LOVE
ทดลองอ่าน OOC I พลิกรักสลับบท บทที่ 8-บทที่ 9
บทที่ 9 พี่คุปต์หยุด OOC
สิ่งแรกที่นิสรีนทำหลังจากเข้าไปในตัวอาคารทรงสี่เหลี่ยมสีขาวคือการจับจองที่นั่งวิวดีในโซนห้องแอร์ เปิดเมนูสั่งอาหารที่คิดว่าน่าจะถูกปาก รวมถึงเครื่องดื่มน่าลิ้มลอง พอบริกรทวนออเดอร์ด้วยแววตาเหม่อลอยนิดๆ คล้ายไม่แน่ใจว่าใช่ ‘นีซ นิสรีน’ เจ้าหญิงกุหลาบขาวคนดังหรือไม่ หญิงสาวก็โปรยรอยยิ้มหวานให้อย่างอัธยาศัยดี
นี่แหละสิ่งดีๆ ไม่กี่อย่างที่นักเขียนเหลือไว้ให้นางร้ายอย่างเธอ นิสรีนสามารถควบคุมสีหน้าและรอยยิ้มต่อหน้าคนทั่วไปไว้ได้จนทำให้ชื่อเสียงของเธอในหมู่แฟนคลับและประชาชนทั่วไปอยู่ในระดับดีมาก ชนิดที่ว่าข่าวลือเรื่องนิสัยเสียๆ จากคนในวงการทำอะไรเธอไม่ได้สักนิด
“นีซ”
“หือ?”
พอหันกลับไปตามเสียงเรียก นิสรีนก็พบว่าชายหนุ่มกำลังใช้กล้องตัวเล็กรุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่เน็ตไอดอลบันทึกภาพเธออย่างรวดเร็ว อัตรคุปต์คลี่ยิ้ม พยักหน้าหงึกหงักราวกับว่าเมื่อครู่เป็นการเทสต์กล้อง
“หยิบกล้องออกมาตอนไหนเนี่ย” หญิงสาวย่นจมูกใส่ ร่างระหงทำท่าจะโน้มตัวข้ามโต๊ะไปดูรูปทีเผลอเมื่อครู่ ทว่าอดีตคนรักกลับเบี่ยงหลบ “พี่คุปต์ ขอนีซดูรูปก่อน”
“ไม่” อัตรคุปต์ปฏิเสธ ใบหน้าหล่อเหลายังแต้มรอยยิ้มกริ่ม นัยน์ตาคู่คมเป็นประกาย “ค่อยดูทีเดียว” เขาว่าพลางลุกจากเก้าอี้ พอแน่ใจว่าตรงจุดนี้มีกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัยของทางร้านน่าจะอยู่ในระดับใช้ได้จนลูกค้าซึ่งมีเพียงไม่กี่โต๊ะวางใจพอจะทิ้งข้าวของไว้ก็ยื่นมือไปหาคนรัก “ไปถ่ายรูปเล่นกัน วันนี้พี่จะเป็นตากล้องให้นีซเอง”
นิสรีนเม้มปากช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่า ความรู้สึกมากมายหมุนวนอยู่ในอก และสิ่งที่เด่นชัดที่สุดก็คือความสุขจากความสมหวัง อัตรคุปต์และช่วงเวลาในตอนนี้ราวกับหลุดออกมาจากภาพที่เธอเคยฝันถึงนับครั้งไม่ถ้วน
ภาพที่เขาทั้งรักและเอาใจใส่ราวกับเธอคือคนสำคัญที่ขาดไม่ได้
“เฮ้อ”
หญิงสาวหลุดถอนหายใจแผ่วเบา ความจนใจฉายชัดอยู่ในดวงตาสวยเฉี่ยว เมื่อรู้ซึ้งแล้วว่าไอ้ประโยคที่ว่า ‘คนรักมากกว่ามักเป็นฝ่ายพ่ายแพ้’ มันจริงมาก เพราะเพียงแค่ความใส่ใจที่อัตรคุปต์มอบให้ในตอนนี้ก็ถึงกับทำให้ความตั้งใจจะหนีไปจากเขาและชะตากรรมอันแสนบัดซบนั่นสั่นคลอน ขณะลุกขึ้นยืนจึงอดไม่ได้ที่จะพูดประโยคหนึ่งออกไป
“พี่คุปต์หยุด OOC สักทีเถอะ”
เพราะถ้าเขาไม่หยุด เธอได้ใจอ่อนให้เขาแน่
“OOC?” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงอย่างไม่เข้าใจในความหมายของมัน แต่คนเปิดประเด็นกลับไม่คิดจะอธิบาย ร่างระหงในชุดฮันบกประยุกต์เลือกจะเดินฉับๆ ไปหามุมถ่ายรูปโดยไม่แม้แต่จะรอตากล้องอย่างเขาด้วยซ้ำ
แม้การถูกทำให้สงสัยโดยไร้ซึ่งคำอธิบายจะทำให้อัตรคุปต์หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่พอเห็นนิสรีนดูจะสนุกกับการหยิบจับพร็อพภายในร้าน กัดปากเอียงคอคิดว่าจะถ่ายรูปออกมาอย่างไรดี ความหงุดหงิดที่มีอยู่บางเบาก็สลายไปเช่นเดียวกับมือที่ยกขึ้นมากดบันทึกภาพซึ่ง ‘นางแบบ’ ไม่ทันตั้งตัวไว้อีกครั้ง
