จากนั้นก็มีภาพกล่องเสื้อผ้าส่งมาประกอบด้วย พารณพยักหน้าอย่างพอใจแล้วพิมพ์ตอบกลับไปแค่คำว่าขอบคุณครับ งานของเขายังเหลืออีกอย่างที่จะต้องทำก่อนปิดภารกิจนี้ นั่นก็คือการส่งข่าวไปบอกให้กัณฑ์อเนกทราบ พารณส่งรูปที่ทางร้านคริสตัลส่งมาให้เขาเมื่อครู่ต่อไปยังเครื่องของเจ้านาย พร้อมรายงานรายละเอียดเพิ่มเติม
‘เธอไม่ได้ไปที่ร้านครับ ผมเลยแก้ปัญหาโดยการส่งชุดใหม่ไปให้พร้อมกับนามบัตรของคุณกัณฑ์’
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก ปัดเรื่องน่ารำคาญใจไปได้แล้วหนึ่งเรื่อง จากนั้นก็กลับมาสนใจงานในมืออีกครั้ง เขาขีดฆ่าคำถามที่เกี่ยวกับเรื่องความรักและผู้หญิงออกทั้งหมด แล้วโน้ตด้วยตัวหนังสือเล็กๆ ลงไปว่าให้แทนด้วยงานอดิเรก
งานของเขาบางครั้งก็ดูสำคัญหากเรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัท ทว่าบางครั้งมันกลับดูไร้สาระหากเกี่ยวข้องกับการที่เขาต้องคอยดูแลกัณฑ์อเนกราวกับเป็นเด็กเล็กๆ แต่ทุกอย่างล้วนเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา ตำแหน่งที่พารณทำอยู่ไม่มีใครสามารถทำได้ดีเหมือนเขา ชายหนุ่มเป็นที่ยอมรับทั้งจากผู้บริหารบริษัทและคนในครอบครัวซึ่งมีกมลพัชรเป็นประมุขสูงสุดอยู่ เงินเดือนที่พารณได้รับในแต่ละเดือนเกือบเท่ากับผู้บริหารระดับสูงบางคนด้วยซ้ำไป มันอาจดูมากเกินจริง แต่ถ้ามาติดตามชีวิตของเขาในแต่ละวันจะรู้ว่าเขาต้องแบกรับความกดดันไว้มากแค่ไหน หากมีใครต้องการหาคนใหม่มาทำแทนเขาก็คงต้องยอมรับความเสี่ยงอีกว่าคนคนนั้นจะอยู่ทนหรือไม่
พารณไม่คาดหวังว่ากัณฑ์อเนกจะอ่านข้อความของเขาทันที ดังนั้นเมื่อมีข้อความเข้าหลังจากที่ส่งไปไม่นานนั้นจึงทำให้เขาค่อนข้างประหลาดใจ เลขาฯ หนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง ข้อความที่เข้ามาไม่ใช่จากหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้านาย แต่มันมาจากใครสักคนที่เขาไม่รู้จัก
‘ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่คุณส่งมาให้ค่ะ ความจริงฉันคิดว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณและมันมากเกินไป แต่ฉันก็จะรับไว้เพราะถ้าไม่รับ ฉันกลัวว่าคุณจะส่งอะไรที่แพงมากกว่านี้มาให้อีก…จิรัศยา’
เขาอ่านข้อความของเธอหลายรอบเพื่อวิเคราะห์ว่าคนที่ใช้ถ้อยคำเหล่านั้นจะเป็นคนแบบไหน หนึ่งล่ะเธอสุภาพพอที่จะกล่าวขอบคุณและไม่ถือโทษ โวยวายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดของใคร เธออาจจะไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น สองเธอบอกว่าเสื้อผ้าชุดนั้นมันมากเกินไป ซึ่งอาจจะหมายถึงมูลค่าของมัน ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าพนักงานออฟฟิศธรรมดา แถมเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้ทำรายได้หลักให้องค์กร เธอก็ไม่น่าจะมีเงินมากพอที่จะซื้อเสื้อผ้าจากร้านคริสตัล เพราะฉะนั้นการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงมีค่ามากสำหรับเธอ
