บทที่ 132
ใบหน้าของชายผู้นั้น อู๋เซี่ยวเซี่ยวมองอย่างไรก็เห็นไม่ชัด เห็นเพียงนิ้วมือเรียวยาวที่กำลังถือมีดปอกผลไม้ค่อยๆ ปอกแอปเปิ้ล เปลือกห้อยลงมาที่พื้นเรื่อยๆ โดยไม่ขาดจากกัน…
เมื่อเขาปอกแอปเปิ้ลเสร็จไปลูกหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมองร่างของนางที่นอนนิ่งไม่ไหวติงบนเตียง ก่อนจะค่อยๆ โยนแอปเปิ้ลที่ปอกเสร็จแล้วลงในถังขยะข้างๆ พร้อมเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง
‘คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอว่าสิ่งที่อธิษฐานไว้ในใจตอนปอกแอปเปิ้ลจะเป็นความจริง แต่ทำไมทุกครั้งที่ผมเดิมพันว่าถ้าเปลือกแอปเปิ้ลไม่ขาดแล้วคุณจะตื่นมันกลับไม่เป็นความจริงล่ะ’
อู๋เซี่ยวเซี่ยวได้ยินแล้วหัวใจสั่นสะท้าน แต่ตอนที่นางถูกพยุงขึ้นมาแล้วไออย่างรุนแรง ภาพลวงตาตรงหน้าก็พลันหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
ในตอนนั้นเองฮั่วสุยเฟิงวิ่งมาอยู่ใกล้ๆ นางแล้ว เมื่อเห็นว่านางหยุดไอในที่สุด ถึงได้ช้อนร่างอุ้มนางขึ้นมาแล้วพากลับไปยังกระโจมริมฝั่งเพื่อให้นางพักผ่อนและเปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่ลื่นไถลเมื่อครู่นี้ โม่เซี่ยวเหนียงเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าขาทั้งสองข้างเจ็บชาจนนางพลัดตกลงไปในน้ำ
หลังจากที่นางถูกพยุงขึ้นมา ความคิดทั้งหมดยังคงวนเวียนอยู่กับภาพลวงตาแปลกประหลาดที่เพิ่งเห็นในห้วงความคิดอันยุ่งเหยิง มัวแต่สับสนว่าตนเองในยุคปัจจุบันนั้นตายไปแล้วหรือว่ายังมีชีวิตอยู่จนไม่มีเวลาตอบคำถามของฮั่วสุยเฟิง
ฮั่วสุยเฟิงเห็นโม่เซี่ยวเหนียงยืนนิ่งไม่พูดอะไรเหมือนตกอยู่ในภวังค์ก็ร้อนใจ จึงรีบตรวจดูว่าร่างกายนางมีอะไรผิดปกติหรือไม่
ปรากฏว่าเขาพบรอยแดงเล็กๆ สองจุดใกล้กับจุดชาบริเวณข้อพับขาของนาง
คนฝึกยุทธ์ต่างรู้ว่าหากโจมตีจุดชาจะทำให้ขาทั้งสองข้างเจ็บชาและไร้เรี่ยวแรงจนไม่สามารถทรงตัวได้ เห็นได้ชัดว่าโม่เซี่ยวเหนียงไม่ได้ก้าวพลาดจนลื่นไถลลงไปเอง แต่มีคนจงใจใช้ของเล็กๆ อย่างก้อนกรวดขว้างไปยังจุดชาของนาง จึงทำให้นางลื่นไถลจนตกน้ำ
แต่คนที่ทำเรื่องนี้จะต้องอยู่ไม่ไกลจากโม่เซี่ยวเหนียง มิฉะนั้นคงหาจุดชีพจรไม่พบได้ง่ายๆ เพราะโม่เซี่ยวเหนียงสวมกระโปรงยาว
เมื่อคิดถึงมาถึงตรงนี้ฮั่วสุยเฟิงจึงให้หานเยียนช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้โม่เซี่ยวเหนียงที่ยังคงเหม่อลอย ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปจากกระโจม ดวงตาคู่งามกวาดมองคนที่รายล้อมโม่เซี่ยวเหนียงเมื่อครู่นี้อย่างเย็นชา
คนกลุ่มนี้มีทั้งองครักษ์และสาวใช้ นอกจากคนที่ไว้ใจได้ไม่กี่คน ทุกคนล้วนมีพิรุธ
เชี่ยวจือที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนเริ่มรู้สึกเสียใจที่ตนเองหุนหันพลันแล่น
ตอนแรกนางคิดว่าแค่กลั่นแกล้งฝ่ายนั้นสักครั้งคงไม่เป็นไร ตอนนั้นนางจึงเลือกใช้ลูกปัดสองเม็ดที่แม้จะซัดไปถูกจุดชีพจรแล้วทิ้งรอยแดงไว้ แต่ก็จะจางหายไปในเวลาไม่นาน ผู้ที่ถูกลูกปัดก็แค่รู้สึกขาชาทรงตัวไม่ได้เท่านั้น
ขอเพียงโม่เซี่ยวเหนียงรู้สึกไม่สบายตัวหรือไม่ก็แท้งบุตรก็จะปรนนิบัติจวิ้นอ๋องไม่ได้ไปพักใหญ่ บุรุษหนุ่มแน่นเปี่ยมด้วยพลังจะทนเรื่องนี้ได้หรือ เมื่อถึงเวลานั้นนางก็จะหาทางเข้าใกล้จวิ้นอ๋อง เมื่อจวิ้นอ๋องมีใจให้นาง นางก็จะเผยฐานะที่แท้จริงของตน พร้อมให้คำมั่นว่าบิดาของนางจะช่วยให้เขาได้ปกครองแผ่นดินอันกว้างใหญ่
ได้ทั้งแผ่นดินได้ทั้งหญิงงาม มีผู้ใดในใต้หล้าปฏิเสธได้บ้าง
แต่นึกไม่ถึงว่าฮั่วสุยเฟิงจะค้นพบความผิดปกติได้เร็วเพียงนี้