ทดลองอ่าน ปีศาจเย้ารัก บทที่ 7-บทที่ 8 – หน้า 10 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ปีศาจเย้ารัก บทที่ 7-บทที่ 8

นางชายตาปรายมองมาทางเขา เม้มริมฝีปากไม่รู้ควรตอบกลับอย่างไรดี ทว่านัยน์ตาของเขากำลังทอประกายแวววาว อากัปกิริยาผ่อนคลาย เขากำลังหยอกล้อนาง ขบขันนาง นางรับรู้ได้ว่าในใจเขานั้นรู้สึกถึงความเบิกบาน

เช่นนั้น…เช่นนั้นนางก็จะรู้สึกเบิกบานใจเช่นกัน ต่อให้ไม่มีวาจาจะเอื้อนเอ่ยอยู่บ้างก็ตามที

“วันนี้การแต่งกายของลั่วซิง…งดงามโดยแท้” เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แววตาจับอยู่ที่หน้าอก เอว รวมไปถึงกระโปรงยาวสีม่วงอ่อนของนางพลางมองประเมินนางขึ้นๆ ลงๆ “หญิงสาวประทินโฉมเพื่อบุรุษในดวงใจ…เป็นเรื่องที่ข้าชมชอบยิ่งนัก”

นางพูดไม่ออกอีกหน เมื่ออยู่ร่วมกับเขา มักจะมีเรื่องให้นางต้องหน้าแดงอย่างไม่อาจหักห้าม

วันนี้นางไม่สวมชุดตระเวนราตรีสีดำทั้งตัวอีก ทว่าแต่งกายเหมือนหญิงสาวทั่วไป รวบผมทั้งหมดไว้หลังศีรษะ ใช้เพียงปิ่นไม้กับหวีเล็กซี่ละเอียดอันหนึ่งยึดไว้เท่านั้น เสื้อสีเขียวคราม กระโปรงสีม่วงอ่อน และสายคาดเอวสีเหลือง นอกจากเหอเปา* สีเรียบที่ผูกไว้ตรงเอว บนร่างก็ไม่มีเครื่องประดับที่ไม่จำเป็นอีก

ใบหน้านางแม้มิได้ทาแป้งชาด แต่คิ้วทั้งสองและชายผมกลับจัดแต่งอย่างสะอาดสะอ้าน กลีบปากเคยเม้มผ่านดอกไม้สีแดงสดหรือกลีบดอกไม้มาก่อนโดยเฉพาะ อาบย้อมสีแดงละมุนอย่างเป็นธรรมชาติมาเล็กน้อย

เขาพูดไม่ผิด ในสายตาเขา นางอยากให้ตนเองเปลี่ยนไปผุดผาดเจริญตาเจริญใจมากขึ้นจริงๆ

“ขอบคุณ…” นางเอ่ยอย่างขวยอาย เห็นจู่ๆ เขาก็ไม่เอ่ยคำ เพียงหลุบตาจ้องมองนางโดยไม่กะพริบตาแม้สักครั้งก็อดสั่นสะท้านในใจไม่ได้

นางรู้จักสีหน้าเช่นนี้ของเขา นั่นบ่งบอกว่าเขาอยากจุมพิตนาง และหวังให้นางเป็นฝ่ายรุกแนบชิดเขาก่อน

ไม่ต้องครุ่นคิดมากความ นางทำตามความต้องการในใจทันที เขย่งปลายเท้าประทับกลีบปากลงบนปากเขา จุมพิตนี้จบลงอย่างรวดเร็ว

ฉินชิวที่ถูกจู่โจมกะทันหันตะลึงเล็กน้อยในทีแรก ตามด้วยริมฝีปากบางรูปร่างงามเลิศล้ำคลี่ยิ้มออกมา ราวกับจิตใจได้รับการเติมเต็มโดยสมบูรณ์

ยามนี้ทั้งสองคนเดินจูงมือกัน แขนอีกข้างหนึ่งของเขาโอบรอบพิณเจ็ดสาย มืออีกข้างหนึ่งของนางหิ้วตะกร้าที่เต็มไปด้วยของกิน ต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอื้อมมือไปโอบกอดกัน แต่เขายังคงดึงดันจะก้มหน้าลงไปหาริมฝีปากของนางอีก ประกบจูบอย่างหนักหน่วงคราหนึ่งจึงจะยอมเลิกรา

ตอนที่ก้าวลงเรือประทุนดำ อูลั่วซิงที่ถูกจูบจนศีรษะหนัก เท้าเบา สองเข่าอ่อนระทวยยังคิดอยู่แปดส่วนว่าตนเองต้องตกน้ำแน่แล้ว เคราะห์ดีที่สวรรค์คุ้มครองไม่ทำให้นางทำเรื่องขายขี้หน้าขั้นนั้นออกมา

