บทที่ 134
อดีตที่ไม่อาจย้อนกลับ เมื่อหันกลับไปมองก็เป็นความเสียใจที่ติดอยู่ในใจไปชั่วชีวิต
เซียวเยวี่ยเหอมองโม่เซี่ยวเหนียงด้วยจิตใจหวั่นไหวไม่สงบ แต่ใบหน้ายังคงแสดงสีหน้าที่เหมาะสม เขาทักทายฉู่เซิ่นที่ยืนอยู่ข้างหน้าโม่เซี่ยวเหนียงตามมารยาท
พูดตามตรงฉู่เซิ่นในตอนนี้รู้สึกชิงชังสกุลเซียวยิ่งนัก หากตอนนั้นไม่ใช่เพราะเซินหยางจวิ้นจู่แห่งสกุลเซียวปากเปราะเปิดเผยเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงของภรรยาและลูกเลี้ยงของเขา หูซื่อก็คงไม่ต้องตกใจกลัวจนไม่กล้าออกจากจวน
แม้ตอนนี้สกุลเซียวจะฉวยโอกาสในช่วงสงครามฟื้นอำนาจและกุมอำนาจทางการทหารของต้าฉินไว้ได้ แต่ฉู่เซิ่นนั้นดูแคลนคนสกุลเซียวอย่างยิ่ง
ดังนั้นเมื่อเซียวเยวี่ยเหอทักทายเขา เขาก็เพียงแค่นเสียงโดยไม่แม้แต่จะรักษามารยาท ก่อนตรงไปที่ข้างรถม้าของภรรยาและลูกเลี้ยง สะบัดบังเหียนแล้วขับรถม้าจากไป
โม่เซี่ยวเหนียงเองก็ไม่คิดจะทักทายเซียวเยวี่ยเหอก่อน ร่างของหญิงงามปรากฏข้างรถม้าเพียงชั่วขณะ ก่อนกลับเข้าไปซ่อนตัวในม่านรถม้าจนมองไม่เห็น
แต่ระหว่างทางกลับฉู่เซิ่นขับรถม้าและบังเอิญพบขุนนางที่เพิ่งออกจากที่ประชุมในตำหนักแปรพระราชฐาน เขาจึงร่วมเดินทางกับสหายร่วมงานในวันวาน ต่างฝ่ายต่างและสนทนากันเล็กน้อย
สกุลเซียวมีพรรคพวกในราชสำนักมากมาย แต่ก็มีผู้ที่ไม่ชอบพวกเขาเช่นกัน ใต้เท้าเลี่ยวผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ระหว่างทางเขาจึงพูดถึงเรื่องสกุลเซียวหลายเรื่องให้ฉู่เซิ่นฟัง
หนึ่งในนั้นคือข่าวที่ว่าเซียวเยวี่ยเหอได้ที่ปรึกษามาคนหนึ่ง เป็นเพียงบัณฑิตที่ไม่ได้มีเกียรติยศชื่อเสียงใดๆ แต่ด้วยโอกาสและจังหวะที่ประจวบเหมาะ หากไม่ใช่เพราะที่ปรึกษาผู้นี้ได้ช่วยวางแผนอย่างสุดความสามารถในศึกเมืองฉางเหมียน กองทัพสกุลเซียวก็อาจพ่ายแพ้ย่อยยับไปแล้ว
ฉู่เซิ่นรู้สึกสงสัยจึงถามนามของที่ปรึกษาผู้นั้น ใต้เท้าเลี่ยวผู้นี้มีนิสัยชอบซุบซิบนินทา เมื่อได้ยินฉู่เซิ่นถามก็หัวเราะแล้วตอบ
“พูดไปแล้วแม่ทัพฉู่ก็น่าจะรู้จักเขาเช่นกัน เขาสกุลเซิ่ง เหมือนจะเคยเกี่ยวข้องกับครอบครัวของท่าน…หึๆ ไม่พูดดีกว่า ไม่พูดแล้ว”
โม่เซี่ยวเหนียงซึ่งนั่งอยู่ในรถม้าได้ยินชัดเจน หัวใจนางพลันกระตุกทันที คนแรกที่นางนึกถึงคือเซิ่งเซวียน
ในนิยายต้นฉบับไม่เพียงแค่พระเอกที่มีออร่าเท่านั้น คุณชายเซิ่งก็มีออร่าพระรองเช่นกัน เขาถูกลิขิตให้ต้องผ่านความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งในสนามรัก จึงจะสามารถเกิดใหม่จากเถ้าถ่านเหมือนพญาหงส์และเปล่งประกายโดดเด่นราวกับได้รับการชุบชีวิตใหม่
แต่ในนิยายต้นฉบับเซิ่งเซวียนเคยเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของฮั่วสุยเฟิง ทว่าตอนนี้กลับกลายมาเป็นที่ปรึกษาของเซียวเยวี่ยเหอ ช่วยให้ซื่อจื่อสร้างชื่อเสียงอันดีงามในฐานะขุนนางคนสำคัญแห่งยุค เรียกได้ว่าพล็อตเรื่องเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว
และเมื่อสืบหาสาเหตุก็เป็นเพราะตัวนางโม่เซี่ยวเหนียงที่ทำให้คู่จิ้น ‘สุยเซวียน’ ไม่สามารถเป็นไปได้
แม้โม่เซี่ยวเหนียงจะไม่ได้รู้สึกเสียดายที่พลาดการแต่งงานกับเซิ่งเซวียนไป แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าการที่เซิ่งเซวียนเอนเอียงไปทางเซียวเยวี่ยเหอจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อฮั่วสุยเฟิง
สำคัญที่สุดคือหากฮั่วสุยเฟิงเป็นคนเดียวกับที่นางคาดเดาไว้ว่าจะเป็น ‘เขา’ จริงๆ จากความเข้าใจเพียงผิวเผินต่อบทละครเรื่องนี้ เขาจะรับมือกับคู่จิ้น ‘เซวียนเยวี่ย’ ซึ่งเป็นการจับคู่ของพระรองสุดแกร่งที่เป็นคนในพื้นที่คู่นี้ได้อย่างไร