บทที่ 93
เรื่องนี้ทำให้เหยาซื่อรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง
แต่โชคดีที่ก่อนหน้านี้นางเพียงปฏิเสธสิ่งของที่น้องสามีส่งมาในจดหมายอย่างสุภาพ ไม่ได้ถึงขั้นแตกหักกัน ยังพอมีหนทางให้แก้ไขอยู่
คงต้องให้คนในเรือนลองไปดูที่คฤหาสน์แห่งนั้นสักหน่อย เผื่อจะได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องอีกครั้ง
ฉู่จิ่นเป็นคนที่มักหลบเลี่ยงปัญหาเสมอ เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องยากลำบาก เขามักโทษเหยาซื่อว่านางมองอะไรตื้นเขิน ตอนนี้น้องชายของเขาเลื่อนตำแหน่งอย่างมีเกียรติกลายเป็นขุนนางใหญ่ขั้นหนึ่ง อีกทั้งเรื่องกลับบ้านเกิดเป็นเรื่องใหญ่เพียงนี้ ถึงกับไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าให้ตนรู้เรื่อง แสดงว่าโกรธตนแน่แล้ว
เป็นเพราะภรรยาที่บ้านยุยง ทำให้พี่น้องสกุลฉู่แตกคอกัน หากไม่ใช่เพราะนางแล้วจะมีกำแพงดินมูลคั่นกลางคอยตบหน้าเขาอยู่เช่นนี้หรือ
ทั้งสองไม่พ้นต้องทะเลาะกันอีกครา ฉู่จิ่นเคียดแค้นที่เหยาซื่อทำลายอนาคตของเขา
เหยาซื่อร้องไห้คร่ำครวญ บอกว่าตนทำเพื่อสกุลฉู่ สุดท้ายก็ถูกตำหนิไปเสียทุกอย่าง
ในระหว่างที่ทั้งสองทะเลาะกันไม่หยุด เฉียนซื่อภรรยาของฉู่เฉวียนผู้เป็นบุตรชายจึงต้องเข้ามาห้าม
ภรรยาของฉู่เฉวียนคนนี้เป็นบุตรสาวของครอบครัวซิ่วไฉในหมู่บ้าน ตอนนั้นได้ยินว่าฉู่เซิ่นได้ตำแหน่งรองผู้บัญชากองการทหารรักษาพระองค์ และสกุลฉู่ก็เป็นครอบครัวที่มั่งคั่งในท้องถิ่น นางถึงได้แต่งเข้ามา
หลังจากแต่งงานเข้ามาในตระกูล นางไม่เคยพบท่านอารองผู้สูงส่งของสามี จึงพยายามปลอบโยนบิดามารดาสามีว่าท่านอารองกลับมาย่อมเป็นเรื่องดี เหตุใดต้องทะเลาะกันไม่เลิกราด้วย ควรหาวิธีกระชับความสัมพันธ์กับท่านอารองเมื่อได้พบกันจะดีกว่า ถึงอย่างไรฉู่เฉวียนก็สอบไม่ผ่านมาหลายครั้ง ตอนนี้ไม่มีตำแหน่งขุนนาง หากได้ทำงานกับท่านอารองก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคตอีกต่อไป
เมื่อได้ยินลูกสะใภ้เตือนเช่นนั้น เหยาซื่อก็มีแรงฮึดขึ้นมาทันที รีบบอกให้ฉู่จิ่นเลิกทำตัวเป็นคนอวดดีอยู่ในเรือน และรีบไปกระชับความสัมพันธ์กับฉู่เซิ่นเสีย
พวกเขาจึงเตรียมตัวนำไก่ เป็ด และไข่ หิ้วไปที่คฤหาสน์ริมทะเลสาบ
น่าเสียดายตอนที่พวกเขาไปถึง ฉู่เซิ่นและครอบครัวยังมาไม่ถึง ผู้ดูแลคฤหาสน์ท่าทางเป็นคนเห็นแก่ผลประโยชน์ มองพวกเขาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า แม้จะพูดจาอย่างสุภาพ แต่ก็ไม่ได้แสดงความเป็นมิตร
“นายท่านเชิญนั่งก่อน ตอนนี้ท่านแม่ทัพและครอบครัวยังอยู่ระหว่างการเดินทาง อีกไม่นานก็คงจะมาถึง บ่าวไพร่ในคฤหาสน์ต่างกำลังเร่งรีบจัดเตรียมงานอยู่ เกรงว่าจะดูแลขาดตกบกพร่อง หากต้องการมาพบท่านแม่ทัพ อีกสองสามวันค่อยมาจะดีกว่าขอรับ”
เหยาซื่อเห็นคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตกว้างขวางสุดสายตา ทะเลสาบภายในพื้นที่คฤหาสน์ยังพายเรือได้ด้วย ช่างเหมือนวังในนิทาน เห็นแล้วทำให้รู้สึกอิจฉาตาร้อนยิ่ง
น้องสามีมาเยี่ยมบ้านเกิดครั้งนี้ยังต้องเดินทางไปที่อื่นอีกแน่นอน ปล่อยคฤหาสน์โล่งๆ ไว้จะไม่น่าเสียดายหรือ เอาไว้นางให้ฉู่จิ่นพูดกับน้องสามีว่าเมื่อน้องสามีไปแล้วก็ให้บ้านใหญ่ของพวกนางย้ายเข้ามาเพื่อช่วยดูแลคฤหาสน์ให้ ย่อมเป็นการดีต่อทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นเมื่อผู้ดูแลคฤหาสน์ไล่แขกออกไปอย่างสุภาพ เหยาซื่อจึงแสร้งทำเป็นฟังไม่ออก วางท่าเหมือนเป็นเจ้าของบ้านพร้อมกับเอ่ยขึ้น
“ข้าเป็นพี่สะใภ้ของฉู่เซิ่น มีอย่างที่ไหนน้องชายกลับมา แต่พวกเราต้องรออีกหลายวันค่อยมาพบ จัดห้องให้พวกเราสองสามห้องเถิด พวกเราจะรอที่นี่!”
ผู้ดูแลคฤหาสน์ได้รับคำสั่งจากโม่เซี่ยวเหนียงมาล่วงหน้า จึงรู้วิธีรับมือกับบ้านใหญ่ที่เห็นแก่ผลประโยชน์เช่นนี้
เขาจึงโบกมือสั่งคนจัดห้องให้พวกเหยาซื่อสองห้องทันที