นางคล้ายถูกสาดด้วยน้ำร้อนถังหนึ่ง จากนั้นก็ถูกโยนลงไปในก้นเหวลึกหมื่นจั้งอันหนาวเหน็บ ทั่วร่างกายทั้งบนล่างรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่กลับถูกแช่แข็งไว้จนไม่อาจขยับตัวได้เลย
คนผู้นี้ ใบหน้าดวงนี้…
เหตุใดจึงเป็นเขา
เหตุใดจึงเป็นเขา!
ตาข้างขวาของเขา…
นางกัดริมฝีปากแน่น มือที่ยันพื้นกำเป็นหมัดโดยไม่รู้ตัว
หาใช่คนที่มีดวงตาข้างเดียวไม่ เพียงแต่เขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของตนเอง
ผู้คนในใต้หล้าต่างรู้กันทั่วว่าองค์รัชทายาทเกิดมาก็มีนัยน์ตาสองสี ดวงตาซ้ายสืบทอดสีน้ำตาลมาจากผิงอ๋อง ดวงตาขวารับสีดำมาจากฮ่องเต้ นับแต่วันที่ถือกำเนิดมาก็ถูกมองว่าเป็นทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งใหญ่ของคนทั้งสองแต่เพียงผู้เดียว
นางเคยคาดเดาถึงฐานะของเขามานับครั้งไม่ถ้วน แต่กลับไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าเขาจะเป็นรัชทายาทของแว่นแคว้น
นางเคยคิดถึงภาพการได้พบเขาอีกครั้งอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่กลับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นที่สนามสอบหน้าพระที่นั่งของการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่สตรี
ตอนนี้ เวลานี้ นางเพียงรู้สึกมือไม้อ่อนทำอะไรไม่ถูกอย่างที่สุด
เรื่องที่ก่อนหน้านี้ตนคิดการวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ในพริบตาที่ได้เห็นเขาก็พังทลายลงมาทั้งหมด
นางเฝ้าปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะได้พบเขาอีกครั้ง
แต่หลังจากนางได้รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาอยู่ที่ใดแล้ว กลับยิ่งรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา
เดิมคิดว่าถ้าวันหนึ่งสามารถเข้าเป็นขุนนางในราชสำนัก นางก็จะปีนป่ายขึ้นไปผูกสัมพันธ์กับเขาได้ ทว่าเวลานี้เมื่อพบเจอจริงๆ เกรงว่าชั่วชีวิตของนางคงไม่อาจปีนป่ายขึ้นไปผูกสัมพันธ์กับเขาได้แล้ว
วันนั้นบนถนนหลวงนอกเมืองชงโจว เขาถามชื่อของนางแล้วชัดๆ เห็นอยู่ว่าเขารู้ว่านางเป็นใคร เมื่อพูดเช่นนี้ หลังจากนั้นเรื่องที่เขาเจาะจงให้นางเป็นเจี้ยหยวน แสดงว่าเขารู้อยู่แก่ใจดีว่านางเป็นใคร แต่เขากลับยังคงเจตนาที่จะทำให้นางตกเป็นเป้าหมายที่ผู้คนโจมตี
ขณะคิดสองมือของนางที่ทาบอยู่กับพื้นอิฐของตำหนักก็อดจะกำหมัดเข้าหากันแน่นกว่าเดิมไม่ได้
กลัวก็เพียงว่าในใจของเขาจะไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อนางแล้ว เข้าใจว่านางเป็นสตรีที่จะทำทุกอย่างไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ตนเองได้เป็นจุดสนใจของผู้คนเท่านั้น
สายตาของอิงกว่าค่อยๆ กวาดผ่านทุกคนที่นั่งอยู่ เมื่อเห็นนางแล้ว เขาก็ละสายตาผ่านนางไป มองไปยังเจ้าหน้าที่กรมพิธีการที่อยู่ด้านข้าง แล้วพยักหน้าน้อยๆ
มีบัณฑิตกองอาลักษณ์เดินขึ้นมาจากด้านข้างของตำหนัก หยิบหัวข้อสอบออกมาจากบนโต๊ะด้านใน สองมือประคองส่งให้เจ้าหน้าที่กรมพิธีการที่รออยู่
เจ้าหน้าที่กรมพิธีการคลี่กระดาษหัวข้อที่จะใช้ในการสอบออก จากนั้นอ่านเสียงสูง…
“วิเคราะห์หัวข้อที่ว่าเป็นกษัตริย์ยากเป็นขุนนางไม่ง่าย”
เสียงทุ้มหนักทำให้เมิ่งถิงฮุยสะดุ้งเฮือกไปทั้งร่าง นางพลันได้สติกลับคืนมา
ในสมองยังคงมีแต่ความว่างเปล่า นางคุกเข่ารับกระดาษข้อสอบขลิบสีทองที่เจ้าหน้าที่กรมพิธีการแจกจ่ายให้
นางนั่งประจำที่ด้วยร่างที่แข็งทื่อ ยังคงคิดถึงเรื่องเขาอยู่
กลับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขาอีก
เหล่าสตรีที่อยู่รอบข้างต่างเริ่มจรดพู่กันเขียนอย่างรีบร้อน เสียงปลายพู่กันสัมผัสกระดาษดังแว่วมาเข้าหูนาง นางจึงหลุบตาลง มองกระดาษข้อสอบที่อยู่ในมือตน
มีเสียงเจ้าหน้าที่กรมพิธีการดังขึ้นมาที่ข้างหูอีกครั้ง “…ห้ามเปลี่ยนหัวข้อ ตะวันตกดินต้องส่งกระดาษข้อสอบ”
ครานี้นางจึงได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์
นางรวบชายแขนเสื้อ หยิบพู่กันขึ้นมาจุ่มหมึก จรดพู่กันลงบนกระดาษข้อสอบ…
‘เป็นกษัตริย์ยาก เป็นขุนนางยิ่งไม่ง่าย’