ทดลองอ่าน ปรารถนา… ให้เป็นคุณ ชุด Wishing You ด้วยรัก… และปรารถนา บทที่ 1 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน ปรารถนา… ให้เป็นคุณ ชุด Wishing You ด้วยรัก… และปรารถนา บทที่ 1

ประโยคที่สองเป็นเสียงของหนึ่งในสองสาวข้างกายจิรัศยาบ่นขึ้นเบาๆ ท่าทางจะเสียใจแทนคนที่ยอมก้าวออกจากลิฟต์ไปไม่น้อย เวลานี้หญิงสาวนึกหมั่นไส้ทุกคนที่ทำให้ภารกิจการส่งมอบอาหารเช้าของเธอล่าช้าออกไป เมื่อประตูลิฟต์ปิดและพร้อมเดินทางอีกครั้งจิรัศยาก็ผ่อนลมหายใจยาว

หลังจากชั้นลานจอดรถก็ไม่มีใครขึ้นมาอีก มีแต่พนักงานบริษัทที่ทยอยออกจากลิฟต์ทีละคนสองคน จนในที่สุดลิฟต์ก็ว่างพอที่พนักงานประชาสัมพันธ์ของบริษัทเฟอร์นิเจอร์สำนักงานอย่างจิรัศยาจะมีโอกาสสำรวจเพื่อนร่วมเดินทางบ้าง ทันทีที่สายตาไปปะทะเข้ากับคนร่างสูงเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรร่างกายของหญิงสาวก็ร้อนวูบวาบขึ้นทันที นั่นคนหรือเทพบุตร…

เขาอยู่ในสูทลายทางทั้งชุด พื้นเป็นสีน้ำเงินเข้มตัดด้วยเส้นด้ายสีขาว ด้านในเสื้อสูทเป็นกั๊กสีและลายเดียวกัน มันทับเสื้อเชิ้ตสีขาวไว้อีกชั้นหนึ่ง ส่วนเนกไทเป็นสีน้ำเงินเข้มไม่มีลวดลาย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นมันไม่ได้น่าสนหรอกหากคนสวมใส่ไม่ใช่เขา พ่อเทพบุตรคนนี้เป็นชายไทยแน่แต่อาจจะมีเชื้อสายอื่นปนมาด้วย เขาผิวขาวมากกว่าหนุ่มไทยโดยเฉลี่ย จมูกก็โด่งเป็นสันคมกว่า คิ้วหนาและโค้งราวปีกพญาอินทรี ดวงตาโตสีนิล ริมฝีปากหนาแต่น่าจะนุ่ม ริมฝีปากบนนั้นมีรอยหยักชัดเจนราวรูปปั้นกรีก รูปหน้ายาวเรียวรับกับการตัดผมรองทรงสูง เขาต้องรู้แน่ว่าตนเองมีรูปศีรษะที่สวยจึงกล้าตัดผมทรงนี้เพื่ออวดศีรษะทุยนั้น

คาดเดาจากใบหน้าที่ไร้ริ้วรอย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และแววตาที่ยังสดใสนั้น เขาไม่น่ามีอายุเกินสามสิบปี แต่ชายที่แต่งตัวดูภูมิฐานขนาดนี้ก็ไม่น่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานได้รวดเร็วจนใครบางคนเรียกเขาว่า ‘ท่าน’ ได้ มันควรจะเป็นชายวัยกลางคนมากกว่า หรือไม่อย่างนั้นก็มีอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด นั่นก็คือ…เขาเกิดบนกองเงินกองทอง เพราะด้วยบุคลิกและท่วงท่าการยืนนั้นบ่งบอกได้เลยว่าเขาถูกอบรมมาอย่างดี หลังไหล่ไม่งุ้ม หน้าอกผึ่งผาย ใบหน้าตั้งตรงแต่ไม่เชิดหยิ่ง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ เขาไม่ได้พิงลิฟต์เพื่อยึดจุดยืนเป็นของตัวเอง แต่กลับพร้อมขยับให้คนใกล้ตัวได้ยืนอย่างสบาย คนที่เกิดมาแล้วมีทุกอย่างพร้อมเพื่อรอต้อนรับเขาให้ได้ใช้ชีวิตบนโลกได้อย่างอิสรเสรีและมีคุณภาพ ก็คงมีลักษณะอย่างพ่อเทพบุตรคนนี้มั้ง จิรัศยาสรุปให้ตัวเองในใจ

