“อร่อยค่ะ สมคำเล่าลือ” กาลเวลากล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนประชดประชันมากกว่าชมจากใจจริง นั่นเพราะเธอยังหมั่นไส้เจ้าของเรืออยู่มาก
“คุณมาคนเดียวแบบนี้ไม่เหงาแย่เหรอครับ”
“ถามทำไมคะ คุณต้องสนใจเรื่องนี้ของลูกค้าทุกคนเลยเหรอ”
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมเห็นคุณมาคนเดียว คิดว่าน่าจะเหงา”
“เหงาไม่เท่าไหร่ แต่หงุดหงิดมากกว่า ที่ต้องมาเจอคนนิสัยแย่ๆ อย่างเจ้านายคุณและแฟนของเขา”
ปาริธหัวเราะในลำคอ เพราะขันที่กาลเวลาดูเอาเรื่องไม่เกรงกลัวใคร กับเจ้านายของเขาเธอคงเป็นคนแรกที่กล้าต่อปากต่อคำ
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดีครับ ถ้าเป็นผม เจอเหตุการณ์แบบวันนี้ก็คงเซ็งเหมือนกัน”
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจฉัน ช่วยอธิษฐานให้ฉันด้วยนะคะ ขอให้ชาตินี้อย่าได้เจอะได้เจอคนแบบสองคนนั่นอีกเลย อ้อ! แม่ของแฟนเจ้านายคุณด้วย”
ปาริธแอบรู้สึกผิดที่เผลอเข้าข้างคนตรงหน้าแล้วทำตัวเหมือนเกลือเป็นหนอน แต่บางอย่างในตัวเธอทำให้เขาอยากเอาใจช่วย
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พวกเขาอยู่กรุ๊ปวีไอพี พักคนละชั้น ทานอาหารคนละห้อง แต่ว่าช่วงกลางวันคุณเดินหลบดีๆ ก็แล้วกัน คุณพริมาไม่ชอบออกแดด เธอน่าจะเดินช็อปปิ้งอยู่ตามห้องเสื้อและกระเป๋าแบรนด์เนม”
กาลเวลาหลุดขำ ไม่คิดว่าปาริธจะอยู่ข้างเธอ
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันไม่มีปัญญาซื้อของอะไรพวกนั้นอยู่แล้ว ขอบคุณที่แนะนำนะคะ”
“ครับ ด้วยความยินดี” ปาริธยื่นมือให้หญิงสาว “แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณกาลเวลา ผมปาริธครับ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” กาลเวลาจับมือเขาแล้วเขย่าแรงๆ “แด่มิตรภาพค่ะ”
อารมณ์ขุ่นมัวค่อยดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้กินของอร่อย และต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอหายจากความหงุดหงิดคือลูกน้องของคนต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหงุดหงิด
ปาริธมีมิตรภาพให้เธอ อย่างน้อยเธอก็มีเพื่อนหนึ่งคนบนเรือลำนี้
กาลเวลาออกมายืนเก็บภาพท้องทะเลบริเวณกราบเรือ บันทึกภาพแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าขณะที่ใครๆ ต่างพากันเข้าห้องรับประทานอาหารเย็นไปตั้งแต่สี่โมงครึ่งทำให้บริเวณนั้นร้างผู้คน
ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอมน้ำเงิน ราวกับหยุดเวลาไว้ในตอนนั้น เธอจับจ้องภาพตรงหน้าแล้วบันทึกไว้ในความทรงจำ
นี่ล่ะ…เสน่ห์ของการเดินทาง
เธอจะได้พบกับภาพที่ไม่มีวันซ้ำกันเลย อย่างน้อยท้องฟ้าก็ไม่เคยเหมือนกันเลยสักวัน
ทว่าความงดงามของภาพตรงหน้ากลับถูกรบกวนด้วยการถกเถียงกันระหว่างใครบางคน เธอหันไปมองอย่างรำคาญใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการเที่ยวแล้วพบคู่รักทะเลาะกัน และทุกครั้งมันทำให้ต้องเสียอรรถรสในการเที่ยวไปเลย
“คุณคิดว่าพริมเดินทางมาถึงนี่เพื่ออะไรคะแดนนี่ พริมแค่ต้องการมีเวลาอยู่กับคุณ”
ภาพที่เห็นทำให้กาลเวลาเผลอเหลือกตา หญิงสาวขยับตัวให้พ้นจากสายตาคนทั้งคู่ แล้วแอบมองอย่างห้ามความ ‘เผือก’ ของตัวเองไม่ได้เลย
“ผมไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นนะพริม ผมต้องทำงาน ถึงคุณมาหาผม ผมก็ไม่มีเวลามาอยู่กับคุณตลอดเวลา ทำไมคุณไม่รอผมอยู่ที่ไทย ผมจะกลับไปที่นั่นก็ตอนไม่มีงาน”
ไหนบอกไม่ใช่แฟน แบบนี้มันยิ่งกว่าแฟนเสียอีก