ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2
บทที่ 1
อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดพร้อมกับเจิงฝาน ศิลปินในสังกัดของเธอที่กำลังโด่งดัง
อันที่จริงพูดให้ถูกต้องคือเจิงฝานไม่ใช่แค่ศิลปินของเธอ แต่ยังเป็นสามีที่แต่งงานกับเธออย่างลับๆ มาหลายปีด้วย
เมื่อข่าวเจิงฝานแต่งงานมาห้าปีแล้วถูกแฉออกมา แฟนคลับของเทพเจิงก็ตกตะลึงเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงจนสติไม่เหลือหลอ จากนั้นก็แห่ขบวนไปเขียนประณามต่อว่าผู้จัดการดาราที่ไร้คุณธรรมทางอินเตอร์เน็ต…อู๋เซี่ยวเซี่ยว
ต้องบอกก่อนว่าสองสามปีมานี้เทพเจิงมีผลงานเพลง จากนั้นก็หันไปเอาดีด้านการแสดง อีกทั้งยังเป็นหนุ่มหล่อผู้มีความเป็นศิลปินที่ติดกลิ่นอายเศร้าๆ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาในรอบห้าพันปี
ผู้ชายตัวท็อปแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นสามีของเด็กสาวและผู้หญิงอีกมากมาย
แต่นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่ชาตินี้พวกเธอถูกลิขิตให้ไม่ได้มาครอบครองจะถูกอู๋เซี่ยวเซี่ยวสาวทึนทึกที่แก่กว่าเขาหกปีเอาไปนอนกกแล้ว!
การแต่งงานที่ไม่เหมาะสมกันแบบนี้ช่างเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงที่สะเทือนเลื่อนลั่น ทำให้คนที่ได้ยินเรื่องนี้ทำหน้าเศร้าราวกับบุพการีเสีย และทำให้แฟนคลับไม่อาจอวยพรให้ไอดอลอย่างอบอุ่นจริงใจได้
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่ถูกแฉออกมาพร้อมข่าวแต่งงานลับๆ ของเทพเจิงยังมีเรื่องภายในอันเลวร้ายสารพัด อย่างเช่นอู๋เซี่ยวเซี่ยวควบคุมเรื่องเงินของเทพเจิงมาโดยตลอด และเซ็นสัญญา ‘ขายตัว’ ที่ยาวนานถึงยี่สิบปีกับเทพเจิงในตอนนั้น รวมถึงเรื่องที่ฉวยโอกาสตอนเทพเจิงยังเยาว์วัยไร้เดียงสา ยั่วยวนเทพเจิงและท้องหลอกๆ เพื่อบีบบังคับให้แต่งงานด้วย
หากข่าวลือพวกนี้กลายเป็นเรื่องจริง อู๋เซี่ยวเซี่ยวก็เทียบได้กับเศรษฐีเจ้าของที่ดินในสังคมศักดินาเก่าที่ฉุดคร่าลูกสาวชาวนา เธอไม่เพียงฮุบเงินจากหยาดเหงื่อแรงกายจากการทำงานอย่างหนักหลายปีของศิลปินในสังกัด แต่ยังเป็นศาลาริมน้ำย่อมได้รับแสงจันทร์ก่อน ใช้ประโยชน์จากความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเจิงฝานในตอนนั้น และใช้อำนาจทำให้ร่างกายของหนุ่มหล่อวัยใสมีมลทินมัวหมอง
สิ่งที่ทำให้บรรดาแฟนคลับยากจะรับได้คืออู๋เซี่ยวเซี่ยวที่ได้ทั้งเงินและผู้ชายทำเหมือนตนเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ระหว่างที่ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ก็ออกนอกลู่นอกทางไปมีคนอื่น ทั้งยังจะฟ้องหย่าเจิงฝาน โยกย้ายทรัพย์สิน หั่นค่าตัวเจิงฝานกว่าครึ่ง และครึ่งปีที่ผ่านมานี้บริษัทเอเจนซี่ภายใต้ชื่อของเธอยังดองงานเจิงฝาน บีบบังคับให้เขายอมจำนน พักงานของเขาไปมากกว่าครึ่ง และบอกปัดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของผู้กำกับชื่อดังไปหลายเรื่อง
นี่หมายความว่าอาชีพในวงการบันเทิงของเจิงฝานจะถูกทำลายด้วยน้ำมือของอู๋เซี่ยวเซี่ยวสาวทึนทึก จึงทำให้เทพเจิงที่อยู่เงียบๆ มาโดยตลอดจำต้องฉีกสัญญาและหันไปเซ็นสัญญากับบริษัทเอเจนซี่อื่น แล้วให้บริษัทใหม่ช่วยจ่ายค่าปรับมหาศาลให้ เขาถึงจะรักษาอาชีพของตนเองไว้ได้
