LOVE
ทดลองอ่าน OOC I พลิกรักสลับบท บทที่ 6-บทที่ 7
“ใช่ แดงมากกก” นิสรีนแค่นเสียง แม้จะแอบอาวรณ์อ้อมกอดอบอุ่นของเขามากแค่ไหน แต่สุดท้ายเธอก็ตัดใจลุกแล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาเดี่ยวใกล้ๆ กัน เพราะเรื่องที่เขาสงสัยไม่ใช่ความลับอะไร เธอจึงไม่ลังเลที่จะตอบ “ตั้งแต่เริ่มคิดถึงอนาคต”
ชายหนุ่มสบตาคนรัก เพียงเท่านั้นก็เข้าใจได้ว่าในหัวเล็กๆ กำลังคิดอะไรอยู่
“จะไม่ทำงานในวงการแล้ว?”
“ก็ประมาณนั้น” นางเอกเบอร์ต้นๆ ของวงการไหวไหล่ แม้จะพยายามทำสีหน้าเหมือนไม่ได้คิดอะไรแต่อัตรคุปต์รู้จักเธอดีจนรู้ว่านิสรีนคิด แถมยังคิดมากอีกต่างหาก
อย่างไรเสียนิสรีนก็อยู่วงการนี้มาหกปี แม้แรกเริ่มจะไม่ได้มีใจรักอะไรนัก แต่พออยู่มานานเข้าก็เริ่มผูกพัน หากทำได้ก็อยากอยู่ต่อไปเรื่อยๆ พัฒนาฝีมือตัวเองจนไม่ได้เป็นแค่นางเอกยอดนิยม แต่กลายเป็นนักแสดงแถวหน้าผู้สามารถตีบทแตกได้ทุกบทบาท
ทว่านั่นก็เป็นได้เพียงแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ของคนที่มีวีรกรรมรอถูกแหกยาวเป็นหางว่าว
“ถ้านีซกังวลเรื่องพล็อตนั่น…” อัตรคุปต์เอ่ยปาก นัยน์ตาคมดุหนักแน่น “พี่จะหาทางจัดการให้”
แค่จัดการเขี่ยผู้หญิงคนนั้นออกไปก่อนที่หล่อนจะกลายเป็นดาวดวงใหม่ผู้ได้รับความรักใคร่จากทุกคน จนนิสรีนซึ่งถูกแย่งชิงทั้งงานและความนิยมโกรธแค้น คอยระรานหาเรื่องนางเอกรุ่นน้องจนทำให้วีรกรรมในอดีตที่หญิงสาวเคยทำไว้ถูกขุดขึ้นมาแฉ
แค่ ‘ดับ’ ตั้งแต่หล่อนยังไม่ ‘ดัง’ ทุกอย่างก็จบแล้ว
“หึ มันไม่ง่ายงั้นหรอกพี่คุปต์” นิสรีนส่ายหน้า ยอมรับเลยว่ารู้สึกดีมากที่อัตรคุปต์คิดหาทางช่วยเหลือและปกป้องเธอ แต่เธอในวันนี้โตมากพอจะรู้ว่าต่อให้จัดการผู้หญิงคนนั้นได้ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะจบลง “ยังไงนีซก็นิสัยเสียจนเป็นที่เลื่องลืออยู่แล้ว ไม่ใช่วันนั้นก็ต้องมีสักวันแหละที่ถูกแหกและจะเถียงก็ไม่ได้…ทำจริงทั้งนั้น”
เสียงหัวเราะฝืนๆ กับดวงตาเจือรอยหยามหยันของคนรักทำให้ช่องอกของชายหนุ่มบีบรัดจนอึดอัด แม้เธอจะสร้างระยะห่างด้วยการย้ายที่นั่ง กระนั้นเขาที่อยากใช้ภาษากายปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยก็ไม่ได้รู้สึกลำบากที่จะยื่นมือออกไปคว้ามือนุ่มมากุมไว้
“สำหรับพี่นีซนิสัยดีมาก”
นั่นไม่ใช่คำโกหกเพื่อหวังปลอบใจ แต่อัตรคุปต์พูดจริง ไม่ว่าจะร้ายกับคนอื่นอย่างไร ทว่าสำหรับเขาแล้วนิสรีนดีเสมอ ทั้งรักทั้งตามใจจนเขานี่แหละที่เป็นฝ่ายเสียคนจนพลั้งเผลอทำร้ายความรู้สึกของเธอ
“หึ นั่นก็เพราะนีซเคยรักพี่คุปต์ไง”
