บรรยากาศหลังเลิกงานในย่านธุรกิจกลางใจเมืองซึ่งแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำนั้นค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงใกล้ปลายปี ผู้คนมักจะจับจ่ายเพื่อหาซื้อของขวัญปีใหม่สำหรับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเดินทางเข้ามาในกรุงเทพมหานครช่วงเทศกาลวันหยุดยาวจากก่อนวันคริสต์มาสไปจนถึงพ้นวันขึ้นปีใหม่อีกด้วย สองสาวเดินออกจากตัวตึกตรงทางออกของอาคารบนชั้นสอง ซึ่งมีทางเดินเชื่อมไปสู่สถานีรถไฟฟ้า พวกเธอเลี้ยวซ้ายซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามทางเข้าสถานี เพื่อมุ่งหน้าไปยังสกายวอล์กที่เชื่อมตึกสำคัญต่างๆ บนถนนเพลินจิตเข้าด้วยกัน
“ตกลงไปเซ็นทรัลเวิลด์นะ” กวิตาถาม
“อื้ม เราอยากกินข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่นั่น ใครบอกจะเลี้ยงข้าวนะ ตั้งใจจะล้มทับให้เต็มที่เลย”
“ได้เลย ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว กินทุกเมนูในร้านก็ยังได้”
“โห ไม่ต้องเป็นเจ้าแม่บุญทุ่มขนาดนั้นหรอก เก็บเงินไว้ซื้อรถเถอะจ้ะ”
กวิตาหัวเราะคิกคัก แล้วสายตาก็เหลือบไปมองถนนเบื้องล่างซึ่งเป็นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เธอเห็นผู้คนและรถราขวักไขว่จนชินตา แต่ที่น่าสังเกตมากกว่าก็คือจำนวนคนที่เดินทางมากราบไหว้ขอพรในศาลของท่านท้าวมหาพรหม หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งท้าวมหาพรหมนี้เป็นเทวรูปองค์สีทองขนาดไม่ใหญ่นัก ท่านเป็นที่เคารพสักการะของบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะคนที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาลนี้มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เพราะผู้คนที่เคยมากราบไหว้และขอพรท่านนั้นมักจะเกิดผลสัมฤทธิ์ จนทำให้คนที่เคยมาแล้วนั้นอยากกลับมากราบไหว้และแก้บนอีกครั้ง
“วันนี้คนมาไหว้พระพรหมเยอะจัง ควันธูปลอยเหมือนมีไฟไหม้เลย”
จิรัศยาเห็นด้วย เสียงปี่พาทย์ของนางรำที่ทำหน้าที่รำแก้บนดังจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงพูดคุยกัน เธอจำต้องเอียงศีรษะเข้าหาเพื่อนเพื่อตอบ
“ใกล้ปีใหม่คนคงมาขอพรกันนั่นแหละ หรือไม่ก็แก้บน”
ทั้งสองไม่ได้หยุดเดิน เพราะมีเป้าหมายแล้วว่าจะไปที่ไหน จึงเดินไปคุยกันไปไม่เร่งรีบ
“จิเคยขอพรท่านมั้ย”
“เคยครั้งหนึ่ง ขอเฉยๆ นะไม่ได้บนบานอะไร”
“แล้วเรื่องอะไรเหรอ สำเร็จรึเปล่า”
จิรัศยาพยักหน้า
“จริงเหรอ เรื่องอะไร เล่าให้เราฟังหน่อยสิ”
“เรื่องงานที่ทำอยู่นี่แหละ วันที่เรามาสัมภาษณ์งานเรามาไหว้ท่านก่อน แล้วภาวนาขอพรให้ท่านช่วย เราบอกว่าถ้ามีวาสนาได้ทำงานแถวนี้จริงก็ขอให้ท่านมีเมตตาช่วยให้การสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี ทำนองมาขอกำลังใจจากท่านน่ะ”
“โห แล้วก็สำเร็จเลย ดีจังนะ ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”
สองสาวเดินพ้นสี่แยกราชประสงค์ไปแล้ว การมีทางเดินเชื่อมระหว่างตึกช่วยให้การเดินเท้ารื่นรมย์ขึ้น ทำให้ทางเข้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ดูเหมือนอยู่ไม่ไกลนัก จู่ๆ กวิตาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอกระตุกแขนของจิรัศยาแล้วหยุดเดินทันที
“แล้วนั่นล่ะ!”
“อะไร! ตกใจหมด ทำไมเหรอ”
“มีท่านท้าวมหาพรหมแล้วก็ต้องมีพระตรีมูรติ* จิรู้มั้ยว่าท่านมีความเชี่ยวชาญเรื่องอะไร”
จิรัศยาหัวเราะคิกคัก “พูดอะไรแบบนั้น เดี๋ยวท่านก็ไม่ช่วยให้สมหวังเรื่องความรักหรอก”
“อ้าว รู้นี่นา”
“ฟังเขาพูดมาน่ะ ไม่เคยไปขอด้วยตัวเองหรอก”
“งั้นก็ขอตอนนี้เลยสิ” กวิตาแกล้งยั่ว “พูดเลยๆ ตรงนี้แหละ”
“บ้าน่า พูดลอยๆ ได้ไง เสียมารยาท ถ้าจะขอก็ต้องซื้อเครื่องบูชาท่านด้วยสิ”
“อ้าว ท่านเป็นเทพ ท่านต้องได้ยินทุกเสียงของเรานั่นแหละ ไม่เชื่อก็ลองขอดู”
จิรัศยานึกสนุกตามเพื่อนไปด้วย เธอหลับตาแล้วพูด “ขอให้หนูเจอเนื้อคู่คนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตสักทีนะคะ…อย่างนี้ได้มั้ย”
“น่าจะได้ เราก็จะรอดูว่าจะมีคนหล่อ รวย จิตใจดีเข้ามาเป็นเพื่อนเขยเมื่อไร”
ทั้งสองหัวเราะพร้อมกันแล้วเริ่มเดินอีกครั้ง จากทางเดินยกระดับตรงนั้นสามารถมองลงไปเห็นลานกว้างด้านหน้าของห้าง ซึ่งในมุมหนึ่งของลาน ฝั่งติดถนนพระรามที่หนึ่งนั้นมีมณฑปสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ สี่แยกนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่มากมาย ตรงที่กวิตาบุ้ยใบ้ให้จิรัศยาดูก็เช่นเดียวกัน