“เป็นเช่นนี้จริงหรือ” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาโน้มลงมาหานาง ปลายจมูกอยู่ห่างจากจมูกเล็กของนางไม่ถึงหนึ่งช่วงนิ้ว มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย “ความงามของคุณชายอันดับหนึ่งแห่งสำนักชิงเยี่ยนดึงดูดเจ้าไม่ได้โดยสิ้นเชิง ไม่สามารถทำให้เจ้าฝันถึงได้เลยเชียวหรือ เดิมข้านึกว่าเจ้าต้องใจข้าไม่มากก็น้อย เป็นข้าคิดไปเองฝ่ายเดียวกระนั้นหรือ”
คำถามเขาไม่ได้รับคำตอบทันที เพราะหญิงสาวกำลังตกตะลึงยิ่ง ดวงตารูปเมล็ดซิ่งเบิกกว้างขึ้น
“แม่นางอู เจ้าไม่มีใจให้ฉินชิวอย่างแท้จริง?” เขาไต่ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำอีกคราราวกับต้องการยั่วเย้าจิตวิญญาณคนพลางโน้มใบหน้าลงต่ำกว่าเก่า
บางทีอาจเป็นชั่วอึดใจ หรือชั่วครู่ หรืออาจใช้เวลานานกว่านั้น ใบหูร้อนผะผ่าวของอูลั่วซิงจึงค่อยได้ยินเสียงแหบแห้งของตนเอง…
“ข้ากับคุณชายรู้จักกันเพียงหนึ่งคืน ไหนเลยจะพูดถึงอะ…อะไรมีใจไม่มีใจ”
ดวงหน้างามของบุรุษในคลองจักษุปรากฏรอยยิ้ม ไฟโทสะสลายหายไปโดยไม่รู้ตัว “ใช่สินะ รู้จักกันเพียงเวลาน้อยนิด พวกเราก็ร่วมตกทุกข์ได้ยากด้วยกัน ข้ายังได้เห็นเรือนร่างเจ้า เจ้าก็มองดูข้าถอดอาภรณ์แต่งตัวตลอดขั้นตอน ยามนี้ยังยินยอมให้ข้าก้าวเข้ามาที่นี่ หากเจ้าไม่คิดอะไร ข้าก็อับจนหนทาง แต่หากเจ้าคิด นั่นก็คือมีใจให้ข้า เช่นนั้นไฉนจึงไม่ยอมรับอีก”
คำพูดวกวนของเขาทำให้นางรู้สึกสับสนมึนงงอยู่บ้าง
มีอะไรไม่ค่อยถูกต้อง…
นางตระหนักได้ถึงความไม่ชอบมาพากลทว่ากลับแจกแจงต้นสายปลายเหตุไม่ออก รู้สึกเพียงดวงตาของเขา นัยน์ตาดำของเขา จังหวะการพูดของเขา น้ำเสียงของเขา อีกทั้ง…อีกทั้งลมหายใจอุ่นจางที่ลอยอวลอยู่ตรงปลายจมูกนาง ชั่วระหว่างความสงบนิ่งและเคลื่อนไหวก่อตัวขึ้นเป็นตาข่ายไร้รูป ครอบทับลงมาตั้งแต่หัวจดเท้า
นางหลับตาทั้งสองด้วยสัญชาตญาณ สามารถไม่มองได้ แต่กลับมิอาจไม่ฟัง ยามนี้เองก็แว่วเสียงบุรุษนุ่มนวลแผ่วเบาดุจครวญเพลงขึ้นอีกครา…
“เจ้าโลดแล่นในยุทธภพ มีวันนี้ไม่มีพรุ่งนี้ ข้าคลุกคลีในวงการหอโคมเขียว ความรักเป็นเท็จ ความรู้สึกเป็นลวง ยากนักที่เราสองจะได้พบกัน เจ้ายินดีปกป้องข้าให้รอดพ้นจากการกัดทึ้งของสุนัขดุร้าย ทั้งยังรู้จักปวดใจแทนข้า ข้าก็ย่อมรับน้ำใจนี้เช่นกัน”
นางรู้สึกว่าริมฝีปากของเขาเลื่อนมาที่แก้มขวา ผิวของใบหน้านางครึ่งหนึ่งถูกลมหายใจเขาเป่ารดจนอุ่นร้อน
จากนั้นเขาเอ่ยถามขึ้นว่า “ฉินชิวจะปรนนิบัติอย่างดีเยี่ยม แม่นางอู…อยากลองดูหรือไม่”
อูลั่วซิงริมฝีปากร้อนผ่าว สัมผัสทั้งนุ่มและชุ่มชื้นประทับลงมา กลิ่นอายที่อาบย้อมด้วยกลิ่นจันทน์หอมยึดครองจมูกและปากของนางทั้งหมด ช่วงชิงลมหายใจเข้าออกของนางไป
นางตื่นตระหนกและลืมตาขึ้นทันใด
ใบหน้าของบุรุษอิงแอบชิดใกล้เป็นอย่างยิ่ง ในความเป็นจริงนั้นใกล้ยิ่งกว่าใกล้ สันจมูกโด่งงดงามของเขาแนบไปกับของนาง ดวงหน้างดงามเอียงเล็กน้อย ขนตางอนยาวหลุบลงดุจปีกผีเสื้อสั่นสะท้าน ใช้ริมฝีปากปิดผนึกริมฝีปากนาง
ไม่เพียงแค่ปิดผนึก ลิ้นอุ่นชื้นของเขาเมื่อสบช่องก็ชำแรกเข้ามา แทรกเข้ามาในโพรงปากของนาง และเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่ซ่อนอยู่ภายใน
อื้อ…เช่นนี้เหมือนจะ…ไม่ค่อยถูกต้อง แต่…แต่ว่า…
ทั้งหัวใจของอูลั่วซิงว้าวุ่นสับสน ดวงตาที่ลืมขึ้นอย่างตระหนกของนางราวกับถูกสะกดจิต เปลือกตาค่อยๆ ปิดลงอย่างสั่นระริก หน้าผากชาหนึบ ความรู้สึกตื้นเขิน ความรู้สึกได้รับการปลอบประโลมแผ่ขยายจากปากลิ้นและในกระพุ้งแก้ม โดยไม่รู้ตัว นางเรียนรู้ที่จะหลับตาทั้งสองข้างเหมือนอย่างบุรุษ เรียนรู้การเคลื่อนไหวกวาดเบาๆ และม้วนตวัดของลิ้นเขา พันพัวกับเขาที่บุกรุกเข้ามาในปากของนางซ้ำไปมา
เขาจูบนาง…นางตอบรับคำเชิญจากกลีบปากเขา ต้อนรับเขาที่แทรกลึกเข้ามาอย่างไร้การต่อต้าน