LOVE
ทดลองอ่าน OOC I พลิกรักสลับบท บทที่ 8-บทที่ 9
เพราะเธอดึงดันจะทำผมสีน้ำตาลหม่นอมเทาทั้งที่รู้ดีว่าสีนี้หลุดค่อนข้างง่าย ดังนั้นเพื่อให้สีผมในละครมีความต่อเนื่องไม่โดดจนเกินไป ทุกหนึ่งถึงสองสัปดาห์นิสรีนจึงต้องหาวันว่างมาเติมสีผมที่ซาลอนเจ้าประจำ
“เสร็จแล้วค่ะ”
นิสรีนพิจารณาเงาสะท้อนจากกระจกบานใหญ่ ริมฝีปากรูปกระจับยกยิ้มพึงพอใจ นางเอกสาวไม่ว่าอะไรยามที่เจ้าของซาลอนขอถ่ายรูปสำหรับลงโปรโมตในอินสตาแกรมของร้าน หลังปรายตามองผู้จัดการส่วนตัวซึ่งกำลังจัดการชำระค่าใช้จ่ายรวมถึงนัดหมายครั้งต่อไปแล้ว ร่างระหงก็ก้าวผ่านโซนทำผมออกไปยังด้านหน้าซึ่งทางร้านจัดให้เป็นมุมพักผ่อนสำหรับลูกค้าที่ยังไม่ถึงคิวหรือคนที่มารอผู้ใช้บริการอีกทีหนึ่ง เพราะวันนี้เธอมากับเจนสุดาแค่สองคน เดิมทีหญิงสาวจึงตั้งใจจะเดินออกไปรอด้านนอกร้านเลย ทว่าขณะก้าวผ่านโซฟาสีเทาเข้มหางตาก็เหลือบเห็นเงาร่างคุ้นเคยจนเผลอชะงักไป นั่นทำให้คนประสาทสัมผัสเฉียบไวเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน
“เสร็จแล้วเหรอ”
อัตรคุปต์ยัดสมาร์ตโฟนที่ใช้ไถฆ่าเวลาลงกระเป๋ากางเกง นัยน์ตาคมดุกวาดมองทั่วร่างระหงผ่านๆ ทีหนึ่ง เรือนผมสีน้ำตาลหม่นอมเทาดัดเป็นลอนรวบครึ่งศีรษะที่เพิ่งได้รับการดูแลจัดแต่งอย่างดีขับเน้นให้ดวงหน้าสวยเฉี่ยวซึ่งวันนี้แต่งหน้าแบบเนเชอรัลลุคดูน่ารักและเด็กลงกว่าปกติ
น่ารัก
คำชมนั้นผุดพรายขึ้นในใจ และหากเป็นในยามปกติก็คงหยุดอยู่แค่นั้น ทว่าคนที่พยายามปรับปรุงตัวเองให้กลายเป็นคนรักที่ดีจนหญิงสาววางใจฝากชีวิตไว้พลันนึกถึงคำแนะนำจาก ‘กูรู’
‘แกน่ะอย่าปากหนักให้มันมากนัก ถ้าเห็นน้องนีซสวยก็ชมต่อหน้าเขาบ้าง เลิกซะนะไอ้นิสัยแอบถ่ายรูปน้องมาอวดในกรุ๊ปแชตน่ะ รู้แล้วโว้ยว่าเมียสวย แต่ช่วยแสดงความคลั่งรักให้ถูกคนหน่อยเถอะ’
อัตรคุปต์จำได้ว่าตอนนั้นเขาเบ้ปากใส่แสงเหนือไป ทว่าพอมาอยู่ต่อหน้านิสรีนจริงๆ แล้ว…
“น่ารัก”
“คะ?” ดวงตาสวยเฉี่ยวเบิกกว้าง งุนงงกับคำสั้นๆ ที่หลุดพ้นกลีบปากหนา ก่อนหัวใจที่พยายามเลิกรักเขาจะโหมกระหน่ำเต้นแรงยามนัยน์ตาคมดุเลื่อนมาสบกันนิ่งๆ แล้วย้ำอีกครั้ง
“วันนี้นีซน่ารักดี”
ไม่ทันให้เธอได้มีจังหวะพักหายใจ ผู้ชายที่เวลาเดินด้วยกันมักจะก้าวนำไปข้างหน้าอยู่เสมอก็ยื่นมือมาตรงหน้า มุมปากยกยิ้มจนวงหน้าดุดูอ่อนโยนกว่าปกติ
“ไปกันเถอะ”
“ไปไหน” แทนที่จะยื่นมือไปหาเขาตามความต้องการลึกๆ ของหัวใจ นิสรีนกลับหดมือสองข้างขึ้นมากอดอก เอ่ยถามอย่างงุนงง “วันนี้นีซไม่ได้นัดกับพี่คุปต์นะ”
