ยามมองใบหน้างามของเขาที่ราวกับไม่อยากเชื่อถือถึงขีดสุดนั้น นางเม้มปากก่อนจะเอ่ยอีกว่า “ข้าขออภัย ขะ…ข้าขออภัยจริงๆ…ข้าต้องไปแล้ว ข้า…ข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านอีก”
นางอ้ำอึ้งและหยุดราวกับลังเลอีกครู่หนึ่ง
สุดท้าย…ท้ายที่สุด ยังคงทอดทิ้งเขา
นางกระโจนทะยานออกไปนอกหน้าต่าง ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมองมา
ด้านนอกหอซือเฟย ต้นไม้ไม่ไหว เงามืดไม่เคลื่อน แสงจันทร์ลาลับ แสงอาทิตย์ยังไม่สว่าง สีสันของท้องนภาราวกับเป็นความเงียบสงัดหลังกลุ่มปีศาจร้ายออกมาร่ายระบำอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังเสมือนความเงียบวังเวงก่อนพายุลูกใหญ่จะมาเยือน เทียบกับสีหน้าของคุณชายบางคนในหอประจวบเหมาะคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเป็นไปได้
ฉินชิวไม่อยากเชื่ออย่างสิ้นเชิง!
ในตอนที่แรงปรารถนาพุ่งถึงขีดสุด ขอแค่เขายืดเอวขึ้นครั้งเดียว สองร่างก็จะสอดประสานเป็นหนึ่งได้ทันที ในช่วงเวลานั้น นางสามารถผลักเขาออกไปได้ตรงๆ ซ้ำยังกลับมาควบคุมสติได้อย่างรวดเร็วประหนึ่งฟ้าผ่าไม่ทันปิดหูได้เช่นนั้น…
นางใจเหี้ยมยิ่งกว่าเขามากนัก!
ไม่…ไม่ใช่ใจเหี้ยม ทว่าเพราะนางยังลุ่มหลงรักใคร่เขาไม่มากพอ
อาจารย์กับศิษย์น้องนางยึดครองตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เกินไปในใจนาง ทุกเรื่องนางล้วนคิดคำนึงถึงพวกเขาเป็นลำดับแรก เป็นนิสัยที่ก่อตัวขึ้นจากระยะเวลาอันยาวนาน ความเคยชินเปลี่ยนเป็นเรื่องธรรมดา ส่งผลให้นางลดทอนความต้องการของตัวนางลงโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
นางนึกว่ากระทำเช่นนี้เป็นเรื่องสมเหตุสมผล เคยชินกับการถูกบังคับ ถูกสั่งการ โดยไม่ล่วงรู้ว่าตนเองก็ต้องการที่จะได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน
ตอนอาบน้ำสระผมและถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกให้นาง เขายังไม่สังเกตเห็น จวบจนเขาช้อนร่างนางที่เหนื่อยล้าจนสติเลือนรางออกมาจากถังอาบน้ำไปส่งที่เตียงแล้ว ยามเมื่อเขาช่วยนางเช็ดผมและเนื้อตัวให้แห้ง เขาถึงเหลือบเห็น บนไหล่ซ้าย ด้านข้างเอว อีกทั้งด้านในขาขวาของนางล้วนมีรอยฟกช้ำแถบใหญ่ ซอกขาด้านหนึ่งถึงขั้นทิ้งรอยแดงเป็นทางเอาไว้ แม้ไม่ถลอกได้เลือด แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าเป็นแผลจากแรงของกระบี่
หากนางหลบไม่ทัน ชีพจรลำคอย่อมปริแตกอย่างไม่ต้องสงสัย หรือต่อให้ครั้งนี้นางหลบได้ แล้วครั้งหน้าเล่า
นางได้รับบาดเจ็บ ทว่ากลับไม่รู้ว่าตนเองมีแผลติดกาย ด้วยเพราะบาดแผลเหล่านั้นในสายตานางประหนึ่งความว่างเปล่า
ยามเมื่อเสน่ห์ของบุรุษที่เขาพึ่งพิงไม่อาจรั้งตัวนางไว้ได้ ชั่วพริบตานั้น เขาแทบอยากจะไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นสำแดงวิชากับนาง ฝืนบังคับสวมความคิดเข้าสู่จิตวิญญาณ ยึดกุมและควบคุมนางโดยสมบูรณ์
บางที…เมื่อครู่เขาอาจจะทำเช่นนั้นไปแล้วจริงๆ ก็เป็นได้ เขาถูกบีบคั้นแล้วจริงๆ ทั้งยังเดือดดาลสุดขีด และกระทำการตามสัญชาตญาณทั้งสิ้น
หากมิใช่ว่าตอนหลังมีเสียงพลุระลอกที่สามดังขึ้นอีก นางก็อาจโอนอ่อนตามความต้องการเขา ดำดิ่งลงตามเขา
หากต้องการกระทำป่าเถื่อนกับนาง เขาจะบีบบังคับนางทำเรื่องทุกอย่างที่เขาอยากให้นางทำก็ได้ ทว่าเขาดันต้องการให้นางยินยอมพร้อมใจ ต้องการที่หนึ่งในสายตานาง ต้องการเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจนาง
ใบหน้าทะมึนหนักอึ้งนั่งพิงผนังเงียบเชียบอยู่พักใหญ่ ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้น สาวเท้าเนิบช้าไปที่ข้างโต๊ะ
พิณเจ็ดสายที่นางหามาให้เขาโดยเฉพาะตั้งอยู่บนโต๊ะ เขาหลุบตาลง ปลายนิ้วยาวดีดสายพิณส่งเดช
เสียงของพิณโบราณกังวานยาวและลึกล้ำ เสียงพิณถึงแม้สามารถพรรณนาความรู้สึกของคนบรรเลงพิณออกมาได้ ทว่าความนัยของทำนองพิณใครเล่าจะได้ยิน
เขาไม่ต้องการให้ผู้ใดมาเข้าใจความคิดเขา เนื้อแท้ของเขาทั้งชั่วร้ายและเห็นแก่ตัว คนที่เข้าใจเบื้องลึกของเขามีเพียงจะกลัวเขา เกลียดเขา สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงได้นางมาอยู่ข้างกาย ทุ่มความสนใจทั้งหมดมาให้เขา
ท้ายที่สุดหากมิอาจได้ครอบครองสิ่งที่ปรารถนา เช่นนั้นอย่าได้หาว่าเขาใจดำอำมหิตก็แล้วกัน