บทที่ 6 ขึ้นอย่างหงส์ ลงอย่าง…
การกินข้าวเที่ยงร่วมกับเพื่อนฝาแฝดไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์ชวนจดจำสำหรับอัตรคุปต์สักเท่าไร หลังจากต่างคนต่างสั่งอาหารของตัวเองแล้วสามหนุ่มก็ต่างก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ตโฟนของตัวเองไป ก่อนที่อยู่ดีๆ หนึ่งในนั้นจะกัดฟันกรอดทุบโต๊ะจนแก้วน้ำสั่นไหว
ปัง!
“เชี่ย!” แสงเหนืออุทาน ดวงตาสีนิลละจากหน้าจอสมาร์ตโฟนไปยังตัวต้นเหตุ ร้องถามเสียงระอา “เป็นอะไรของมึงอีกเนี่ย”
“เปล่า” อัตรคุปต์เค้นเสียงตอบลอดไรฟัน หลังรัวปลายนิ้วพิมพ์ข้อความและลบทิ้งอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ยัดสมาร์ตโฟนเข้ากระเป๋ากางเกง ใบหน้าหล่อเหลาดูดุดันกว่าปกติขณะปรายตามองโต๊ะอาหารที่มีเพียงแก้วเครื่องดื่มวางอยู่ “ทำไมอาหารมาช้างี้วะ”
“อ้อ โมโหหิวนี่เอง” แฝดคนพี่พยักหน้าขึ้นลงหงึกหงัก ขณะที่แฝดคนน้องหัวเราะหึ
“ใครว่ามันโมโหหิว” ริมฝีปากบางหยักยิ้มดูคล้ายอ่อนโยนแต่ก็คล้ายเจ้าเล่ห์อยู่ในที “โมโหหึงมากกว่า”
“หืมมม?” แสงเหนือลากเสียงยาว ลูบปลายคางพลางทำตาแวววาว “น่าสนใจนะเนี่ย คนอย่างไอ้สากกะเบือคุปต์เนี่ยนะหึงน้องนีซ?”
‘สากกะเบือ’ นั่งหน้าตึง แผ่รังสีดุดันจนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ ทว่าไม่ใช่กับเพื่อนฝาแฝดที่สนิทกันมาเกินครึ่งชีวิต
หนุ่มหล่อมาดนุ่มหัวเราะ รับช่วงต่อจากพี่ชายด้วยการพลิกหน้าจอสมาร์ตโฟนโบกไปมาจนเห็นเงาร่างของหญิงสาวในชุดสีขาวฟูฟ่องรางๆ
“น้องนีซในชุดเจ้าสาวนี่สวยดีเนอะ”
“ไหนดูดิ๊” ทายาทโรงแรมหรูยื่นมือไปรับโทรศัพท์คู่แฝดมาส่อง นั่นคือรูปนิสรีนในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ซึ่งเป็นภาพโปรโมตจากกองถ่ายละครในวันนี้ “จุ๊ๆ แค่ใส่ถ่ายละครยังสวยขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่ะว่าถ้าได้เป็นเจ้าสาวจริงๆ น้องนีซจะสวยสังหารออร่ารุนแรงขนาดไหน เสียดาย…” แสงเหนือแสร้งถอนหายใจ ปรายตามองคนที่ควรจะได้เป็นเจ้าบ่าว “ไอ้สากกะเบือเพื่อนเรามันโง่ เลื่อนงานแต่งอยู่นั่นจนน้องนีซไม่ได้ใส่ชุดเจ้าสาวของจริงสักที…เฮ้ๆ! ระวังมือหน่อยครับคุณครับ ขืนโดนหน้าหล่อๆ ของผมเสียโฉมขึ้นมา กูเรียกค่าทำขวัญเป็นเพนต์เฮ้าส์หลังละร้อยล้านเท่านั้นนะครับ”
ชายหนุ่มที่หลบช้อนซึ่งโดนโยนใส่หน้าได้ฉิวเฉียดขู่ทีเล่นทีจริงด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะ ก่อนหันไปพยักพเยิดกับคู่แฝด “ชายน์ ฉันว่าจากนี้ไปไอ้คุปต์ไม่น่าจะเป็นสากกะเบือแล้วว่ะ”