“รู้” เขาพยักหน้ารับ “แล้วก็รู้ด้วยว่าวันนี้นีซไม่มีงานอะไร เพราะงั้น…ไปกินข้าวกัน”
กินข้าวกลางวันกับอัตรคุปต์
แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ได้กินข้าวกลางวันกับเขา แล้วก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่ชายหนุ่มเป็นคนเอ่ยปากชวนก่อน แต่ครั้งนี้มันแปลกออกไป…เพราะเขาเป็นฝ่ายมาหา แถมยังดูเหมือนว่าจะรอเธอทำผมอยู่สักพักหนึ่งแล้วด้วย
“พี่คุปต์…” ต้องการอะไรกันแน่
นิสรีนอยากถามออกไป แต่ชั่วขณะนั้นเองที่ความทรงจำซึ่งพยายามซุกซ่อนไว้ในก้นบึ้งของหัวใจก็ปรากฏขึ้นมาในหัว
‘ถ้าไม่ใช่เพราะรัก…พี่จะไม่มีวันยื้อนีซไว้เด็ดขาด’
เพราะความทรงจำนั้น เพราะลึกลงไปแล้วเธอยังไม่อาจตัดใจจากเขาได้ขาด ท้ายที่สุดก็เป็นอีกครั้งที่นิสรีนพ่ายแพ้ให้อัตรคุปต์ นางเอกสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอนึกหงุดหงิดกับความใจอ่อนของตัวเองจนน้ำเสียงที่ใช้พูดกับเขาค่อนข้างห้วนและไม่สบอารมณ์นัก
“นีซมีร้านที่จะไปแล้ว”
แม้จะไม่พอใจกับน้ำเสียงที่ไม่น่ารักของหญิงสาว แต่อัตรคุปต์ในเวลานี้ก็ทำเพียงกดหัวคิ้วนิ่วหน้านิดๆ แล้วผงกศีรษะ
“พี่ตามใจนีซ”
ส่วนร้านอาหารอิตาเลียนที่จองคิวไว้เดี๋ยวก็ให้วาริธรจัดการแคนเซิลไป
นิสรีนหรี่ตา ขณะกำลังจะถามย้ำอีกครั้ง เจนสุดาซึ่งจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินออกมา
“นีซ เสร็จแล้ว ไปกัน…” จังหวะที่เห็นร่างสูงใหญ่ของคู่หมั้นเพื่อน รอยยิ้มบนดวงหน้าก็ยิ่งกว้างมากขึ้น นัยน์ตาเรียวรีเป็นประกาย หญิงสาวข่มกลั้นความรู้สึกซึ่งนับวันยิ่งปกปิดได้ยากขึ้นทุกที กล่าวทักทายเขาเสียงประหม่า “คุณคุปต์ สวัสดีค่ะ”
อัตรคุปต์ปรายตามองเจนสุดา เพียงแค่เห็นเรือนผมสีน้ำตาลเป็นประกายผ่านๆ เขาก็รู้แล้วว่าระหว่างรอนิสรีนทำสีผม เจ้าหล่อนก็คงได้รับการบริการจากทางร้านด้วยเช่นกัน ส่วนคนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดย่อมไม่พ้นคนรักของเขา เพราะกับคนของตัวเองแล้วนิสรีนรับผิดชอบดูแลดีตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเงินดีและมีออพชั่นเสริมอยู่ตลอด แค่คำว่า ‘เพื่อน’ คงไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเจนสุดาให้รองรับอารมณ์นางเอกสาวมาได้หลายปี
ก็ไม่ถูกไม่ผิด
ชายหนุ่มพิจารณาความสัมพันธ์ของสองสาวในใจ