เพราะเป็นช่วงบ่ายของวันธรรมดา ใช้เวลาไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ หลังจากใช้สมาร์ตโฟนถ่ายภาพอาหารเรียบร้อย นิสรีนก็เริ่มละเลียดกินสปาเกตตี้ผัดกระเทียมแซลมอนย่าง เพียงคำแรกก็ต้องนิ่วหน้ากับรสชาติที่ไม่ค่อยกลมกล่อมนัก พอเหลือบมองสีหน้าของอัตรคุปต์ก็พบว่าพาสต้าซอสครีมไข่กุ้งของเขาก็คงไม่เวิร์กเหมือนกัน เพราะกินไปไม่เท่าไรชายหนุ่มก็ยกอเมริกาโนเย็นขึ้นมาดื่มก่อนจะขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าแล้วรีบล้างปากด้วยน้ำเปล่า
“เลี่ยน” เมื่อเห็นสายตาที่มองมา อัตรคุปต์ก็ตอบสั้นๆ
“ลองชิมของนีซสิ” เธอพยักพเยิดไปยังจานกระเบื้องใบใหญ่ “เผ็ดโดดเชียว”
รู้แบบนั้นแล้วมีหรือที่ชายหนุ่มจะฝืนชิม เมื่อแน่ใจว่าอาหารหลักไม่ถูกปากทั้งคู่เลยเลือกสั่งของหวานมาแทน มาการองสีหวานจำนวนหกชิ้นถูกยกมาวางพร้อมๆ กับเค้กแครอตและเลมอนเมอแรงก์ทาร์ต ซึ่งหลังจากลิ้มรสชาติไปอย่างละนิดละหน่อยแล้วทั้งคู่ก็มองตากันนิ่งๆ
“ถ่ายรูปพอหรือยัง”
“เอามาให้นีซเช็กก่อนสิ”
เมื่ออดีตคนรักยื่นกล้องมาให้นิสรีนก็ไล่เช็กรูป หญิงสาวผงกศีรษะพร้อมทำสีหน้าพึงพอใจเมื่อพบว่าชุดฮันบกประยุกต์ซึ่งท่อนบนเป็นเสื้อแขนยาวเนื้อบางลายดอกกุหลาบสีขาวบนพื้นสีฟ้าอ่อนรับกับกระโปรงยาวสีม่วงอมน้ำเงินยาวครึ่งน่องตัดกับโทนสีขาวของร้านจนภาพออกมาสวยโดดเด่น
“กลับกันเถอะ”
เพียงเท่านั้นอัตรคุปต์ก็สั่งเช็กบิลทันที ปรากฏว่าเจ้าของคาเฟ่ที่แน่ใจแล้วว่าทั้งคู่คือเจ้าหญิงกุหลาบขาวกับคู่หมั้นไฮโซทำท่าจะไม่เก็บเงินเพื่อหวังให้นิสรีนถ่ายรูปโปรโมตร้านให้ เธอต้องปฏิเสธทั้งรอยยิ้มอยู่ครู่หนึ่งแล้วรับปากว่าตอนลงรูปจะแท็กชื่อร้านให้อย่างแน่นอน เจ้าของคาเฟ่ซึ่งประทับใจในตัวนางเอกคนดังเลยมอบส่วนลดสำหรับครั้งนี้และครั้งถัดไปให้แทน
พอกลับขึ้นมาบนรถรอยยิ้มซึ่งประดับวงหน้าสวยก็หายวับ นิสรีนถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะวางกล่องบรรจุขนมหลากหลายชนิดที่เจ้าของคาเฟ่ยัดใส่มือมา
“ดีแต่สถานที่” คำวิจารณ์สั้นๆ จากคนที่กำลังหมุนพวงมาลัยเตรียมเลี้ยวรถออกสู่ถนนใหญ่เรียกรอยยิ้มขำจากนิสรีน
“หลายที่ก็เป็นแบบนี้แหละ” ผู้มีประสบการณ์ตระเวนเที่ยวคาเฟ่มาอย่างโชกโชนเอ่ยปาก “ส่วนใหญ่ที่นีซไปคือร้านสวย เน้นให้ลูกค้ามาถ่ายรูปเอาวิวเอาบรรยากาศ แต่เรื่องรสชาติของอาหารและเครื่องดื่ม…” หญิงสาวส่ายหัว “ไม่ค่อยคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายหรอก”
จริงอยู่ว่าส่วนมากคาเฟ่ที่เธอไปถ้าจำได้ว่านิสรีนเป็นใครก็มักจะไม่เก็บค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยหวังให้เธอลงโปรโมตในอินสตาแกรมให้ และถึงจะต้องเสียจริงๆ เงินหลักร้อยจนถึงพันต้นๆ นั่นก็ไม่ได้กระเทือนกระเป๋าหญิงสาวเท่าไร แต่เมื่อลองคิดถึงคนอื่นๆ ที่มาเที่ยวแล้วเธอก็อดเซ็งแทนไม่ได้
“มันไม่มีเหรอ คาเฟ่ที่ทั้งสวยและอาหารอร่อยในราคาที่คนทั่วไปเอื้อมถึง”
เมื่อได้ยินคำถามจากคนที่พึมพำออกมาอย่างไม่คิดอะไรมากไปกว่าการต่อบทสนทนากับเธอ นัยน์ตาสวยเฉี่ยวก็เบิกกว้าง นิสรีนหันกลับไปมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาเป็นประกาย
“ใช่” นั่นไม่ใช่คำตอบรับว่าไม่มี แต่มันหมายความว่าเธอได้ไอเดียดีๆ เกี่ยวกับเส้นทางในอนาคตแล้วต่างหาก