“ทำไมวะ มันจะกลายเป็นครกแทนเหรอ” แสงแรกเลิกคิ้ว ถามกลับด้วยสีหน้าใสซื่อ คราวนี้เลยเป็นแสงเหนือที่ชักสีหน้าบ้าง
“วะ ไอ้นี่ แทนที่จะช่วยกันรุมไอ้บื้อนี่ก่อน โอ๊ย! นี่มึงเหยียบตีนกูเหรอไอ้คุปต์”
คนเหยียบเท้าเพื่อนถลึงตาใส่สีหน้าดุดัน
“มึงหลอกด่ากูหลายทีแล้วนะไอ้เรย์ ถ้ายังไม่หยุดพูดมาก รอบหน้าจะไม่ใช่แค่ตีนมึงแน่ที่โดนกูเหยียบ”
เห็นดวงตาคมดุจ้องหน้ากันตรงๆ แสงเหนือก็เดาออกว่าเป้าหมายครั้งหน้าของท่านรองฯ แห่ง MA Property คือที่ไหน…ก็ใบหน้าหล่อๆ ของเขาอย่างไรเล่า
มองเพื่อนกับพี่ตีกันอยู่พักหนึ่งแสงแรกก็หัวเราะ หนุ่มหน้าหล่อติดจะหวานโคลงศีรษะ จากนั้นก็วกกลับไปคุยเรื่องนิสรีนต่อ
“แต่จะว่าไปนี่เป็นเรื่องแรกเลยรึเปล่าที่น้องนีซยอมรับบทเจ้าสาวน่ะ”
คำถามนั้นทำให้คนรักของหญิงสาวชะงัก นัยน์ตาคู่คมไหววูบ สันกรามขบแน่นจนขึ้นรอยนูน
“เออ เหมือนจะใช่แฮะ” แสงเหนือพยักหน้าหงึกหงัก รื้อความหลังขึ้นมาตอกย้ำเพื่อนอีกหน “คุ้นๆ ว่าก่อนหน้านี้น้องนีซเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะรอใส่ชุดเจ้าสาวครั้งแรกตอนแต่งงานจริงๆ แต่ดูท่า…” เขาเหลือบมองสีหน้าอัตรคุปต์ หัวเราะหึแล้วเอ่ยว่า “น้องนีซคงไม่อยากรอแต่งจริงแล้วแหละ”
“นี่พวกมึงจะทับถมกูกันอีกนานมั้ย” หลังจากทนมานาน ในที่สุดอัตรคุปต์ก็กัดฟันถามฝาแฝดเสียงเย็น สองพี่น้องเลยพากันหัวเราะ คนขี้แกล้งอย่างแสงเหนือลงทุนโน้มตัวข้ามโต๊ะมาตบบ่ากว้างหนักๆ
“น่าๆ ก็มันอดไม่ได้นี่หว่า เพิ่งเคยเห็นมึงเป็นฝ่ายไล่ตามครั้งแรก ปกติมีแต่น้องนีซต้องไล่ตามมึงอยู่ฝ่ายเดียวตลอด”
“จริง” แสงแรกผงกศีรษะ ริมฝีปากยังแต้มรอยยิ้มนุ่มละมุนผิดกับวาจาเชือดเฉือน “นี่แหละนะ ตอนมีอยู่ไม่เห็นค่า” เขาถอนหายใจ นัยน์ตาสีนิลคล้ายจะมองอัตรคุปต์อย่างเวทนา เอ่ยปากด้วยประโยคที่ไม่แน่ใจว่าเป็นคำถาม บอกเล่า หรือซ้ำเติม “นี่แค่น้องไปถ่ายฉากแต่งงานกับคนอื่นนายยังโมโหขนาดนี้ ถ้าน้องนีซแต่งงานเป็นเจ้าสาวของคนอื่นเข้าจริงๆ นายไม่กระอักเลือดตายเลยหรือไงนะ”
เพียงแค่จินตนาการถึงภาพนิสรีนกลายเป็นเจ้าสาวของชายอื่น เป็นภรรยา และร่วมใช้ชีวิตคู่กับใครสักคนที่ไม่ใช่เขา ใบหน้าหล่อเหลาก็บึ้งตึงเย็นชามากกว่าเดิม กระทั่งบริกรซึ่งกำลังยกอาหารเดินมายังไม่กล้าเข้ามาเสิร์ฟ ร้อนถึงแสงเหนือผู้หิวจนไส้กิ่วต้องใช้วิชามารโปรยยิ้มล่อลวงจนหล่อนกล้าวางราดหน้าทะเลจานใหญ่ลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณนะคะคนสวย”