งานอดิเรกอย่างหนึ่งของกัณฑ์อเนกที่เขาโปรดปรานตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศก็คือ การสะสมรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ค่อนข้างแรงหรือเหมาะที่จะเป็นรถแข่ง หากไปพัทยาเมื่อใดก็เดาได้เลยว่าเขาต้องไปเพราะเรื่องนี้ ชายหนุ่มมีเพื่อนที่เปิดบริษัทนำเข้ารถยนต์ บางคนเป็นเจ้าของธุรกิจที่สนับสนุนนักกีฬาแข่งรถและยังเป็นเจ้าของสนามแข่งขันเสียด้วย กัณฑ์อเนกชอบความเร็วมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น แต่เพราะถูกห้ามจากมารดาไว้ทุกวันนี้เขาจึงไม่ได้เป็นนักแข่งรถอย่างที่ต้องการ อย่างเดียวที่เขาขอทำเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับสิ่งที่ชอบนั่นก็คือ การสะสมรถยนต์นั่นเอง
การมาพัทยาคราวนี้ไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วนอะไร นอกจากการมาพบปะสังสรรค์กันตามประสาหนุ่มโสดแต่ไม่สดของเหล่าคุณชายผู้มาจากตระกูลมีอันจะกินทั้งหลาย และสถานที่นัดหมายกันวันนี้ก็เป็นคลับหรูแห่งหนึ่งในตัวเมืองพัทยาที่เพื่อนคนหนึ่งของกัณฑ์อเนกสั่งปิดเพื่อกลุ่มวีไอพีของเขาโดยเฉพาะ
กัณฑ์อเนกมาจอดรถที่หน้าคลับตอนเกือบทุ่ม เขาขับฟอร์ด มัสแตงสีน้ำเงินเข้มมาจากกรุงเทพฯ แวะเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดมิเนียมส่วนตัวแล้วจึงมาโผล่ที่นี่ ตลอดวันเพื่อนๆ ต่างโทรศัพท์ตามตัวเขายิก ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มส่งสัญญาณไปว่าใกล้ถึงที่นัดหมายแล้วเพื่อนสนิทของเขาจึงออกมายืนรอรับด้านนอก
“มาแล้วพระเอกของเรา…เฮ้! เพื่อน”
“หวัดดีไอ้ป้อง”
กัณฑ์อเนกเดินไปหาปกป้องด้วยรอยยิ้มกว้าง จากนั้นคนตัวสูงใหญ่ทั้งคู่ต่างก็กอดทักทายกันตามประสาเพื่อนรัก
“วันนี้คนเยอะมั้ย”
คนที่เพิ่งมาใหม่บุ้ยใบ้ไปทางประตูทางเข้าคลับซึ่งตรงนั้นมีพนักงานต้อนรับยืนรออยู่สองคน
“เยอะ ไอ้ภพเอานักแข่งรถที่เพิ่งชนะการแข่งขันมาฉลองด้วย เริ่มกรึ่มๆ แล้วล่ะ กินกันตั้งแต่ห้าโมงเย็น”
ปกป้องพูดถึงเอกภพ ซึ่งเป็นเจ้าของสนามแข่งรถในเมืองพัทยา
“ว้าว แล้วมึงล่ะเมารึยัง”
“ยัง กูรอเมาพร้อมมึงเนี่ย ไป เข้าไปข้างใน”
ปกป้องกอดคอกัณฑ์อเนกเข้าไปข้างในคลับ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก และเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการช่วยกว้านซื้อที่ดินในโครงการหาแหล่งกักเก็บน้ำดิบของบริษัทเฟรชคูล ด้วย เมื่อเดินผ่านพนักงานต้อนรับและประตูอัตโนมัติไปแล้วก็เหมือนการเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่งซึ่งแตกต่างจากข้างนอกอย่างสิ้นเชิง ไม่มีแสงสว่างตามธรรมชาติ มีเพียงแสงไฟสลัวที่ส่องเฉพาะจุด ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่มืด กัณฑ์อเนกต้องพยายามปรับสายตาของตัวเองอยู่ครู่หนึ่งจึงจะเริ่มชิน
