หลังปากยอมรับออกไปแล้วกระเพาะของเขาก็ประท้วงขึ้น เมื่อมันควรจะได้รับอาหารตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วแต่พารณกลับไม่ได้ตอบสนอง ดังนั้นมันจึงส่งเสียงร้องครางออกมาให้คนทั้งรถได้ยิน ใบหน้าของชายหนุ่มร้อนวาบด้วยความอับอาย
“โห พ่อหนุ่มนี่คงยังไม่ได้กินอะไรเลยสิ เสียงท้องร้องดังดีจริงๆ”
คนขับรถหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่จิรัศยารู้สึกผิด
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็นใช่ไหมคะ”
เขาพยักหน้า “ว่าจะเดินไปหาอะไรกินที่ห้างก่อนกลับบ้าน แต่ดันเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน”
“ถึงแล้วนังหนู หอพักนี้ใช่ไหม”
ทั้งสองถูกขัดจังหวะในตอนที่รถแท็กซี่ขับเข้าไปยังลานจอดหน้าหอพักของจิรัศยา
“ใช่ค่ะ” เธอตอบแล้วควานหากระเป๋าเงิน
“เดี๋ยวผมจัดการให้เอง คุณลงไปได้เลย”
“ไม่ได้ค่ะ วันนี้ฉันเป็นฝ่ายรับมามากพอแล้ว ฉันจะจ่ายตามมิเตอร์นี้เอง ที่เหลือจากนี้คุณก็จ่าย”
“แล้วพ่อหนุ่มจะให้ลุงกลับไปสีลมอีกครั้งน่ะเหรอ”
“ใช่สิครับ ก็บ้านผมอยู่นั่น”
“เอ้า พ่อหนุ่มบอกเองว่ารถจะติดมาก แล้วลุงจะเข้าไปอีกทำไม”
“อ้าว…”
จิรัศยาหัวเราะคิก
“ขำอะไร” พารณใช้ดวงตาเล็กหยีของเขามองขวาง
“คุณติดกับดักตัวเองแล้วล่ะค่ะ…นักจัดการ” จิรัศยายื่นเงินให้คนขับแล้วหันมาบอกพารณ “ลงไปหาอะไรกินที่ร้านนั่นแล้วปล่อยลุงแท็กซี่ไปเถอะ แกแก่มากแล้ว ค่อยหาคนขับที่บ้าเลือดหน่อยมาพาคุณตะลุยกลับเข้าไปกลางใจเมืองอีกครั้งนะคะ”
“เป็นความคิดที่ดีมากนังหนู ว่าแต่ที่พ่อหนุ่มบอกว่าจะให้สองเท่ากับทิปอีกสองร้อยล่ะ…ลุงจะได้มั้ย”
พารณยังไม่ยอมทำตามความคิดของจิรัศยาทันที ชายหนุ่มยังคงเล่นตัว แต่เมื่อกระเพาะของเขาร้องเสียงดังอีกครั้งนั่นแหละจึงต้องยอมรับว่าการวางแผนครั้งนี้…เขาพลาด
“ก็ได้ ทำตามที่คุณบอก”
พารณควักเงินส่วนที่เขาสัญญาไว้ให้คนขับแท็กซี่ที่ตอนนี้ยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอ ท่าทางคืนนี้ลุงจะสามารถกลับบ้านไปนอนได้เร็วขึ้นกว่าปกติ หลังได้เงินค่ารถจากทั้งจิรัศยาและพารณ
มันเป็นหอพักสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ พารณยืนอ่านป้ายด้านหน้าแล้วรู้ทันทีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไป จิรัศยาบอกให้ชายหนุ่มเดินตามเธอไป หญิงสาวเดินนำเข้าไปในร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ที่มีสินค้าขายมากมาย แถมยังมีบริการอุ่นอาหารร้อนสำหรับคนที่ต้องการมื้อเร่งรีบอีกด้วย จิรัศยาเลือกที่นั่งซึ่งเป็นบาร์หน้ากระจกให้ จากนั้นเธอก็วางข้าวของของตัวเองลงที่เก้าอี้อีกตัวข้างเขา
“ให้ฉันเลี้ยงนะคะ”
“ไม่ครับ ผมจัดการเองได้”
“ให้ฉันจัดการเถอะค่ะ ถือว่าตอบแทนคุณที่ช่วยฉันไว้ ฉันไม่อยากให้คุณจดจำว่าฉันเป็นผู้หญิงที่คุณช่วยไว้ในคืนที่เกิดระเบิด”
ชายหนุ่มสบตากับเธอชั่วครู่แล้วพยักหน้าให้ จากนั้นจิรัศยาก็ยิ้ม
“คุณไม่กินอะไรบ้างคะ”
“ที่นี่มีอะไรกิน ผมยังไม่รู้เลย”
“อาหารแช่แข็ง” แล้วเธอก็ยักไหล่ “อาหารเด็กหอน่ะค่ะ”
“อ้อ ผมกินได้ทุกอย่าง”
“โอเค งั้นฉันจะพยายามทำให้มื้อนี้ของคุณเป็นที่น่าจดจำ”
พารณได้แต่นั่งนิ่งเฝ้ามองผู้คนที่ผ่านไปมาหน้ากระจกร้าน ส่วนจิรัศยานั้นเดินไปเดินมาระหว่างตู้แช่แข็ง ตู้เย็น และเคาน์เตอร์เก็บเงิน เขาไม่รู้เลยว่าเธอกำลังทำอะไร เพราะปกติชีวิตของเขาหากไม่ออกมาทำงานข้างนอก เขาก็สั่งรูมเซอร์วิสของอพาร์ตเมนต์สวีต เพื่อบริการอาหารสามมื้อเท่านั้นเอง
ผ่านไปราวห้านาทีหญิงสาวก็กลับมาที่โต๊ะบาร์พร้อมอาหารถาดใหญ่ เมื่อวางลงตรงหน้าของพารณแล้วชายหนุ่มก็นึกทึ่ง ไม่คิดว่าเธอจะหาอาหารเหล่านี้ได้ในร้านสะดวกซื้อ เมื่ออาหารจานหลักเป็นข้าวสวยร้อนๆ มีพะแนงไก่กับไข่ดาวอยู่ด้วย อีกถ้วยเป็นหมูทอด แถมด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งซึ่งถูกปิดฝาอยู่ จิรัศยาเลือกน้ำเปล่าให้เขาแทนน้ำอัดลม
“พอไหวไหมคะ”
“คุณทำได้ยังไง”
“ฉันไม่ได้ทำค่ะ เตาอบไฟฟ้าต่างหากที่อุ่นอาหารพวกนี้ให้คุณ อย่าเพิ่งชมตอนนี้ถ้าคุณยังไม่เห็นมาม่าต้มยำกุ้ง”