“ขอแม่นางอย่าได้ดึงดันอีกเลย ราษฎรในเมืองหลวงต่างก็รู้ว่าสุนัขดุร้ายจำนวนมากที่จวนจงหย่งกงเลี้ยงไว้มีความอดทนอย่างน่าตกใจ แม่นางยังคงหลบเลี่ยงปลายดาบนี้เสียก่อน ซ่อนตัวให้ดี การรักษาบาดแผลเป็นสิ่งสำคัญ ให้ข้าช่วยแม่นางดีหรือไม่”
เสมือนต้องการพิสูจน์วาจาที่เขาพูดตอนนี้ก็มิปาน ทันใดพลันเกิดเสียงโกลาหลขึ้นนอกหอซือเฟย
เสียงฝีเท้าสับสน เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นไม่ขาดสาย เห็นชัดว่าคนที่มามีจำนวนไม่น้อย ในนั้นยังมาพร้อมกับเสียงสุนัขเห่าหอนชวนอกสั่นขวัญแขวนที่ดังทำลายความเงียบงันยามราตรีลงไป
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นใกล้แค่เอื้อม ราวกับเป็นเหตุการณ์คับขันที่จ่อประชิดเข้ามาถึงหางคิ้ว
โดนบีบจนจวนตัวเช่นนี้แล้ว นางจะทำอย่างไรดี
ฉินชิวรู้สึกตื่นเต้นในใจลึกๆ ช่วยอีกฝ่ายคิดสถานการณ์ที่เป็นไปได้นับหลายอย่าง นึกไม่ถึงว่าการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าจะผิดไปจากความคาดหมายอีกครั้ง
มีดคมที่จ่อลำคอของเขาอยู่ถอยออกไปทันที เขาถูกนางผลักไปยังมุมผนังตรงที่ใช้วางหีบใส่ของ ฝืนกดไหล่เขาลงจะให้เขานั่งยองลงไป
“ซ่อนตัวให้ดี อยู่เงียบๆ” เสียงของนางเย็นเยือก แววตาวาวโรจน์ดุจคบไฟ
จากนั้น ฉินชิวที่นั่งยองลงก็นิ่งงันมองแม่นางหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับหน้าต่างฉลุลายน้ำแข็งร้าวที่เรียงติดกันเป็นแถบ มือทั้งสองข้างต่างถือมีดเงินประณีตยาวขนาดครึ่งแขน ไม่ต่างกับหนึ่งคนยืนเฝ้าด่าน
ตอนที่เท้าสองข้างของนางยังยืนไม่มั่นคง สุนัขดุร้ายก็กระโดดพังหน้าต่างเข้ามา
นางทะยานร่างไปข้างหน้า หมายจะฝ่าออกไปข้างนอกล่อพวกมันไปจากที่นี่ แต่ในชั่วพริบตานั้น เหนือศีรษะคล้ายมีสิ่งของอะไรตกลงมา…
กลับเป็น…ผ้า…ผ้าม่านโปร่ง!
ผ้าม่านโปร่งมาอยู่นี่ได้อย่างไร
นี่มันดูไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงนี่นา!
คงมิใช่ว่าเดิมก็ประดับอยู่บนเพดานของหอนี้อยู่แล้ว เป็นนางที่ใช้ความคิดมากเกินไปจึงไม่มีเวลาคอยสังเกตหรอกนะ
คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่จำนวนนี้นั้น…จะประดับเอาไว้มากไปหน่อยหรือไม่
ม่านโปร่งทับซ้อนเป็นชั้นๆ จนดูไม่ออกว่ามีกี่ผืนกันแน่ ทั้งไม่รู้ว่าปกคลุมในขอบเขตกว้างเท่าใด เอาเป็นว่าครอบศีรษะคลุมหน้านางจนมืดมิดไม่เห็นฟ้าดิน แยกแยะทิศทางไม่ได้
ประดุจกับดักตกใส่!
นางกระจ่างแจ้งในใจทันควัน ชูมีดเงินกำลังจะกรีดผ่าสิ่งกีดขวางชั้นแล้วชั้นเล่า ทว่ากลับได้ยินเสียงบุรุษประหลาดผู้นั้นลอยเข้าหู น้ำเสียงดั่งบทเพลงทุ้มต่ำเนิบช้าและนิ่มนวล แผ่ขยายอย่างช้าๆ ในจิตใต้สำนึก…
“ไม่เป็นไร ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ต้องสนใจ แค่ต้องนอนหลับสบายๆ ตื่นหนึ่ง เมื่อตื่นนอน ทุกอย่างจะดีเอง เชื่อคำพูดข้า ดีหรือไม่”
…ดีหรือไม่
มีอันใดไม่ดี
มีคนต้องการแบกรับแทนนาง นางไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ขอแค่หลับสนิทนิทรา จมดิ่งลงสู่ห้วงฝันดำมืด จากนั้น…จากนั้นปัญหายากเย็นทั้งหมดก็จะคลี่คลายโดยง่ายดุจมีดกรีด ไม่ทราบว่ามีอันใดไม่ดีเล่า
สุนัขดุร้ายเห่าอย่างบ้าคลั่ง ฉุดรั้งสติสัมปชัญญะของนาง สัตว์ตัวสูงใหญ่สองสามตัวที่ประสาทรับกลิ่นเฉียบไวก็โดนผ้าโปร่งชั้นแล้วชั้นเล่าปิดกั้นจนตื่นกลัวลนลานเช่นกัน นางฝืนบังคับตนเองให้ลืมตา ทว่าเปลือกตาทั้งสองก็ประดุจหนักพันชั่ง นางทำไม่สำเร็จ ลูกตากลิ้งกลอกไม่หยุดอยู่ใต้เปลือกตา
“นอนเถิด ไม่ต้องคิดเรื่องใดทั้งสิ้น ให้ข้าช่วยเจ้า” บุรุษปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มอีกครั้ง
กลีบปากของนางเผยอขึ้น เปลี่ยนความคิดในใจเป็นถ้อยคำแล้วเปล่งออกไป “ซ่อนตัวให้ดี…ท่านอ่อนแอมาก อันตราย…”