ทดลองอ่าน ปีศาจจิ้งจอกอย่ามาลวง บทที่ 4 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ปีศาจจิ้งจอกอย่ามาลวง บทที่ 4

ทว่าอาเจียวกลับไม่เห็นด้วย “ถึงแม้ข้าจะสูญเสียพลังปีศาจไป แต่จะให้พันธนาการเขาเอาไว้ก็มิใช่ปัญหา เจ้าฉวยจังหวะตอนข้าสกัดเขาไว้รีบหนีออกไปก่อน”

“ไม่ได้หรอก บาดแผลภายในของเจ้ายังไม่หายดี ซ้ำยังสละหางเส้นหนึ่งให้ข้าอีก พลังชีวิตยิ่งเสียหายมากกว่าเดิม ข้าทิ้งเจ้าไว้ไม่ได้หรอก ให้ข้าเป็นคนสกัดเขาเอาไว้ดีกว่า”

“นี่ยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่ ข้ามีหลายชีวิตไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่ถ้าหากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับชีวิตน้อยๆ ของเจ้า มิเท่ากับข้าให้ชีวิตเจ้าไปเสียเปล่าหรือ ให้ข้าสกัดเขาเอาไว้ดีกว่า!”

หนึ่งคนหนึ่งจิ้งจอกโน้มน้าวให้อีกฝ่ายหนีไปด้วยความร้อนใจ ต่างฝ่ายต่างแย่งกันไม่มีใครยอมใคร จิ้งเฟิงซึ่งอยู่อีกด้านจึงเสนอแนะด้วยความปรารถนาดี

“พวกเจ้าเลิกเถียงกันได้แล้ว จะให้ข้าช่วยปิดเป็นความลับให้ก็ได้ แต่ว่าต้องยอมรับเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ”

“เลิกคิดเสียเถิด!”

“เงื่อนไขอันใด”

พวกนางเอ่ยปากพูดขึ้นพร้อมกัน แต่แล้วก็ชะงักนิ่งไปทั้งคู่

อาเจียวคัดค้าน “อย่าไปเจรจาเงื่อนไขกับเขา”

เหยาเหนียงเอ่ย “ไยมิลองฟังดูก่อนเล่า”

“นักพรตเจ้าเล่ห์เพทุบาย จะต้องเป็นแผนลวงแน่ๆ”

“ข้ารักษาสัจจะยิ่ง” จิ้งเฟิงกล่าว

“เจ้าหุบปากไปเสีย!” อาเจียวข่มขู่อย่างเหี้ยมเกรียม “นักพรตอย่างพวกเจ้า ปากก็เอาแต่อ้างคุณธรรมศีลธรรม แต่ลับหลังกลับทำเรื่องชั่วช้าเสื่อมทราม เลวร้ายยิ่งกว่าปีศาจอย่างพวกเราเสียอีก มิสู้ให้ข้าควักหัวใจดำๆ ของเจ้าออกมากินดีกว่า!”

อาเจียวตัวโตขึ้นมาในชั่วพริบตา มิได้มีขนาดเท่าลูกจิ้งจอกอีกแล้ว แต่กลับตัวสูงใหญ่เท่ากับมนุษย์ มีรูปลักษณ์เหมือนอย่างจิ้งจอกตัวโตเต็มวัย ปากแหลมๆ แสยะเขี้ยวคม กรงเล็บคมกริบที่ยื่นออกมาสามารถฉีกกระชากคนได้เป็นชิ้นๆ ในทันที

หางทั้งแปดเส้นที่ทั้งยาวทั้งใหญ่แผ่สยายกลายเป็นทรงพัดอยู่ข้างหลังของมัน ดวงตาเปล่งแสงเขียววาบ พลังปีศาจรุนแรงดุดัน นี่ต่างหากถึงจะเป็นรูปโฉมอันน่าครั่นคร้ามของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอย่างแท้จริง

“เหยาเหนียง รีบหนีไปเร็วเข้า!” แม้แต่เสียงก็ยังกลายเป็นเสียงของปีศาจจิ้งจอกที่ตัวโตเต็มวัย

ทว่าเหยาเหนียงกลับตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ มองดูมันอย่างทึ่มทื่อ

“มัวแต่เหม่อลอยอันใดของเจ้า! รีบหนีสิ!”