เขาเห็นบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ โซฟาทรงกลม และผู้คนมากมาย แต่เสียงต่างหากที่ทำให้เขาเริ่มคุ้นชินกับสถานที่
“ทางนี้โว้ยกัณฑ์”
“โน่น ไอ้ภพอยู่ที่บาร์”
ปกป้องตบบ่าของกัณฑ์อเนกให้เดินตามเขาไป เอกภพยิ้มเผล่รออยู่ ในมือมีแก้วเหล้า และข้างกายก็มีหญิงสาวนุ่งสั้นนั่งอยู่ข้างๆ ด้วย เขาเป็นผู้ชายโครงร่างใหญ่และน้ำหนักเยอะ แต่ใบหน้าดูเป็นคนใจดี
“มีผู้หญิงด้วยเหรอ” กัณฑ์อเนกกระซิบถาม
“พริตตี้จากสนามแข่งตามมาฉลองด้วย”
น้ำเสียงของปกป้องบอกให้รู้ว่าไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะโดยปกติหากพวกเขานัดสังสรรค์กันเองก็จะไม่มีผู้หญิงมาร่วมวงด้วย เมื่อทั้งสองคนเดินไปถึงบาร์เอกภพก็ลุกขึ้นมากอดทักทายกัณฑ์อเนก ส่วนปกป้องนั้นได้หันไปสั่งเครื่องดื่มที่บาร์ให้เพื่อน
“วันนี้ไม่เมาไม่เลิก ฉลองนักแข่งในสังกัดกูชนะ”
“งั้นมึงควรเลิกไอ้ภพ มึงเมาแล้ว”
“บ้า…”
คนไม่เมาปฏิเสธเสียงอ่อน แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ เอกภพมีรูปร่างหนามากกว่าเพื่อนอีกสองคน คงเพราะบวมแอลกอฮอล์ตามสภาพของนักดื่มตัวยง เขายกมือเชิงไล่ผู้หญิงซึ่งเคยนั่งอยู่ข้างๆ ให้ออกไปก่อน แต่ก่อนออกไปเธอคนนั้นยังอุตส่าห์ส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้กัณฑ์อเนก ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ เขานั่งลงบนเก้าอี้แทนที่เธอแล้วเริ่มสัมภาษณ์เพื่อนเก่าสมัยเรียนด้วยกันที่ต่างประเทศ
“หมดฤดูกาลรึยัง”
“ยัง เหลืออีกสองแมตช์ แม่งนักแข่งรุ่นนี้มันโคตรเก่ง ไม่เสียแรงที่ทุ่มซื้อตัวมา”
“เฮ้ย ชมรถด้วย รถล็อตล่าสุดของมึงมันสุดยอด”
“จริงครับพี่ นั่นก็คือล็อตที่พี่ซื้อด้วยคันหนึ่งครับ” เอกภพล้อ “แล้วลองขับแบบเต็มสปีดรึยัง”
“ก็รอสนามมึงว่างอยู่เนี่ย”
“ได้ๆ เดี๋ยวให้เด็กล็อกวันว่างให้ ทีนี้คุณชายกัณฑ์จะมาลองรถใหม่ก็ได้เลยครับ เดี๋ยวผมเตรียมสนาม อาหาร เครื่องดื่ม และสาวๆ ไว้รอต้อนรับ”
“สาวๆ ไม่ต้อง! เดี๋ยวแม่กูมาฆ่ามึงด้วยอีกคน”
“อุ๊ย!”
เอกภพแกล้งสะดุ้ง ต่างก็รู้ดีว่าห้ามยุ่งกับเรื่องรักของกัณฑ์อเนกเด็ดขาด เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ชายหนุ่มจะสามารถจัดการเองได้ แต่มันคือเรื่องของธุรกิจที่มารดาจะต้องดำเนินการให้เท่านั้น หากเขาจะมีภรรยาก็ต้องเป็นคนที่สามารถทำให้มูลค่าหุ้นในตลาดของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นได้ด้วย นั่นคือเป้าหมายสำคัญ