หัวใจของพารณเต้นแรงโดยไม่จำเป็นเลย ทั้งที่มันเป็นแค่การเปิดฝาถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่เมื่อเขาเปิดออกมันก็คุ้มค่ากับความตื่นเต้นนั้น
“โห…ใส่ไข่ ไส้กรอก แล้วก็ผักด้วย นี่คุณไปตลาดมาเหรอ”
จิรัศยาหัวเราะชอบใจ เธอนั่งลงข้างเขาแล้วคะยั้นคะยอ “ผักกาดหอมนั่นความจริงเอาไว้เสิร์ฟกับไส้กรอกค่ะ กินได้แล้วก่อนที่กระเพาะอาหารของคุณจะพัง”
“แล้วของคุณล่ะ”
“ตอนที่เราเจอกัน ฉันเพิ่งทานข้าวเสร็จ คุณกินเถอะค่ะ ฉันจะนั่งเป็นเพื่อน”
“อื้ม” พารณพยักหน้าแล้วมองอาหารในถาดทั้งหมด “โซเดียมเยอะเลย”
พารณหลุดปากออกไปด้วยความที่เป็นคนระวังเรื่องอาหารการกินมาตลอด ดังนั้นมื้อนี้ถือเป็นอาหารมื้อที่แปลกสำหรับเขา เมื่อพูดออกไปแล้วก็เห็นสีหน้าซีดเผือดของหญิงสาวทันทีเช่นกัน เขารีบขอโทษ
“ขอโทษครับ ผม…ไม่ควรพูดแบบนี้ทั้งที่คุณพยายาม ตะ…แต่มัน”
“เอาเถอะค่ะ ฉันเข้าใจ คุณไม่ต้องแก้ตัวหรอก ปกติคุณคงไม่กินอาหารแบบนี้”
แล้วเธอก็ยิ้มน้อยๆ นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
“งั้นผมจะกินให้หมดเพื่อเป็นการไถ่โทษ”
“อย่าคิดมากเลยค่ะ กินเท่าที่คุณจะทานได้เถอะ”
กลิ่นบะหมี่รสต้มยำกุ้งช่างยั่วยวน ชายหนุ่มเริ่มจากการชิมน้ำซุปของมันก่อนแล้วดวงตาเล็กหยีนั่นก็เบิกกว้างมากที่สุดเท่าที่มันจะทำได้
“หื้ม อร่อยกว่าที่คิด”
“ใช่ไหมล่ะ อาหารที่คุณค่าน้อยแบบนี้แหละที่มันมีความอร่อยเป็นเครื่องยั่วให้เราต้องกิน กินเลยค่ะ”
จากนั้นพารณก็ไม่มีความเกรงใจใดๆ เหลืออีก เขารับประทานอาหารกล่องอย่างเอร็ดอร่อย จนทุกอย่างเริ่มพร่องไปบ้างแล้วชายหนุ่มจึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“ความจริงคุณไม่ต้องมานั่งรอผมกินก็ได้นะ คุณขึ้นห้องไปก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้ลำบากอะไร ฉันกำลังนั่งนับสาวๆ ที่เดินผ่านกระจกแล้วมองดูคุณด้วยสายตาหวานฉ่ำอยู่”
พารณสำลักนิดหนึ่งก่อนยกขวดน้ำขึ้นมาดื่ม “คุณว่าอะไรนะ”
จิรัศยาไม่พูดซ้ำ แต่เธอให้เหตุผลใหม่ “ความจริงคุณก็ไม่จำเป็นต้องช่วยฉัน…แต่คุณก็ช่วย นี่ฉันยังไม่รู้เลยว่าถ้าคุณไม่ฉุดฉันให้ลุกขึ้นจากตรงนั้น ฉันจะเป็นยังไงในตอนนี้ ตำรวจคงต้องเป็นคนอุ้มฉันออกมาแทน”
ชายหนุ่มเริ่มยกถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมาซด
“วันนี้เป็นวันที่หนักจริงๆ”
“จริงด้วย ตั้งแต่เช้าเลยนะ”
จิรัศยาพยักหน้า “แต่เราก็จบวันได้ดีพอสมควรนะคะ”
พารณไม่เข้าใจว่าเธอต้องการสื่อถึงอะไร อาจเป็นเพราะสมองของเขาต้องการอาหารไปเลี้ยงมากกว่านี้ ชายหนุ่มจึงปล่อยให้เธอพูดไปก่อน
“ฉันชอบให้ในแต่ละวันมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้น อย่างน้อยสักเรื่องก็ยังดี คนเราควรมีชีวิตที่ดีใช่ไหมคะ”
พารณพยักหน้าเร็วๆ
“วันนี้ฉันได้ช่วยเหลือเพื่อนแล้วก็ตอบแทนคุณ”
ทั้งคู่ยิ้มให้แก่กัน คนหนึ่งอิ่มเอมในการกระทำของตน ส่วนอีกคนเริ่มอิ่มท้อง
(ติดตามต่อในเล่ม)