ด้านในประทุนดำมีน้ำชาเช่นกัน ซ้ำยังเตรียมสุราชั้นดีไว้อีกไม่น้อยด้วย ของอย่างอื่นก็มีอย่างเช่นเบาะนุ่ม หมอนอิง และผ้าคลุมบางให้ความอบอุ่นเป็นต้น พร้อมสรรพทุกสิ่งอย่าง เมื่อรวมกับของว่างกับขนมแกล้มชาเต็มตะกร้า มองผาดเดียวก็รู้ว่าตั้งท่าจะพาคนไปล่องทะเลสาบ

ฉินชิวยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกแปลกใหม่และอัศจรรย์ใจ อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าแม่นางนักฆ่าที่พูดน้อยเป็นนิสัยจะมีความคิดอ่านขึ้นอย่างปุบปับ ‘ลักพาตัว’ เขาออกมาเที่ยวเล่นเช่นนี้

แต่เขาชอบอย่างยิ่ง ชอบสายตานางและชอบทุกสิ่งที่นางทุ่มเทให้เขา

หลังอูลั่วซิงทำหน้าที่คนขับรถม้า ต่อจากนั้นก็ยังทำหน้าที่คนถ่อเรืออีก นางยกไม้ถ่อเรือยาวขึ้นถ่อเรือออกจากริมทะเลสาบครั้งแล้วครั้งเล่า เรือจึงค่อยๆ ลอยล่องไปยังใจกลางทะเลสาบ ขณะที่คุณชายรูปงามที่ถูกจัดให้อยู่ด้านในประทุนดำกลับนั่งขัดสมาธิ วางพิณพาดไว้บนตัก ชั่วพริบตาถัดมา ท่วงทำนองกังวานไกลของพิณโบราณเจ็ดสายก็พรั่งพรูออกไปบนผิวทะเลสาบ

เสียงพิณช้าบ้างเร็วบ้าง ลึกบ้างตื้นบ้าง สำหรับแม่นางนักฆ่าผู้หนึ่งที่คุ้นเคยกับการพเนจรในยุทธภพ ลิ้มโลหิตบนคมดาบ นี่เป็นท่วงทำนองจากบทเพลงที่นางไม่รู้จักโดยสิ้นเชิง

ฉินชิวเห็นดังนั้น ความนัยของเพลงพิณมีเพียงผู้รู้ใจเท่านั้นที่เข้าใจได้ ยามเมื่อเรือประทุนดำแล่นออกห่างจากริมฝั่งทะเลสาบไปไกลยิ่ง อูลั่วซิงวางไม้ถ่อยาวลงราวกับวางบังเหียนม้าปล่อยให้ม้านำทาง หยุดเรือลำนี้ที่ใจกลางทะเลสาบให้ลอยล่องตามสายน้ำตามอำเภอใจ นางค้อมกายลงเข้ามาในประทุนสีดำ นั่งลงที่มุมหนึ่งในประทุนมองเขาที่กำลังดีดพิณอย่างซื่อๆ ฟังเสียงพิณอย่างซื่อๆ และปล่อยอารมณ์ไปตามจังหวะพิณสูงต่ำนั้นอย่างซื่อๆ อีก

ไม่รู้ผ่านไปนานเพียงไร บทเพลงสิ้นสุด เสียงเพลงที่ยังเหลือในอากาศยังคงก้องกังวานอยู่ในจิตใต้สำนึก บุรุษผู้สง่างามเหนือโลกีย์ยกพิณไปไว้ด้านข้าง ช้อนตาขึ้นสบประสานกับสายตานางที่จับจ้องมาพลางฉีกรอยยิ้มบางๆ อย่างรู้สึกจนใจเหลือแสน

“ถึงกับต้องมีท่าทางเช่นนี้เชียวหรือ”

…อะไรกัน ข้าทำเรื่องผิดทำนองคลองธรรมอะไรไปหรือ

อ๊ะ! ก้นบึ้งนัยน์ตาร้อนผ่าว พวงแก้มเปียกชื้น ที่แท้นางฟังเสียงพิณจนร้องไห้ ดวงตามีน้ำตาหลั่งรินออกมาสองสายโดยไม่รู้ตัว

เขายื่นแขนให้นาง ด้วยแรงขับเคลื่อนตามสัญชาตญาณ นางเอื้อมมือไปจับมือเขาโดยไม่ต้องคิด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com