เสียงลิฟต์บอกว่าประตูกำลังจะเปิดอีกครั้ง แต่มันยังไม่ถึงชั้นที่เธอทำงานอยู่ เธอพอจะจำได้ว่านี่เป็นชั้นของสองสาวที่ยืนหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆ จิรัศยาหันไปมองสาวสวยทั้งคู่แต่วันนี้ดูเหมือนพวกเธอจะไม่ยอมลงที่ชั้นนี้ และเมื่อประตูปิดอีกครั้งนั่นก็ยืนยันได้ว่าพวกเธอยังคงไปต่อ แปลก…

ในที่สุดก็ถึงชั้นสิบห้า จิรัศยารู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่จะไม่มีโอกาสลอบมองพ่อเทพบุตรคนนั้นอีก หญิงสาวขยับตัวเพื่อที่จะไปยืนหน้าประตูลิฟต์ ของในมือยังคงพะรุงพะรัง ภาพลักษณ์ตอนนี้คงน่าอายเกินกว่าที่จะทิ้งสายตาเพื่ออ่อยผู้ชายสักคน โดยเฉพาะคนที่หล่อเหลาและถูกสเป็กเธอที่สุดคนนั้น ดังนั้นจิรัศยาจึงเอาแต่ก้มหน้างุดขณะรอให้ประตูลิฟต์เปิด แล้วหางตาก็พลันเห็นว่ามือใหญ่ที่มีนิ้วเรียวขาวสวยนั้นกำลังยื่นออกมากดปุ่มประตูลิฟต์ให้ค้างไว้ให้

ดีจัง อย่างน้อยเขาก็เปิดประตูให้

จิรัศยาตั้งใจหันไปมองเขาให้เต็มตาเพื่อจะกล่าวคำขอบคุณ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อถูกคนด้านหลังกระแทกเพื่อให้เธอเดินพ้นจากประตูลิฟต์เร็วขึ้น

“อุ๊ย!”

ไม่ใช่การชนแค่ครั้งเดียวแต่ยังมีการชนตามมาอีกครั้งจนร่างของจิรัศยาโอนเอน และกำลังจะล้มหน้าคว่ำในวินาทีถัดมา แต่ราวโชคชะตาจะส่งทูตสวรรค์มาให้ เมื่อมือใหญ่ยื่นมาคว้าข้อมือของเธอไว้ แรงโน้มถ่วงที่กำลังฉุดให้จิรัศยาล้มไปข้างหน้านั้นถูกแรงดึงมากระชากให้ร่างเธอกลับไปยืนที่จุดเดิม และแน่นอนว่าแรงฉุดกับแรงดึงนั้นไม่สัมพันธ์กัน แทนที่ลำตัวของเธอจะตั้งตรงแต่ร่างบางนั้นกลับกระแทกเข้าที่หน้าอกแข็งแรงเข้าอย่างจัง เกิดเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดตามมาทันที แต่นั่นก็ไม่น่าตกใจเท่าความรู้สึกที่เย็นวาบตั้งแต่บริเวณหน้าอกจนถึงช่วงกลางลำตัวของจิรัศยา…

ใช่ค่ะ…การกระทำที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ส่งผลให้สารพัดแก้วน้ำและถุงอาหารเช้าในความดูแลของหญิงสาวนั้นสะบัดและราดรดลงมาบนตัวของเธอ

…กรรมแล้ว

“ว้าย…”

หญิงสาวจอมซุบซิบสองคนรีบถอยออกห่างจากร่างของจิรัศยาซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถทรงตัวได้ และเป็นที่แน่นอนแล้วว่าหล่อนทั้งสองนั่นแหละที่มีส่วนสำคัญทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น จิรัศยากำลังช็อก เธอจึงไม่สามารถต่อสู้อะไรได้ และยังไม่รู้ตัวอีกว่าศีรษะกับลำตัวท่อนบนของเธอนั้นยังฝากไว้ที่หน้าอกของคนที่ช่วยเหลือเธออยู่

“ยืนเองได้รึยังครับ”

คำถามจากน้ำเสียงที่แสนเย็นชาดังขึ้นมาทางด้านหน้า จิรัศยาเงยหน้าขึ้นไปมองเขา

ผู้ชายอะไรผอมสูงอย่างกับเสาธงแถมตายังตี่ เวลาโกรธจัดแทบจะมองไม่เห็นตาดำ ตลกชะมัด เอ๊ะ เดี๋ยว เขาพูดว่าอะไรนะ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com