เจิงฝานที่เป็นคนนอบน้อมถ่อมตนและมีจิตใจดีงาม เขาทนลำบากตรากตรำมาหลายปีแล้ว! ติ่งสาวๆ จำนวนมหาศาลที่มีใจปกป้องสามีอยากจะฉีกอู๋เซี่ยวเซี่ยวเป็นชิ้นๆ ใจแทบขาดเพื่อช่วยให้ไอดอลหลุดพ้นออกมาจากโคลนตม
ขณะที่ในอินเตอร์เน็ตวิจารณ์กันอย่างดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ในโลกความจริงก็มีการกระทำที่รุนแรงต่ออู๋เซี่ยวเซี่ยวเกิดขึ้นด้วย
เช้านี้ตอนที่อู๋เซี่ยวเซี่ยวออกจากบ้าน เธอพบว่ารถสปอร์ตที่จอดไว้ในโรงจอดรถชั้นใต้ดินถูกคนใช้สีพ่นเป็นตัวหนังสือสีดำภาษาจีนและภาษาอังกฤษว่า
‘นางแพศยาต้องไม่ได้ตายดี’
แต่อู๋เซี่ยวเซี่ยวกลับใจเย็นมาก เธอดื่มนมหนึ่งกล่องในมือแล้วล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้ ก่อนแจ้งฝ่ายจัดการทรัพย์สินให้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งตำรวจ
หลังจากทำทุกอย่างนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็ขึ้นเฟอร์รารี่สีแดงอีกคันที่ปกติไม่ค่อยได้ขับเดินทางไปบริษัทตามปกติ
น่าเสียดายที่ในตารางงานอันยุ่งวุ่นวายของวันนี้ได้ถูกลิขิตมาแล้วว่าจะต้องถูกใครบางคนขัดขวาง ไม่อาจทำงานอย่างสงบใจได้
เวลานี้ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะกว้างของเธอ กินเวลาอันแสนมีค่าของเธอด้วยถ้อยคำจริงใจและปรารถนาดีไปสิบนาทีแล้ว
“เซี่ยวเซี่ยว ผมเองก็ไม่อยากให้คุณถูกคนเสียสติบางคนทำร้าย…ดังนั้นพวกเรารีบหย่ากันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ดีกว่านะ วางใจได้ ทรัพย์สินระหว่างการแต่งงานของพวกเรา ผมจะยกให้คุณทั้งหมดเลย ผมไม่เอาแม้แต่เฟิน เดียว…”
คำพูดนี้พูดออกมาอย่างใจกว้างและอดทน ต่อให้ถูกบันทึกเสียงเก็บไว้เป็นหลักฐานก็ไร้ที่ติ
ฟังคำพูดนี้แล้วอู๋เซี่ยวเซี่ยวก็เสยผมสั้นให้ดูเรียบร้อย ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมาจากโน้ตบุ๊ก ดวงตากลมโตมองเจิงฝาน…สามีที่อยู่กินกับเธอมาห้าปีด้วยแววเยาะหยันเต็มเปี่ยม
พอเห็นเขาตอนนี้เธอก็รู้สึกจากใจจริงว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก ไม่แปลกที่ตอนนั้นเธอจะเลอะเลือน ไม่ยอมเชื่อฟังคำห้ามปรามของพ่อ ยืนกรานจะแต่งงานกับเด็กหนุ่มปอนๆ คนนี้ที่ตอนนั้นยากจนข้นแค้น
กาลเวลาใจกว้างกับผู้ชายมาโดยตลอด หลายปีที่ผันผ่านอย่างรวดเร็วทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นทุนเดิมของผู้ชายดูมีเสน่ห์เข้มข้นลึกล้ำยิ่งขึ้นอย่างที่ไม่อาจมีในวัยเยาว์
จากสายตามือของอาชีพอย่างอู๋เซี่ยวเซี่ยว เจิงฝานเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่เธอเคยปั้นมา หากขัดเกลาและยกระดับฝีมือด้านการแสดงไปเรื่อยๆ ก็สามารถโด่งดังไปจนถึงวัยหกสิบปีได้โดยไม่มีความกดดันใดๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้จัดการดาราอย่างเธอภาคภูมิใจที่สุดคือคนร่วมเตียงควบศิลปินคนนี้ นอกเหนือจากเสน่ห์และฝีมือด้านการแสดงที่ก้าวหน้าขึ้นพร้อมกาลเวลาแล้ว ยังมีเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้บีบบังคับให้ภรรยาหย่าและยอมแพ้ซึ่งเตรียมการมาอย่างยาวนาน
Comments