กับนิสรีนแล้วเขาแน่ใจว่าคนรักมองเจนสุดาเป็นเพื่อน…แต่ภายใต้ความเป็นเพื่อนก็พ่วงด้วยตำแหน่งลูกจ้าง คนที่เธอให้ความสำคัญในระดับที่ตนพอใจ หรือก็คือมองว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า ขณะที่เจนสุดานั้นดูออกได้ไม่ยากเลยว่าสิ่งที่รั้งหล่อนให้ทนอยู่มาจนถึงตอนนี้คือเรื่องของผลประโยชน์ การที่หล่อนดูแลนิสรีนอย่างดีและคอยอดทนรองรับอารมณ์มาหลายปีโดยไม่ตอบโต้ ทำให้อัตรคุปต์ยอมรับว่ามันคือความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงทั้งสองคนเลือกแล้ว และเขาคงไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวถ้าไม่ใช่เพราะว่า…เจนสุดาแอบทำบางเรื่องลับหลังนิสรีน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เขาไม่มีวันยอมรับได้เด็ดขาด
คงเพราะสายตาเขาหยุดนิ่งที่หล่อนนานไปหน่อย แม้จะเป็นเพียงสายตาเย็นชาดุดัน แต่ก็ยังทำให้เจนสุดาหน้าแดงขึ้นมาได้ อัตรคุปต์จึงย้ายสายตากลับไปยังคนรักเลยได้เห็นว่าเธอกำลังมองอยู่เงียบๆ ริมฝีปากหนาระบายรอยยิ้ม นัยน์ตาอ่อนโยนผิดจากเมื่อครู่ลิบลับ
“ไปกันเถอะ”
“คุณคุปต์จะไปด้วยเหรอคะ” เพราะคำพูดของชายหนุ่มตีความได้แบบนั้น เจนสุดาจึงเผลอร้องถามออกไปอย่างลืมตัว พอคำพูดหลุดออกจากปากหล่อนเลยรีบย่นคอ นัยน์ตาเรียวรีเหลือบมองสีหน้าของนางเอกดัง แทนที่จะพบว่านิสรีนกำลังถลึงตามองอย่างคนหวงของรัก หญิงสาวเพียงแต่มองหล่อนเงียบๆ ปราดหนึ่ง
ไม่รู้นิสรีนจะรู้หรือไม่ว่าสายตานิ่งๆ เฉยชานั่น ทำให้คนมีชนักติดหลังหวาดหวั่นได้มากกว่าการอาละวาดด่าทออย่างปกติ
“ไม่ใช่ไปด้วย” อัตรคุปต์ตอบเสียงเย็น จากที่ยื่นมือไปรอเขาก็เปลี่ยนใจเป็นดึงร่างระหงมาโอบไว้ พยักพเยิดให้ผู้จัดการสาวครั้งหนึ่ง “ฉันจะไปกับนีซแค่สองคน”
“แต่ว่า!” เจนสุดาอ้าปากจะค้านทว่าไม่ทัน
“แต่ว่านีซจะไปคาเฟ่เพื่อถ่ายรูปลงไอจีนะ” นิสรีนหันไปสบตาผู้ชายที่ถือวิสาสะมาโอบเอวเธอเอาไว้ ริมฝีปากขยับยิ้ม “ถ้าเจนไม่ไปแล้วใครจะถ่ายรูปให้นีซ” ให้เธอตั้งกล้องเซลฟี่เอาเองไม่เวิร์กแน่ๆ “พี่คุปต์เหรอ”
นั่นคือคำถามที่ไม่แน่ใจว่าเป็นคำถามหรือการไล่ เพราะแม้ว่ารูปที่อัตรคุปต์ถ่ายจะออกมาดูดีมากจนหลายครั้งเวลาไปเที่ยวด้วยกันเธอมักจะอ้อนขอให้เขาถ่ายให้ ทว่าตลอดหลายปีที่คบกันมานานๆ ครั้งชายหนุ่มจะยอมถ่ายรูปให้เธอด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจนัก
อัตรคุปต์ยกมือขึ้นเกลี่ยลูกผมให้พ้นจากกรอบหน้าเล็ก ระบายรอยยิ้มขณะบอกด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“นีซเตรียมรอรับการถล่มไลค์ได้เลย”
จะว่าเขามั่นหน้าก็ไม่ถูก เพราะรูปที่อัตรคุปต์ถ่ายให้หญิงสาวมักจะได้ยอดกดไลค์ถล่มทลายในช่วงเวลาสั้นๆ จริงๆ!