ดูเหมือนซูถิงหยวนจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาเอ่ยเน้นทีละคำว่า “ข้าคิดจะเปิดคลังสมบัติสกุลซูให้ศิษย์ระดับกลางและระดับสูงทุกคนได้เข้าไปเลือกของวิเศษหนึ่งชิ้นด้วยตนเอง จากนั้นก็จะให้พวกเขาแยกย้ายกันออกจากถ้ำพันจิ้งจอกไปฝึกฝีมือที่โลกภายนอก”
คลังสมบัติสกุลซูต่อให้เป็นศิษย์ระดับสูงก็ใช่ว่าจะเปิดให้เข้าไปง่ายๆ ข้อเสนอนี้ของซูถิงหยวนคือการล้างผลาญสมบัติตระกูลอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้อาวุโสใหญ่หานพอจะเข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายแล้ว เขาจึงเผยอริมฝีปากขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ผู้อาวุโสอีกสี่คนที่เหลือล้วนเบิกตาโตด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ ผู้อาวุโสรองซูคือคนแรกที่กระโดดออกมาหมายจะปฏิเสธ
ซูถิงหยวนคาดไว้แต่แรกว่าเหล่าศิษย์น้องจะมีท่าทีตอบสนองเช่นนี้ เขาจึงโบกมือเป็นความหมายให้ทั้งห้าอย่าเพิ่งร้อนใจไป จากนั้นก็เอ่ยชี้แจงต่อ “ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้ย่อมจะมีเหตุผลของข้า ที่นี่ไม่มีคนอื่น เวลาของข้าเหลืออีกไม่มากแล้ว ดังนั้นข้าก็จะพูดกับพวกเจ้าตอนนี้ให้ชัดเจนไปเสียเลย”
“อะไรคือเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว” ผู้อาวุโสรองซูถามด้วยเสียงที่รัวเร็ว
“เมื่อสิบห้าปีก่อนหู่หลี่กับฉิงซินพลันหายสาบสูญไป ทำให้ข้ากังวลใจเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดเมื่อราวสิบปีก่อนข้าก็ทนไม่ไหว นำคันฉ่องมายาจันทร์ม่วงออกมาใช้ หมายจะเสาะหาร่องรอยของพวกเขาให้พบ ต่อให้เป็นเพียงเบาะแสเล็กน้อยก็ยังดี ผลสุดท้ายข้าไม่ได้เห็นพวกเขา แต่กลับบังเอิญได้เห็นอนาคตของตระกูล…”
นอกจากผู้อาวุโสใหญ่หานที่รู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว ผู้อาวุโสอีกสี่คนที่เหลือล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“ข้ามองเห็นถ้ำพันจิ้งจอกตลอดจนดินแดนพันเมฆาทั้งหมดมีแต่ภูเขาซากศพกับทะเลโลหิต ขณะเดียวกันก็เห็นหมอกทึบที่ดูเหมือนจะเปี่ยมด้วยพลังชีวิตและความหวัง ข้าพยายามจะอ่านลิขิตฟ้านั้นให้ทะลุปรุโปร่ง ดังนั้นเมื่อห้าปีก่อนข้าจึงใช้งานคันฉ่องมายาจันทร์ม่วงอีกครั้ง คราวนี้ข้าเห็นเพียงรางๆ ว่ามีวงแหวนอยู่หนึ่งวงกับหมู่ดาวที่พร่าเลือนอีกเจ็ดดวง พออยากจะมองให้ชัดยิ่งกว่านี้ ข้าก็ถูกอานุภาพของคันฉ่องสะท้อนกลับมาเล่นงาน…เดิมทีภาพเหล่านั้นหาใช่สิ่งที่ข้าพึงจะได้เห็น
ด้วยเหตุนี้ข้าจึงเสียอายุขัยไปเกือบทั้งหมด ตอนนี้เพียงฝืนประคองเอาไว้เท่านั้น อย่างมากอีกสามถึงห้าปีข้าก็จะต้องละสังขารแล้ว” ถ้อยคำอันเรียบสงบของซูถิงหยวนเฉกเช่นอสนีบาตหนึ่งสายที่ทำให้ผู้อาวุโสสี่คนซึ่งเพิ่งจะได้ฟังเรื่องนี้ใจสะท้านจนสีหน้าเผือดขาว
ซูถิงหยวนไม่เพียงดำรงตำแหน่งประมุข หากยังเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูล เมื่อใดที่เขาล้มลง ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าตระกูลฝ่ายธรรมะได้ยินข่าวแล้วจะทำอะไร ลำพังบรรดาตระกูลฝ่ายอธรรมที่จ้องจะตะครุบของวิเศษ เคล็ดวิชา และฐานที่มั่นของสกุลซู นั่นก็เพียงพอจะทำให้ถ้ำพันจิ้งจอกต้องเคราะห์ร้ายมหันต์แล้ว!
ไม่ว่ายามปกติผู้อาวุโสเหล่านี้จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนต้องยอมรับว่าการคงอยู่ของซูถิงหยวนนั้นสำคัญยิ่งยวดต่อความปลอดภัยของทุกคนในสกุลซู
ผู้อาวุโสทั้งสี่ต่างนิ่งงันอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าควรตอบสนองเช่นไร