เพราะรักเขา เธอถึงได้เป็นฝ่ายยอมทุกอย่าง แล้วเอาความหงุดหงิดไม่พอใจทั้งหมดไปลงกับคนอื่น
“ ‘เคย’ เหรอ” น้ำเสียงที่เคยปลอบโยนเมื่อครู่เข้มจัด นัยน์ตาคมดุวาวโรจน์ชนิดที่หากเป็นคนอื่น…หรือกระทั่งนิสรีนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนอาจจะตัวสั่นไปแล้ว ทว่าน่าแปลกที่เธอในวันนี้กลับไม่นึกกลัวว่าเขาจะไม่พอใจ
ก็ไม่รู้เพราะเธอพยายามตัดใจจากอัตรคุปต์จนไม่อยากคาดหวังอะไรจากเขา หรือเพราะรู้แล้วว่าเขารักเธอกันแน่
“ใช่ ‘เคย’ ” หญิงสาวย้ำชัด สบลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเพื่อตอกย้ำคำตอบของตัวเอง แต่นั่นอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด…เพราะดวงตาของเธอมิอาจอำพรางความจริงในหัวใจเอาไว้ได้ คนที่สบตากันเลยกระตุกยิ้ม แสร้งทำเป็นพยักหน้าคล้อยตาม
“ถ้านีซบอกว่าเคยก็เคย” ปากบอกเคยรักแต่ดวงตาย้ำชัดว่ายังรักอยู่ ในฐานะคนเคยปากหนักบอกรักไม่เป็นอย่างอัตรคุปต์ เขาย่อมทำใจกว้างยอมรับมันได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงแนะนำเธออย่างคนปรารถนาดี
“แต่ถ้านีซคำนึงถึงอนาคตและอยากได้ความมั่นคงจริงๆ พี่แนะนำให้นีซลงทุนอย่างนึง รับรองเธอเป็นเสือนอนกินแน่”
“หือ?”
คนสนใจเรื่องการลงทุนเลิกคิ้ว ดวงตาเป็นประกาย
ไม่ใช่เพราะแค่ดีใจที่อัตรคุปต์แสดงออกชัดว่าให้ความสำคัญกับสิ่งที่เธอกำลังสนใจจนอยากให้คำแนะนำ แต่ยังเป็นเพราะท่านรองฯ แห่ง MA Property ถูกเรียกขานว่า ‘เทพแห่งการลงทุน’
ผิดกับนิสรีนที่ไม่มีหัวทางด้านนี้…หรือด้านไหนๆ เอาเสียเลย อัตรคุปต์กลับเป็นลูกรักของพระเจ้า ไม่ใช่แค่หน้าตาหล่อเหลา แต่ยังฐานะดี ทั้งฉลาดและดวงดียิ่งกว่าใครๆ ชายหนุ่มสนใจและหัดเล่นหุ้นมาตั้งแต่อายุสิบแปดสิบเก้า และเปอร์เซ็นต์การขาดทุนของเขาก็น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย กระทั่งหุ้นที่ตอนแรกดูไม่มีมูลค่า ไม่มีใครให้ความสนใจ ขอเพียงเขาเลือกลงทุนกับมันไม่นานตัวแดงก็กลายเป็นเขียว กราฟพุ่งทะยานขึ้นอย่างงดงาม
คิดแล้วนิสรีนก็ได้แต่กัดปากเจ็บใจตัวเอง ค่าที่ตอนนั้นเย่อหยิ่งอยากยืนได้ด้วยสองขามากจนไม่สนใจจะซื้อหุ้นตามอัตรคุปต์อย่างที่ใครๆ เขาทำกัน ปรากฏว่าท่ามกลางตัวแดงเถือก หุ้นที่เขาซื้อกลับทำกำไรได้อย่างน่าอัศจรรย์
พอคิดถึงการลงทุนที่มีแต่กำไรของเขาและมีแต่ขาดทุนของเธอ นิสรีนก็นึกสนใจอยากรู้ขึ้นมาเหมือนกันว่าถ้าเธอซื้อตามที่เขาแนะนำทุกอย่าง บทสรุประหว่างพลังแห่ง ‘พระเอกลูกรักนักเขียน’ กับ ‘นางร้ายผู้ย่อยยับ’ อะไรจะแรงกล้ากว่ากัน อัตรคุปต์จะเจ๊งตามเธอหรือเธอจะรวยตามเขา?
