LOVE
ทดลองอ่าน OOC I พลิกรักสลับบท บทที่ 4-บทที่ 5
“ทำไมถึงมาที่นี่”
ทันทีที่รู้สึกตัวตื่น นิสรีนซึ่งเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า ความเครียด ผสมกับฤทธิ์ของไวน์สองแก้ว…และความรู้สึกปลอดภัยยามอยู่ใกล้อัตรคุปต์จนกล้าปล่อยตัวตามสัญชาตญาณซึ่งบ่มเพาะมาสิบปี ก็ร้องถามเสียงดัง ร่างที่เพิ่งถูกวางลงบนโซฟาตัวใหญ่ไปไม่นานนักก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง กวาดมองสถานที่อันคุ้นเคยด้วยแววตาสับสน
“นีซ อย่าทำเหมือนพี่มอมเหล้าแล้วหลอกพาเธอมาทำมิดีมิร้ายสิ” อัตรคุปต์ดุอย่างทนไม่ได้กับท่าทีแบบนั้น “นี่มันก็บ้านเราเอง ไม่ใช่ที่อื่นสักหน่อย”
มือใหญ่เริ่มปลดกระดุมเม็ดบนและพับแขนเสื้อขึ้นไปจนถึงข้อศอก ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าตึงเครียดของคนรัก ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบสามเซนติเมตรเดินเข้าไปทิ้งตัวลงข้างๆ หญิงสาว รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยที่นิสรีนไม่รังเกียจกันถึงขั้นสะดุ้งตกใจจนโอเวอร์อะไร
“พี่คุปต์บอกจะพานีซกลับบ้าน”
หลังกินข้าวเสร็จชายหนุ่มให้สัญญากับเธอแบบนั้น นิสรีนที่รู้ดีว่าเขาเป็นคนรักษาคำพูดจึงคลายใจจนเผลอหลับไป
“นี่ก็บ้าน” เขาย้ำ ร่างสูงเท้าแขนข้างหนึ่งกับพนักโซฟา โน้มตัวเข้าหาคนรัก นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายยามประกาศ “บ้านของเรา”
‘บ้านของเรา’
อีกแล้ว…
ปลายเล็บที่เพิ่งผ่านการตกแต่งมาวันนี้จิกอุ้งมือจนเป็นรอย ริมฝีปากถูกขบแน่น
…คำที่เธอเคยอยากได้ยินจากปากอัตรคุปต์ มาในวันที่สายเกินไปอีกแล้ว
นางเอกคนดังละสายตาจากอดีตคู่หมั้น ดวงตาสวยเฉี่ยวที่เคลือบคลอด้วยม่านน้ำตาบางเบากวาดมองไปทั่วเพนต์เฮ้าส์ ทั้งห้องนั่งเล่นที่พวกเธอกำลังนั่งอยู่ โต๊ะอาหารขนาดหกที่นั่งติดผนังกระจกซึ่งมองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน ไกลออกไปหน่อยคือทางไปห้องครัว มุมสุดฝั่งซ้ายคือบันไดขึ้นสู่ชั้นบนของเพนต์เฮ้าส์ราคาเกือบสองร้อยล้านของโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จาก MA Property
สถานที่ที่ตลอดสามปีมานี้เธอใช้ชีวิตอยู่มากกว่าบ้านของตัวเอง
“ปกติ…พี่คุปต์เรียกมันว่า ‘บ้านพี่’ ไม่ใช่เหรอ”
นิสรีนย้อนถามทั้งที่ไม่ยอมสบตาเขา จึงไม่เห็นแววตารู้สึกผิดของชายหนุ่ม ริมฝีปากหนาเม้มแน่นก่อนจะค่อยๆ ตอบออกไป
“พี่ก็ไม่เคยบอกว่ามันไม่ใช่บ้านของนีซ”
“เหรอคะ” เธอแค่นหัวเราะ ดวงตาซึ่งหลบเลี่ยงเขามาครู่หนึ่งหันกลับไปสบตากัน นิสรีนมองเห็นความรู้สึกผิดในหน่วยตาคม…เช่นเดียวกับที่อัตรคุปต์มองเห็นความเจ็บปวดในดวงตาสีน้ำตาลวาวรื้น “แต่ปกติ…พี่ชอบไล่นีซกลับบ้านนี่ นั่นไม่ได้หมายความว่า…ที่นี่ไม่ใช่บ้านนีซหรอกเหรอ”
“…นีซ”
หัวใจของอัตรคุปต์หดเกร็งด้วยความรู้สึกผิดระคนเจ็บปวด
รู้…ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพฤติกรรมตลอดสิบปีที่ผ่านมาของเขาทำให้คนรักต้องเสียใจจนกลายเป็นการสร้างบาดแผลบนหัวใจดวงน้อย แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน…อัตรคุปต์ก็ไม่เคยทลายกำแพงที่ขวางกั้นพวกเขาลงได้เลย
นั่นคงเพราะหัวใจดวงนี้ของเขา…ถูกลิขิตมาให้ใช้มันเพื่อรักผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่นิสรีน
แต่ไม่ใช่วันนี้และตอนนี้…ที่อัตรคุปต์พร้อมจะควบคุมและเลือกทุกสิ่งด้วยตัวเอง
ไม่ใช่เพราะปลายนิ้วของใครบังคับให้ต้องเป็น!
รองประธานบริหารแห่ง MA Property เม้มริมฝีปาก สายตาทอดมองสีหน้าเจ็บร้าวของคนรักด้วยความปวดใจ ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากโซฟา พระเอกซึ่งถูกออกแบบมาให้เย่อหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีค่อยๆ คุกเข่าสองข้างลงบนพื้นพรมโดยที่ยังไม่ละสายตาจากหญิงสาว เขาเลยได้เห็น…ดวงตาซึ่งเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจของเธอ
“พี่คุปต์! ทำอะไรน่ะ! ลุกขึ้นมา…”
น้ำเสียงของนิสรีนขาดห้วงเมื่อคนที่คุกเข่าลงตรงหน้าเธอโน้มตัวเข้ามาใกล้ ก่อนใช้สองมือโอบรัดรอบเอวคอด วงหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าแนบลงกับหน้าท้องแบนราบ น้ำเสียงซึ่งเคยแข็งกระด้างเย็นชาคล้ายจะสั่นเครือ
“ถ้าพี่ขอโอกาส…นีซจะให้พี่ได้มั้ย” สองมือหนากระชับร่างที่สวมกอดอยู่ให้แน่นขึ้น ดวงหน้าหล่อเหลาช้อนขึ้นมองเธอจากด้านล่าง มันคือสัญญาณบอกให้นิสรีนรับรู้…
…ว่าในความสัมพันธ์ครั้งนี้ พระเอกผู้เย่อหยิ่งถือดีอย่างเขาพร้อมจะตกเป็นรองอยู่ใต้อาณัติของเธอ
นิสรีนเฝ้ารักอัตรคุปต์มาสิบปี
สิ่งที่นางร้ายนิสัยเสียอย่างเธอตั้งใจรอมาตลอดคือวันหนึ่งที่ดวงตาคู่นั้นจะหันกลับมาเห็นเธออยู่ในสายตามากกว่าการเป็นคู่รักจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ วันที่อัตรคุปต์จะเต็มใจทำสิ่งต่างๆ ให้เธอด้วยความรักไม่ใช่เพราะหน้าที่ วันที่เขาจะมองเธอด้วยสายตาเจือแววรักใคร่อ่อนโยนบ้างสักเสี้ยวก็ยังดี
และมันก็มาถึง…ในวันที่เธอตัดสินใจเลิกรอแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา…มันเป็นตลกร้ายจริงๆ ด้วย
เพราะอัตรคุปต์ไม่ยอมปล่อยและนิสรีนในตอนนี้ก็เหนื่อยล้าเกินกว่าจะผลักไส หญิงสาวจึงปล่อยให้เขากอดซุกซบอยู่ตรงหน้าท้องของเธอ ซ้ำมือไม่รักดียังทรยศสมองไปลูบไล้กลุ่มผมหนานุ่มของเขาอย่างที่เคยอยากสัมผัสมาตลอดนอกจากตอนอยู่บนเตียงด้วยกัน
รอจนอารมณ์ของทั้งคู่เริ่มสงบลง นางเอกสาวก็ถอนหายใจยาว ดวงตาที่แฝงแววบอบช้ำหลุบมองคนที่ไม่ได้ถูกลิขิตให้เป็นของเธอ แล้วค่อยๆ เอ่ยขึ้นอย่างมีสติ
“พี่คุปต์จะทำแบบนี้ไปทำไม ตลอดมาพี่ก็ไม่ได้…รักหรือแคร์นีซสักเท่าไหร่”
“ใครว่าพี่ไม่รัก ไม่แคร์นีซ”
ชายหนุ่มที่หลับตาซุกซบใบหน้าอยู่กับหน้าท้องแบนราบลืมตาขึ้นมาเถียง วงหน้าหล่อเหลาแหงนขึ้นสบตาคนรัก อธิบายเสียงแข็งหนักแน่น
“พี่รักนีซมาตลอดนั่นแหละ”
“ไม่จริง” นิสรีนเถียง หัวใจเผลอเต้นระรัวไปกับคำบอกรักนั้นจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน หญิงสาวพยายามผลักไสคนที่กอดกันไว้ออก ทว่าอัตรคุปต์ก็ยังเป็นอัตรคุปต์
ถ้าเขาไม่อยากปล่อย…อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด
“พี่คุปต์ ปล่อยนีซแล้วลุกขึ้นมาคุยกันดีๆ”
นางร้ายผู้ถูกวางคาแร็กเตอร์ให้อารมณ์ร้อนอยู่ตลอดพยายามเกลี้ยกล่อมเขาอย่างใจเย็น
“นี่ก็ดีแล้ว”
“ดีตรงไหน นีซอึดอัดนะมากอดกันแบบนี้ แล้วคุกเข่าอยู่อย่างนี้เดี๋ยวเหน็บก็กินหรอก อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะ ลุกขึ้นมาเถอะ”
พอถูกทักเรื่องอายุ คนที่แก่กว่าสองปีก็คิ้วกระตุกจนเผลอเถียงกลับ