ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 4 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 4

นางผลักประตูเดินเข้าไป

ผ้าม่านในห้องด้านในสั่นไหว เสิ่นจือซูเดินออกมา หัวคิ้วขมวดมุ่น “ไม่เชิญไม่ถามก็เข้ามาห้องพักผู้อื่น มารยาทอยู่ที่ใด” เขาพูดพลางเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ในห้อง ชายเสื้อคลุมผ้าดิ้นปิดคลุมลงมาที่หัวเข่า ขายาวงออยู่ครึ่งหนึ่ง ท่าทางกลัดกลุ้ม

เสิ่นจือหลี่หันกลับไปปิดประตู จากนั้นก็หันกลับมามองจ้องเขา “เรื่องที่ให้ท่านไปเป็นเจ้าเมืองชิงโจว เป็นความคิดของท่านพ่อหรือ”

เสิ่นจือซูชายตามองนางแวบหนึ่ง แค่นเสียงเย็นชาออกมาสองคำ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

เสิ่นจือหลี่ถามต่อ “ท่านไม่เต็มใจไป”

โครม!

ที่ทับกระดาษบนโต๊ะถูกเขากวาดร่วงลงกับพื้น

นางตกใจ ถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว

เสิ่นจือซูลุกขึ้นยืน พูดด้วยความโมโห “จะไม่เต็มใจไปได้อย่างไร ตอนยังอยู่เมืองชงโจว ข้าก็ทูลองค์รัชทายาทแล้ว ถ้าไม่วางใจเหล่าขุนนางในกองบัญชาการอันฝู่ที่เฉาอันเป่ยลู่กลุ่มนั้น ก็ให้ข้าไปชิงโจวจับตาดูเส้นทางชายแดนทางเหนือได้!” เขายกเท้าถีบที่ทับกระดาษนั่นอีกครั้ง “ใครเลยจะคาดคิด ไม่รอข้ากลับเมืองหลวงไปกราบทูลฝ่าบาทด้วยตนเอง ท่านพ่อก็เป็นฝ่ายไปทูลขอให้ข้าไปรับตำแหน่งนอกเมืองหลวง ไปชิงโจว!”

เสิ่นจือหลี่เลิกคิ้ว รอเขาพูดต่อ

เขาตวัดชายเสื้อคลุมหมุนตัวกลับมา ยังคงมีท่าทางโกรธมาก “เสิ่นไท่ฟู่ทำเพื่อบ้านเมือง เพื่ออาณาประชาราษฎร์ เพื่อราชสำนัก เพื่อฝ่าบาท ยินยอมให้บุตรชายเพียงคนเดียวของตนไปชายแดนทางเหนืออุทิศตนรับใช้ราชสำนัก…แม้แต่เรื่องนี้ก็เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เสิ่นไท่ฟู่!”

เสิ่นจือหลี่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ก้มลงเก็บที่ทับกระดาษขึ้นมา “เพื่อเรื่องเล็กน้อยเท่านี้ก็คู่ควรให้ท่านโกรธท่านพ่อด้วยหรือ”

นางเห็นเขายังเดือดดาลอยู่มาก ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ “ได้ยินว่าวันนี้ท่านกลับเมืองหลวงมา ข้ายังตั้งใจไปหอสุราอี๋ไท่ซื้อของว่างหลายอย่างที่ท่านชอบกินกลับมา ประเดี๋ยวท่านก็ไปที่ห้องครัวดูเอาเถิด”

เสิ่นจือซูหันหน้ามา เห็นนางจะเดินออกไปข้างนอก ทั้งฟังจากน้ำเสียงนางไม่คล้ายจะรั้งอยู่ที่จวน ก็อดย่นหัวคิ้วไม่ได้ “นี่เจ้าคิดจะไปที่ใดอีก”

นางชะงักเล็กน้อย ก่อนบอกเสียงเบา “ไปจวนท่านกู่”

เขาได้ยินแล้วสีหน้าพลันแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ลังเลอยู่ชั่วขณะแล้วจึงเดินเข้าไปหา พูดเสียงต่ำอยู่ด้านหลังศีรษะนาง “ฮูหยินของท่านกู่เพิ่งเสียไปได้ไม่นาน เจ้าไปในเวลานี้ไม่ถูกทำนองคลองธรรมเกินไปแล้ว”

เสิ่นจือหลี่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงหันหน้ามา หางตาแดงเล็กน้อย “อะไรคือไม่ถูกทำนองคลองธรรม”

เสิ่นจือซูร้อนใจขึ้นมา “ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว เหตุใดเจ้ายังมีความคิดเช่นนี้ ถ้าให้ท่านพ่อรู้เข้า เจ้า…”

นางยิ้มหยัน “ถ้าท่านไม่อยากให้ข้าอยู่ดีก็เชิญไปบอกท่านพ่อท่านแม่ได้เลย” พูดจบนางก็เดินไปผลักประตูจะจากไป

เขาคว้าแขนนางไว้ กล่าวเสียงต่ำ “เสิ่นจือหลี่ ที่ข้าทำเช่นนี้ไยมิใช่เพราะหวังดีต่อเจ้า!”

นางสะบัดเขาออกอย่างแรง “ท่านวางใจได้ ข้าไปครั้งนี้ก็แค่ช่วยผู้อื่นยื่นเทียบให้ท่านกู่เท่านั้น ไม่ได้จะไปทำเรื่องที่ทำให้คนดูถูกเหล่านั้น!”

 

ทางใต้ของเมือง แถบตรอกซานเหมินส่วนใหญ่เป็นจวนที่พักอาศัยของขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักและเชื้อพระวงศ์ จวนโอ่อ่ากำแพงสูงประตูแดงตั้งอยู่ติดกัน มีเพียงจวนสกุลกู่ที่ค่อนข้างเรียบง่าย หากไม่มีแผ่นป้ายพระราชทานสีแดงแขวนไว้สูงบนหน้าประตูที่นอกลานเรือน คงไม่มีใครเดาได้ว่าที่นี่คือจวนของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย

สายลมบางเบาพัดผ่านทางเดิน ถนนมืดสลัวเงียบวิเวก ปุยเมฆบนท้องฟ้านุ่มนวลดุจใยไหมคล้ายจะร่วงหล่นลงมา

เสิ่นจือหลี่เดินตามหลังบ่าวรับใช้ของจวนสกุลกู่ไปช้าๆ ใจก็คล้ายปุยเมฆอ่อนนุ่มบนท้องฟ้าเช่นนั้น นุ่มนิ่มรวมอยู่ด้วยกันเป็นก้อน ล่องลอยเบาๆ ขึ้นลงซ้ายขวาอยู่ในช่องอก

“เดิมทีหลายวันมานี้นายท่านไม่พบแขกข้างนอก แต่เมื่อครู่เห็นเทียบนามของใต้เท้าเสิ่นก็ผ่อนปรนให้เป็นกรณีพิเศษ” บ่าวรับใช้เดินพลางกล่าวกับนาง น้ำเสียงเจือรอยยิ้ม

เสิ่นจือหลี่หลุบตามองเศษหญ้าที่ใต้ฝ่าเท้า “หลายวันมานี้จวี่เหรินสตรีที่มายื่นเทียบขอเข้าเยี่ยมคารวะที่จวนคงมีไม่น้อยเลยกระมัง”

“หรือมิใช่เล่าขอรับ!” บ่าวรับใช้เลิกคิ้ว “นับแต่มีราชโองการแต่งตั้งนายท่านเป็นขุนนางผู้คุมสอบลงมา ธรณีประตูของจวนก็แทบจะถูกคนเหยียบราบแล้ว”

นางยิ้มๆ “ด้วยนิสัยนายท่านของพวกเจ้า ปิดประตูไม่รับแขกก็ชอบด้วยเหตุผล”

บ่าวรับใช้เดินวนโค้งระเบียงทางเดินไปอย่างชื่นมื่น ชี้ไปที่ห้องโถงเล็กที่ด้านหน้า “เมื่อครู่นายท่านวาดภาพอยู่ที่โถงบุปผา ใต้เท้าเสิ่นเข้าไปเองเถิด บ่าวจะไปจัดเตรียมน้ำชามาให้ใต้เท้า”

เสิ่นจือหลี่เงยหน้ามองไป กระเบื้องสีเขียวบนหลังคาห้องโถงสะท้อนแสงอาทิตย์ แสบร้อนดวงตาเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลง เดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วหันกลับมาเรียกคนผู้นั้นไว้ “ข้ามาที่นี่เพื่อจะพูดกับท่านกู่ไม่กี่คำ น้ำชาก็ไม่ต้องแล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มี...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

บทที่ 5 เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงาน...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 9-10

บทที่ 9 หวังอวี้หล่างไม่นึกฝันว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายรองที่นี่ เมื่อครู่นี้เขายังแสดงกิริยาเสียมารยาทอีกด้วย ในเวลานั้นจ...

community.jamsai.com