แต่ข้อความต่อจากนั้นต่างหากที่เขาค่อนข้างแปลกใจเพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่กัณฑ์อเนกส่งของขวัญไปให้พูดกลับมาเช่นนี้…
“กลัวว่าจะส่งอะไรที่แพงกว่านี้มาให้”
พารณอ่านทวนข้อความนั้นแล้วเลิกคิ้วของเขาขึ้นสูงอย่างประหลาดใจ
“แต่ก็ยังย้ำชื่อมาให้จำ”
แล้วเขาก็แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจกับตัวเอง นี่เป็นวิธีที่พารณพบบ่อยที่สุดหลังจากที่นามบัตรใบนั้นถูกแนบไปกับช่อดอกไม้หรือกล่องของขวัญตามคำสั่งของกัณฑ์อเนก ผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์จะติดต่อกลับมาที่หมายเลขซึ่งปรากฏบนนามบัตร ถ้าไม่ส่งข้อความตอบกลับมาก็มักจะโทรมาด้วยตัวเอง ทุกคนล้วนคิดว่าเป็นหมายเลขที่สามารถติดต่อกัณฑ์อเนกได้โดยตรง แต่ความจริงแล้วคนที่ถือหมายเลขนี้ไว้คือเขาเอง ดังนั้นทุกคนจึงต้องได้พูดคุยกับเขาก่อน รายนี้ก็ไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ เขาชินแล้ว พารณตอบกลับไปเพียงสั้นๆ ว่า…ยินดีครับ
แค่นั้นก็จบความสัมพันธ์แบบบังเอิญระหว่างกัน ตามธรรมเนียมหลังจากมีการส่งของขวัญให้กับผู้หญิงคนไหนแล้วกัณฑ์อเนกก็พร้อมจะลืมเธอไปในทันที พารณก็ทำแบบเดียวกัน และจิรัศยาก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้น
หัวใจของจิรัศยาเต้นไม่เป็นจังหวะตั้งแต่เห็นข้อความถูกส่งกลับมาแทบจะในทันที เหมือนกับว่าคนทางนั้นก็รอข้อความขอบคุณจากเธออยู่ หญิงสาวเผลอยิ้มกับตัวเอง ความรู้สึกที่เคยได้พิงแผ่นอกของเขาโดยบังเอิญนั่นทำให้เธอแสดงท่าทีเขินอายออกมาอย่างลืมตัว หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิตอย่างที่กวิตาพูดไว้…
เพื่อนสาวเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เธอกล้าเขียนข้อความขอบคุณเจ้าของชุดใหม่ แถมยังช่วยคัดสรรถ้อยคำที่จะทำให้ไม่ดูเป็นผู้หญิงขี้อ่อยจนเกินไป และที่สำคัญคือต้องลงชื่อของตัวเองให้ชัดเจนเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้รู้ว่าใครคือคนที่เขาส่งของขวัญชิ้นสำคัญมาให้ เผื่อในวันข้างหน้าจิรัศยากับเขาอาจมีโอกาสที่จะได้พบกันอีก กวิตาเชื่อมั่นเช่นนั้น
ตลอดช่วงบ่ายจนใกล้จะเลิกงานจิรัศยาเหลือบมองกล่องของขวัญทุกครั้งที่คิดถึงคนให้ แต่เธอก็ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนั้น หญิงสาวยังคงสวมชุดออกกำลังกายโดยมีเสื้อสูทคลุมทับไว้เหมือนเดิม เพราะเธอรู้สึกว่าชุดนี้มันพิเศษเกินกว่าที่จะใส่ทำงาน
อีกสิบนาทีจะเลิกงานกวิตาส่งข้อความมาเตือนเธอว่าอย่าลืมนัดสำคัญในเย็นวันนี้ แล้วกวิตาจะเป็นคนเลี้ยงอาหารค่ำเอง จิรัศยาส่งสติ๊กเกอร์รูปการ์ตูนกลับไปว่าโอเค จากนั้นก็เริ่มเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวเลิกงาน ถุงของขวัญกลายเป็นสัมภาระชิ้นใหญ่ที่หญิงสาวต้องนำมันกลับไปด้วย แต่ก็เป็นสิ่งของที่เธอเต็มใจหิ้วไป เพราะถ้าสาวๆ คนอื่นเห็นเธอถือถุงของร้านคริสตัลแล้วล่ะก็ ทุกคนต้องอิจฉาแน่ๆ