“นางคงจะเพิ่งเคยเห็นร่างปีศาจจิ้งจอกของเจ้าเป็นครั้งแรก ดังนั้นเลยตกใจจนตัวแข็งทื่อไป” จิ้งเฟิงเอ่ยด้วยความหวังดี

อาเจียวเห็นแววตาแตกตื่นหวาดกลัวของเหยาเหนียง มันจึงแสดงสีหน้าน้อยอกน้อยใจออกมา “เหยาเหนียง…”

ยามนี้เหยาเหนียงถึงได้สติกลับคืนมา พอเห็นแววตาเจ็บปวดรวดร้าวของอาเจียวก็เร่งรีบฉีกยิ้มขอโทษขอโพย

“ขออภัยด้วย ข้าเพิ่งเคยเห็นปีศาจเป็นครั้งแรกจริงๆ เจ้าอย่าถือสาเลยนะ ข้าแค่…” แค่ตกใจกลัวจนตัวค้างแข็งไปเท่านั้น ครั้นเหลือบเห็นว่าในดวงตาของอาเจียวมีหยาดน้ำคลอเอ่อ เหยาเหนียงจึงรีบเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังทันที “ข้ามิได้รังเกียจเจ้า จริงๆ นะ”

จิ้งเฟิงเอ่ยขึ้นประโยคหนึ่งอย่างเอื่อยเฉื่อย “นั่นเพราะเจ้ายังไม่เคยเห็นที่น่ากลัวกว่านี้น่ะสิ…”

“หุบปาก!” พวกนางก่นด่าขึ้นพร้อมเพรียงกัน

อาเจียวถลึงตาใส่เขาปราดหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมาเร่งเร้า “เจ้ารีบหนีไปเสีย ถ้าชักช้า ข้าอาจจะคุ้มครองเจ้าไม่ได้นะ!”

เหยาเหนียงส่ายศีรษะ “ไม่ได้ อาเจียว พวกเขาจับตัวข้าไว้ อย่างมากก็แค่กักบริเวณข้า คงไม่ทำอันใดข้าหรอก แต่เจ้าน่ะสิ เจ้าเปิดเผยร่องรอยออกมาแล้ว ถ้าหากตกอยู่ในกำมือของพวกเขาคงจะเป็นอันตราย” นางดูออกว่าอาเจียวกำลังฝืนตัวเองอยู่

“นางพูดถูก อาเจียว สถานะของเจ้าอันตรายยิ่งกว่าเสียอีก” จิ้งเฟิงเอ่ยด้วยสีหน้าขึงขังจริงจัง

อาเจียวถลึงตาใส่เขา “ใครใช้ให้เจ้าเรียกข้าเช่นนี้ ข้าสนิทกับเจ้าหรือไร”

“นอกเรือนมีค่ายกลสยบมารของอาจารย์ข้า ซ้ำยังมีศิษย์น้องรองคอยเฝ้าอยู่ ไม่ว่าพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งออกไปนอกเรือน ก็จะกระตุ้นให้กับดักทำงาน เช่นนี้ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน”

เหยาเหนียงกับอาเจียวได้ยินแล้วต่างก็หัวใจพลันจมดิ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็แปลว่าไม่ว่าใครก็หนีออกไปไม่ได้ทั้งสิ้น แล้วคราวนี้จะทำอย่างไรดีเล่า

เหยาเหนียงจ้องมองจิ้งเฟิงซึ่งถูกอาเจียวกดตัวอยู่ใต้ร่าง พอเห็นว่าในน้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะมีความเป็นห่วงเป็นใยอยู่ไม่น้อย จึงเอ่ยถามอย่างสนใจใคร่รู้ว่า “เหตุใดเจ้าต้องบอกพวกเราด้วย” ถ้าหากเขาไม่พูด พวกนางเผลอไปกระตุ้นให้กับดักทำงาน ดึงดูดให้คนอื่นๆ เข้ามา นี่จะเป็นผลดีต่อเขามากกว่ามิใช่หรือ

หลังจากจิ้งเฟิงชำเลืองมองนางแวบหนึ่ง เขาก็หันกลับมาจดจ้องอาเจียวอีกครั้ง “เพราะว่า…นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เข้าใกล้ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางขนาดนี้…”

แล้วอย่างไร

พวกนางรอให้เขาพูดต่อไปด้วยความฉงนงุนงง ต่อมาก็เห็นใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมา

“ถ้าหากอาเจียวยอมให้ข้าลูบ ข้าก็จะช่วยเก็บความลับให้พวกเจ้า”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com