บทที่ 3
“แฟชั่นใหม่เหรอหนูจิ”
เจ้าของร้านขายข้าวราดแกงภายในศูนย์อาหารของอาคารสำนักงานทักจิรัศยาขึ้นเมื่อเห็นเธอใส่ชุดที่ไม่เข้ากับสถานการณ์เอาเสียเลย และเป็นครั้งแรกที่นางเห็นหญิงสาวใส่ชุดทำนองนี้ มันเป็นกางเกงวอร์มขายาวกับเสื้อยืดสีขาว แถมมีเสื้อสูทคลุมทับอีกชั้น หากคุณป้าเจ้าของร้านเห็นรองเท้าผ้าใบที่เธอสวมอยู่ด้วยคงคิดว่าจิรัศยาพร้อมที่จะไปออกกำลังกายตอนเที่ยงวันนี้แน่
“สวยไหมคะป้า” จิรัศยาถามกลับอย่างอารมณ์ดี “เดี๋ยวเย็นนี้ทำงานเสร็จก็จะได้ไปวิ่งที่สวนลุมเลย”
“อ้อ งั้นเหรอ รีบใส่ตั้งแต่ตอนนี้เลย” พูดแล้วก็หัวเราะร่าด้วยความเอ็นดูหญิงสาวร่างเล็กที่เป็นลูกค้าประจำ “วันนี้จะกินอะไรดี”
“หนูอยากกินไก่ผัดขิง”
“ได้เลย ป้าจะตักไก่ผัดขิงให้ เอาขิงเยอะๆ เลยนะ แล้วเอาอะไรอีก”
“ไข่เจียวค่ะ”
“เฮ้อ กินเหมือนเดิมซ้ำๆ ไม่เบื่อบ้างรึไงหนูจิ”
“ไม่ค่ะ เรายังต้องกินข้าววันละตั้งสามมื้อเลยนี่คะ มีมื้อหนึ่งกินไก่ผัดขิงกับไข่เจียวแสนอร่อยของป้า ก็ยังเหลืออีกตั้งสองมื้อที่ได้กินอย่างอื่น”
“เอ้าๆ ไม่เถียงแล้ว เหมือนเดิมก็เหมือนเดิมจ้ะ”
คนตักอาหารทั้งใจดี ทั้งมีเมตตาต่อพนักงานบริษัทสาวร่างเล็ก ดูเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันได้เพราะอาหารกลางวันที่แสนอร่อยในราคาประหยัดโดยแท้ มันทำให้จิรัศยาฝากท้องไว้กับร้านข้าวแกงแห่งนี้ได้ทุกวัน และบางวันเธอจะสั่งกับข้าวไปเป็นอาหารค่ำของตัวเองอีกด้วย
หญิงสาวถือถาดอาหารแล้วชะเง้อมองหาโต๊ะที่ยังว่างอยู่ ในช่วงกลางวันอย่างนี้ศูนย์อาหารประจำห้างสรรพสินค้าซึ่งอยู่ชั้นล่างของอาคารสำนักงานนั้นจะคลาคล่ำไปด้วยพนักงานของบริษัทต่างๆ ซึ่งทยอยลงมารับประทานอาหารในเวลาเดียวกัน จิรัศยามองเห็นที่นั่งซึ่งว่างอยู่เพียงที่เดียวเธอจึงรีบตรงดิ่งไปทันที มันเป็นเก้าอี้บาร์ที่อยู่ติดกระจก คนนั่งตรงนั้นจะสามารถมองออกไปด้านนอกตัวอาคารได้ ซึ่งทิวทัศน์เบื้องหน้าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าชิดลม
จิรัศยาวางถาดอาหารและเครื่องดื่มของเธอลงบนโต๊ะบาร์แล้วนั่งมองผ่านกระจกนิ่ง เธอชอบมองดูขบวนรถไฟฟ้าจอดเทียบชานชาลาแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป เธอชอบมุมนี้ของอาคาร เพราะมันได้เห็นผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ ทำให้รู้สึกถึงพลังของการใช้ชีวิตในวันธรรมดาของแต่ละคน หญิงสาวชอบความธรรมดาและเรียบง่ายเพราะมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ไม่ต้องมีเรื่องตื่นเต้นอะไรให้ลำบาก เมื่อมองจนพอใจแล้วเธอก็เริ่มลงมือรับประทานอาหาร…
ยังไม่ทันข้าวแกงจะหมดจานโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อดูหน้าจอแล้วจิรัศยาก็รีบรับ
“ว่าไงตา เป็นไงบ้าง”
“อื้อ ก็สวยนะ เขาทำสีใหม่สวยมากเลยแหละ”
“แล้วตกลงซื้อเลยมั้ย”
“อยากได้แต่ติดปัญหาอีกนิดหน่อย”
“ทำไมเหรอ”
“เดี๋ยวค่อยกลับไปคุย กินข้าวเสร็จรึยัง”
“เกือบแล้ว”
“งั้นไปเจอกันที่ออฟฟิศเลยแล้วกันนะ เราแวะซื้อขนมปังก่อนแล้วจะเข้าไป”
“ได้ เดี๋ยวเจอกัน”
จิรัศยาวางสายด้วยความแปลกใจ การไปดูรถยนต์มือสองสภาพเหมือนใหม่ของกวิตาในวันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมงานของเธอมีความสุข เพราะกวิตาเคยบอกว่าจะตัดสินใจซื้อมันในเร็ววันนี้แล้วแท้ๆ แต่จากน้ำเสียงเมื่อครู่เหมือนกับว่าทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิด