LOVE
ทดลองอ่านเรื่อง ภาพ รัก ลวง บทนำ – บทที่ 5
บทที่ 3
ภัทรยศทำได้อย่างที่สัญญาไว้กับตัวเอง เขาไม่ข้องเกี่ยวกับดุสิตาอีกเลยตลอดหนึ่งเทอม ขณะอีกฝ่ายเลิกมอง เลิกพูด เลิกเฉียดกรายใกล้บริเวณที่เขาอยู่ ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้เหตุผลของดุสิตาว่ามาจากอะไร แต่ที่แน่ๆ การเรียน การทำรายงาน รวมถึงการสอบล้วนมีส่วนสำคัญมากทีเดียวที่ทำให้เขากับเธอไม่มีเวลาสนใจกันอีก
อย่างไรก็ตามแม้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กันแล้ว แต่ข่าวคราวของดุสิตากลับเข้าหูของภัทรยศเป็นระยะราวกับเรื่องราวของเธอคือสีสันของคณะ คือเครื่องปรุงรสเผ็ดจัดจ้านที่ถ้าหากขาดไปชีวิตประจำวันของทุกคนจะจืดชืดไร้รสชาติ
“รู้เรื่องรุทธ์ยัง”
อรอุมาพูดเมื่อนั่งลงยังโต๊ะเลกเชอร์ภายในห้องเรียนวิชาการจัดการกลยุทธ์การตลาด ความจริงเธอเอ่ยกับชโลธร แต่คนหูผึ่งกลับเป็นยุทธนาซึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง
“ยัง” ยุทธนาชะโงกหน้าบอก ฝ่ายคนเริ่มเรื่องซึ่งเป็นสาวสวยรูปร่างดีเอี้ยวตัวมอง สายตาคู่นั้นแสดงความเบื่อหน่ายเพื่อนจอมสอดรู้สอดเห็น
“เรื่องงานวันเกิดอาทิตย์หน้าน่ะเหรอ รุทธ์ชวนแล้ว” ชโลธรเอ่ยถึงงานวันเกิดของรุทธ์ในเดือนพฤศจิกายน อรอุมาลดเสียง
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“งั้นเรื่องอะไร” ชโลธรสงสัย อรอุมาขยับเก้าอี้เลกเชอร์ กวักมือเรียกให้ยุทธนาโน้มศีรษะมาใกล้ๆ
“เรื่องพักหลังมีคนเห็นรุทธ์กับนิ้งอยู่ด้วยกันบ่อยๆ…และสงสัยว่าจะคบกันแล้วด้วย”
ถึงเคยสัญญากับตัวเองว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของดุสิตา แต่พอได้ยินข่าวนี้ภัทรยศที่นั่งข้างยุทธนาถึงกับหยุดขยับปากกา เขาไม่ได้เงยหน้าแต่พอเดาออกว่าทั้งชโลธรกับยุทธนาต้องตาโต
“จริงดิ!” ยุทธนาเสียงดัง อรอุมาจุปากให้เงียบแล้วเล่าต่อ
“จริง เราเองยังเคยเห็นสองครั้งที่โรงอาหาร ตอนแรกนึกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องบังเอิญเจอกัน ท่าทางไม่ใช่ละ”
“มิน่า…” ชโลธรทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างออก “หนก่อนที่เต้ยเม้าท์เรื่องนิ้งกดปิดประตูลิฟต์ทั้งที่เต้ยกับน้องบัวบอกให้รอด้วย รุทธ์ถึงได้บอกว่านิ้งอาจจะกดปุ่มผิด และยังเรื่องของน้องบัวที่หายอีก รุทธ์ก็บอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
“อะไรหายวะ” ยุทธนาไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะตกข่าวนี้
“กระเป๋าเครื่องสำอาง ในนั้นมีแต่ของยี่ห้อแพงๆ ทั้งนั้น” ชโลธรบอกสิ่งที่เคยแอบสังเกตตอนเข้าห้องน้ำพร้อมรุ่นน้องคนดัง “ได้ยินเค้าบอกกันว่านิ้งขโมยไป แต่ไม่รู้จริงหรือเปล่า”
“จริงแท้แน่นอน” อรอุมายืนยันด้วยคำบอกเล่าที่ได้ฟังจากพัชรีซึ่งเป็นเหลนรหัสของตน “เพราะอีกวันนิ้งทาลิปสติกสีเดียวกันเป๊ะกับลิปสติกแท่งใหม่ของน้องบัวที่หายไป แล้วพอถูกถาม นิ้งก็ร้อนตัวโวยวายว่าเป็นลิปสติกของตัวเองที่เพิ่งได้มา แหม อะไรจะบังเอิญมีลิปสติกแท่งใหม่พร้อมกัน อีกอย่างอย่างนิ้งน่ะเหรอจะมีปัญญาซื้อของแพงใช้”
ทุกคนเห็นด้วยเพราะประเมินจากการแต่งตัวของดุสิตาล้วนเห็นชัดว่าเป็นของโหลราคาถูกคนละเกรดกับข้าวของของบงกชจึงไม่มีทางเลยที่จะมีของดีราคาแพงใช้
“เรื่องยังไม่จบแค่นั้น” อรอุมาทำท่าโกรธแค้นราวสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของตัวเอง “ยายนิ้งยังร้ายกาจ หาว่าน้องบัวใส่ร้าย โธ่เอ๊ย อย่างน้องบัวจะใส่ร้ายใครได้ ด่าเป็นหรือเปล่ายังไม่รู้เลย อ้อ พอเพื่อนๆ โมโหเรื่องนิ้งต่อว่าน้องบัว น้องบัวยังช่วยแก้ตัวแทนนิ้งด้วยซ้ำว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เพราะวันไปซื้อลิปสติกเจอกับนิ้งที่ห้างด้วย”
“โถ น้องบัว น้องนางฟ้าของพี่ ของตัวเองโดนขโมยยังช่วยแก้ตัวให้นางมารดำอีก” ยุทธนาทำหน้าสงสารบงกชจับใจ จากนั้นเปลี่ยนเป็นเสียงแข็ง “ยังงี้นางมารดำก็รอดตัวสิ”
“รอดหวุดหวิด” อรอุมาหัวเราะหึๆ “แต่พอรอดแล้วยังไม่วายค่อนขอดน้องบัวว่าสร้างภาพทำตัวเป็นแม่พระ”
“อ้าว” ชโลธรหน้าเหลอ “ว่าแต่รุทธ์ไม่รู้เรื่องนี้หรือไง ทำไมถึงยังคบนิ้งเป็นแฟนอีก ถึงหน้าตาสวยมาก แต่ขี้ขโมยแบบนี้ไม่น่าคบหรอก”
“เพราะรุทธ์โง่ไง ผู้หญิงสวยๆ ดีๆ เยอะแยะไม่เอา ดันไปเอาคนแบบยายนิ้ง”
อรอุมาเบะปาก ขณะชโลธรกับยุทธนาเพิ่งนึกออกว่าอรอุมาเคยเป็นฝ่ายรุกจีบรุทธ์ตอนปีหนึ่ง แต่โดนฝ่ายชายปฏิเสธ หากอย่างไรทั้งคู่เห็นด้วยกับเรื่องเพื่อนรูปหล่อพ่อรวยไม่ฉลาด ทั้งยังเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไปจนกลายเป็นตามไม่ทันเล่ห์กลของดุสิตา
“ยังงี้วันเกิดรุทธ์ นิ้งต้องไปด้วยสิ” ชโลธรเปรย ยุทธนายักไหล่
“แหงอยู่แล้ว ไอ้รุทธ์คิดอะไรของมันวะ จู่ๆ จะพาขโมยเข้าคฤหาสน์ ดีล่ะ…” ยุทธนากระทุ้งศอกใส่คนที่ยังก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือ “ฟังอยู่หรือเปล่าวะไอ้ริ้ว”
“ได้ยิน” ภัทรยศตอบ ขณะยุทธนายืดอกพูดเสียงเข้ม
“วันเกิดไอ้รุทธ์ กูกับมึงไปเล่นเกมจับหัวขโมยกัน”
หนนี้ภัทรยศเงยหน้า แสดงสีหน้าให้รู้ว่าไม่เอาด้วย
“ไม่เอา กูไม่ชอบเล่นเกม”
“มึงต้องเล่น” ยุทธนาบังคับ จากนั้นหรี่ตามองเพื่อนที่ทำหน้าบูดบึ้ง “กูรู้มึงไม่อยากยุ่งกับนิ้ง แต่งานนี้ไม่ยุ่งไม่ได้ว่ะ เพราะรุทธ์เป็นเพื่อนกลุ่มเรา เราต้องปกป้องเพื่อนให้พ้นจากมนตร์ดำของนางปีศาจ”
“กูว่ามึงอยากหาเรื่องนิ้งเพราะต้องการแก้แค้นแทนน้องบัวมากกว่า”
ไม่เพียงภัทรยศที่รู้ทัน ชโลธรกับอรอุมาก็ด้วย ยุทธนาหัวเราะแหะๆ แก้เก้อ
“เออน่า เพื่ออะไรก็ช่างเถอะ แต่ยังไงงานนี้มึงเลี่ยงไม่ได้” ยุทธนารู้ทันเรื่องที่เพื่อนหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับดุสิตามาตั้งแต่เทอมก่อนเช่นกัน แววตาเขาเต้นริกๆ ในตอนเอ่ยต่อมา “หนนี้กูขอหนักกว่าหนก่อน เอาให้นางมารน็อกหมดฤทธิ์เสียที…ถ้าไม่เห็นแก่กูก็เห็นแก่รุ่นน้องเราเถอะวะไอ้ริ้ว ไหนๆ พวกเราใกล้เรียนจบแล้ว ถ้าไม่ปราบกำราบยายนิ้งไว้มีหวังคณะเราได้เข้าสู่ยุคมืดแน่”
ยุทธนาขู่ ภัทรยศขยับปากจะบอกว่าตนไม่ใช่มือปราบมารเพราะฉะนั้นอย่าได้ลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ไม่ทันปฏิเสธ อาจารย์ได้เข้ามาในห้องเรียนเสียก่อน เรื่องราวของดุสิตาจึงจบลงเพียงเท่านั้น