พอเห็นว่าคนรักมีสีหน้าสนใจจริงๆ เทพแห่งการลงทุนก็คลี่ยิ้มขรึม สีหน้าดูจริงจังมากขึ้น
“นีซรู้ใช่มั้ยว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง”
“รู้สิ” รู้ดีด้วย ไม่งั้นเงินเธอจะหายวับไปเป็นล้านแบบนั้นหรือ
“แต่ที่พี่จะแนะนำนีซ พี่มั่นใจว่าคุ้มค่าแน่นอน ถ้านีซเลือกลงทุนตัวนี้นะ รับรองว่าทั้งชาติก็มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ”
“พี่คุปต์จะแนะนำให้นีซซื้อหุ้นเอ็มเอเหรอ”
จากความมั่นใจที่เห็นได้ชัดของชายหนุ่มทำให้เธอคาดเดาแบบนั้น เพราะ MA Property เป็นกิจการร่วมกันระหว่างสองตระกูลของพระนางแห่งเกมกุหลาบ ดังนั้นไม่ว่าจะเจอวิกฤติขนาดไหน ผลกำไรก็มีแต่จะงอกงาม
“นีซมีหุ้นอยู่แล้ว” ถึงจะไม่เยอะแยะอะไรและท้ายที่สุดในนิยายนางร้ายอย่างเธอจะขายทิ้ง แต่ในฐานะหลานสาวคนเดียวของคุณราเชน เธอมีหุ้นของ MA Property อยู่จำนวนหนึ่ง “คือจะให้นีซซื้อเพิ่ม?”
คำถามอย่างไม่แน่ใจของคนรักทำให้อัตรคุปต์ลอบกลอกตา แต่ก็ยังคงตอบกลับไปอย่างจริงจัง
“ถ้าลงทุนตามที่พี่แนะนำ นีซก็จะได้หุ้นเอ็มเอไปด้วย”
“ดีขนาดนั้นเชียว” คราวนี้นิสรีนชักระแวง
โลกนี้ไม่มีอะไรที่ดีขนาดนั้น…โดยเฉพาะกับนางร้ายอย่างเธอ
“อือ แค่นีซตกลงใจลงทุนหุ้นตัวนี้แล้วเซ็นสักแกร๊กสองแกร๊ก รับรองรวยเละเป็นคุณนายไปทั้งชาติ”
“หุ้นบริษัทไหนเนี่ยถึงทำให้พี่คุปต์มั่นใจได้ขนาดนั้น รีบๆ เฉลยมาเถอะ”
เพราะคำโฆษณาที่ชักจะเกินจริงเข้าไปทุกที หญิงสาวจึงรีบซักอย่างทนรอไม่ไหว คำนวณในใจว่าถ้าดูลาดเลาแล้วดี เธออาจลงทุนก้อนใหญ่เพื่อช้อนซื้อมาเก็บเก็งกำไร แต่แล้วสมองที่กำลังทำงานอย่างหนักก็เป็นอันต้องชะงักงัน เมื่อเทพแห่งการลงทุนเชิดหน้าขึ้นสูง ปลายนิ้วหัวแม่มือชี้เข้าหาแผ่นอกกว้าง ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มขณะประกาศด้วยน้ำเสียงอันเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ
“พี่”
“หือ?”
นิสรีนกะพริบตา เหมือนจะเข้าใจ…แต่ก็ไม่แน่ใจนัก กระทั่งเขาขยับตัวเข้ามาใกล้จนเห็นเงาสะท้อนของเธอในดวงตาคมดุ หัวใจจึงเต้นระรัวแรง
“แค่นีซจดทะเบียนสมรสเป็นหุ้นส่วนชีวิตของพี่ ทั้งชีวิตที่เหลือพี่รับรองว่าเธอจะไม่มีวันลำบากแน่นอน”
แดงอีกแล้ว
คราวนี้ไม่ใช่พอร์ตหุ้นติดดอยพวกนั้นหรอก แต่เป็นหน้าเธอนี่แหละที่แดง!
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 1 ธ.ค. 65 เวลา 12.00 น.