บทที่ 27-2
วันรุ่งขึ้นหลังออกจากวังซีหวา เดิมทีเมิ่งถิงฮุยไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ใครจะรู้ว่าผ่านไปไม่กี่วันคำพูดของเขาที่พูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจได้กลายเป็นคำทำนายที่เป็นจริงไปเสียแล้ว
ก่อนการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ของกรมพิธีการ จวนสกุลเมิ่งได้รับเทียบขอเข้าเยี่ยมคำนับที่บรรดาจวี่เหรินส่งมาติดต่อกัน
เดิมทีเมิ่งถิงฮุยเข้าใจว่าคนที่ส่งเทียบมาจวนสกุลเมิ่งน่าจะเป็นจวี่เหรินสตรีเหล่านั้น ใครเลยจะคิดว่าในบรรดาเทียบเหล่านี้กว่าครึ่งถึงกับเป็นบรรดาผู้โดดเด่นในการสอบระดับมณฑลจากทุกเส้นทาง ยิ่งไม่ขาดแคลนคนหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถ
แม้จะบอกว่าตอนนั้นก่อนสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ของกรมพิธีการนางก็เคยฉกฉวยโอกาสเช่นนี้ แต่จะอย่างไรก็ไม่ได้ไปยื่นเทียบขอให้ชี้ทางที่จวนของขุนนางผู้ควบคุมการสอบหลักหรือรองโดยตรง เวลานี้นางกำลังจะเป็นขุนนางผู้ควบคุมการสอบ ย่อมไม่อาจรับเทียบขอเข้าเยี่ยมคำนับเหล่านี้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงสั่งบ่าวรับใช้ในจวนให้ปฏิเสธเทียบขอเข้าพบไปทั้งหมด
แต่ผ่านไปไม่ถึงสองวันเฉาจิงถึงกับมาพบนางที่บ้านด้วยตนเอง เพียงเพื่อจะเสนอแนะจวี่เหรินผู้หนึ่งซึ่งมีนามว่าอิ่นชิง ฟังจากที่เฉาจิงกล่าว อิ่นชิงผู้นี้ก็มาจากเฉาอันเป่ยลู่ เกือบสองปีมานี้ความเรียงของเขาโด่งดังไปทั่วเฉาอันทั้งเส้นทาง หลังจากมาเมืองหลวงครั้งนี้เขาเคยไปเยี่ยมคารวะเฉาจิง ระหว่างพูดคุยได้แสดงความตั้งใจที่จะเข้ามาใกล้ชิดพึ่งพากลุ่มเมิ่ง
เมิ่งถิงฮุยเข้าใจความหมายของเฉาจิง
บัณฑิตในใต้หล้าเข้ามาใกล้ชิดพึ่งพากลุ่มเมิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี และอิ่นชิงผู้นี้ยิ่งมีแนวโน้มว่าวันหน้าจะสอบผ่านเป็นจิ้นซื่อได้เป็นขุนนางในราชสำนัก คิดว่าในใจของเฉาจิงคงต้องการจะดึงจวี่เหรินเช่นอิ่นชิงผู้นี้มาเป็นพวกเสียแต่เนิ่นๆ แย่งชิงโอกาสที่ดีไว้ก่อนใครในการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ในครั้งนี้
นางรู้ดีว่าการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ในครั้งนี้แฝงไว้ด้วยความหมายอย่างไร จึงไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธในทันที เพียงรับเทียบนั้นไว้ เออออกับเฉาจิงไปสองสามคำ วันถัดมาก็ลืมเรื่องคนผู้นี้ไปจนหมดสิ้น
การสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ครั้งแรกหลังจากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ทำให้เมืองหลวงคึกคักขึ้นมาอย่างแท้จริง และเนื่องจากการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ของกรมพิธีการในครั้งนี้ สวีถิงรองเสนาบดีขุนนางอาวุโสของกลุ่มตะวันตกกับเมิ่งถิงฮุยที่ความสามารถเพิ่งโผล่คมออกมาให้เห็นร่วมกันเป็นขุนนางผู้ควบคุมการสอบ เหล่าบัณฑิตในใต้หล้าจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ ทุกคนทั้งนอกและในราชสำนักต่างเฝ้าจับตามองการสอบของกรมพิธีการภายใต้การร่วมกันเป็นขุนนางผู้ควบคุมการสอบของสองคนนี้ในครั้งนี้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นไร
คนนอกต่างบอกว่านี่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างขุนนางอาวุโสกับกลุ่มใหม่ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ สวีถิงกับเมิ่งถิงฮุยต่างจะต้องคัดเลือกผู้มีความสามารถเพื่อกลุ่มของตนในการสอบของกรมพิธีการอย่างแน่นอน หลังจากปิดสนามความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองก็ยิ่งพอแตะก็พร้อมจะระเบิด
ใครเลยจะคาดคิด การสอบของกรมพิธีการสามวันเสร็จสิ้นลง ปิดสนามตัดสินผลการสอบสิบวัน ในสนามสอบของกรมพิธีการถึงกับไม่มีข่าวลือเกี่ยวกับความขัดแย้งของใต้เท้าสวีและใต้เท้าเมิ่งแพร่งพรายออกมาแม้แต่น้อย นี่กลับทำให้กลุ่มคนในเมืองหลวงที่ชะเง้อคอรอชมเรื่องสนุกล้วนผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง