะหญิงสาวเดินมาในรัศมีของกล้องพอดี แดนนี่นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อขณะที่ทั้งสองฝ่ายถกเถียงกัน อยู่ๆ พริมาก็โยนโทรศัพท์ของคนตรงหน้าทิ้งไป
แดนนี่กลอกตาเล็กน้อย เขาน่าจะรู้จักพริมาดี เธอวู่วามและมักทำอะไรไม่มีเหตุผล เอาแต่ใจตัวเอง
“หยางจง นายพาเธอไปห้องพักของเธอได้เลย อีกสักพักเรือจะออกแล้ว”
แดนนี่บอกกับคนของเขา แต่กาลเวลาต้องงงหนัก เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจแต่ชายหนุ่มก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ถามเพราะทันทีที่เขาออกคำสั่งเสร็จชายหนุ่มก็เดินเร็วๆ ออกจากห้องไป
ทิ้งให้เธอมองตามอย่างงุนงง
กาลเวลาถูกพามายังห้องพักบนเรือซึ่งอยู่บนชั้นสิบหกจากทั้งหมดยี่สิบเอ็ดชั้น ที่แปลกใจคือข้าวของของเธอวางไว้อย่างเป็นระเบียบที่ปลายเตียงอยู่แล้ว
ตั้งแต่เดินตามผู้ชายที่ชื่อหยางจงมาจนถึงห้องพัก เธอไม่สามารถคลายคิ้วที่ขมวดชนกันออกได้เลย
…นี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ
กาลเวลาทรุดตัวนั่งบนเตียงนอนขนาดห้าฟุตแล้วเอนหลังลงไปเกลือกกลิ้งอย่างหงุดหงิดใจ ทั้งเรื่องโทรศัพท์ที่ถูกโยนลงน้ำ เรื่องที่เจอดาราดังซึ่งเธอไม่คิดว่าจะได้เจอในชาตินี้และเป็นการเจอในแบบที่เธอไม่ปรารถนาจะเจอ ไหนจะเรื่องที่ถูกผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาลากตัวเข้าไปในห้องแล้วจ้องตำหนิเธออย่างเอาเป็นเอาตายเรื่องที่เธอไม่ได้มีความผิด
ความจริงเธอควรลากกระเป๋าเดินทางลงจากเรือแล้วขึ้นเครื่องกลับเลยตอนนี้
ใช่!
เธอไม่อยากเดินทางไปกับเรือที่มีเจ้าของสับปะรังเคห่วยแตกอย่างเขา
แดนนี่ เฉิน
กาลเวลาลุกพรวดขึ้นนั่ง แต่ขณะที่กำลังคิดว่าจะลากกระเป๋าออกจากห้อง เรือสำราญลำใหญ่ที่จุนักท่องเที่ยวและลูกเรือห้าพันชีวิตก็เคลื่อนตัวออกพร้อมเสียงประกาศเป็นภาษาอังกฤษ
หญิงสาวแทบอยากจะกรีดร้อง
ชีวิตเธอเพิ่งจะมาเจอพิษเบญจเพสตอนอายุยี่สิบหกหรือยังไงนะ
โปรดติดตามตอนต่อไป