LOVE
ทดลองอ่านเรื่อง ภาพ รัก ลวง บทนำ – บทที่ 5
พอบงกชและยุทธนากลับเข้ามาสมทบกับกลุ่มเพื่อน ทุกสายตาต่างมองไปทางดุสิตาพร้อมกันราวนัดหมายไว้ ทว่าเหมือนรู้ตัวล่วงหน้าอยู่แล้วว่าต้องถูกจับตามองดุสิตาเลยวางเฉย ไม่ยิ้มแย้มแต่ก็ไม่แสดงอาการจงเกลียดจงชังบงกชเหมือนอย่างตอนอยู่มหาวิทยาลัย
คนโล่งใจมากที่สุดคือรุทธ์เพราะเมื่อวานดุสิตาเพิ่งโกรธงอนเรื่องเขาชวนบงกชมางานวันเกิดหยกๆ แถมยังประกาศด้วยว่าถ้ามีบงกชก็ต้องไม่มีเธอ แต่แล้วระหว่างปวดหัวกับเรื่องนี้ จู่ๆ ตอนหัวค่ำหญิงสาวกลับโทรศัพท์บอกว่าได้เตรียมเสื้อผ้าใหม่สำหรับใส่มางานวันเกิดเขาแล้ว
รุทธ์จึงรีบเอาใจด้วยการขับรถไปรับคนรักที่หอพักและพาไปกินข้าวกลางวัน เขาสบายใจที่ดุสิตาเลิกงอนแต่ในขณะเดียวกันยังคงกังวล กระทั่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่หวั่น รุทธ์แทบอยากถอนหายใจดังๆ ออกมาด้วยความโล่งอก
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เพื่อนๆ ต่างสนุกสนานและเอร็ดอร่อยกับอาหารทะเลที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้อย่างเหลือเฟือ กระทั่งหกโมงกว่าท้องฟ้าจึงเริ่มมืด อากาศเริ่มเย็น รุทธ์ชวนทุกคนเข้าไปในห้องรับแขก คุยเฮฮาเรื่องสัพเพเหระครู่หนึ่ง ชโลธรจึงถามขึ้นมา
“คราวหน้าไปต่างจังหวัดกันมั้ย เที่ยวทิ้งทวนก่อนเรียนจบไง”
ทุกคนเห็นด้วยและพากันเสนอว่าจะไปจังหวัดใด แต่เนื่องจากเพื่อนผู้หญิงส่วนใหญ่ติดปัญหาเรื่องพ่อแม่ไม่อนุญาตให้ไปเที่ยวไกลๆ ส่วนบางคนติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย รุทธ์เลยบอก
“ไปเที่ยวรีสอร์ตพ่อเราที่เขาใหญ่มั้ยล่ะ ไม่ไกล แถมยังพักฟรี สนใจหรือเปล่า”
เพื่อนตอบรับด้วยเฮ ทั้งขอบคุณล่วงหน้าและล้อว่ารุทธ์เป็นเจ้าสัวน้อย หลังจากชนแก้วแล้วลูกชายเจ้าสัวได้บอกกับผู้นั่งไหล่ชิดกับตนบนโซฟายาว
“ไปด้วยกันนะนิ้ง”
แม้เอ่ยเสียงเบาแล้ว แต่เพื่อนผู้ชายคณะนิเทศศาสตร์ที่นั่งทางด้านซ้ายของรุทธ์กลับหูดีได้ยิน
“หวานเชียวไอ้รุทธ์ ที่ชวนนิ้งไปเนี่ยจะชวนไปเที่ยวควบถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งเลยหรือเปล่า กูจะได้เตรียมกล้องไปเผื่อ เออ…จะว่าไปวันนี้นิ้งแต่งชุดสีขาวสวยซะด้วย แถมยังดูมีราศีเจ้าสาวอีกต่างหาก…น้องนิ้งคร้าบ แต่งงานเมื่อไหร่อย่าลืมพี่นะครับ เกิดพี่ตกงานขึ้นมาให้พี่ไปเป็นคนเลี้ยงม้าที่รีสอร์ตก็ยังดี”
ดุสิตาหัวเราะคิก เขินอายท่ามกลางเสียงหยอกกระเซ้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกผู้ชาย เธอบอก
“แซวอะไรกันไม่รู้ นิ้งเขินนะคะ”
“นิ้งเขินแล้ว งั้นถามรุทธ์แล้วกัน มึงจะไปขอน้องเมื่อไหร่วะ หลังเรียนจบเลยเป็นไง” เพื่อนผู้ชายอีกคนพูด
“ได้ไงล่ะ เราเรียนจบแต่นิ้งยังไม่จบนี่นา อีกตั้งสามปี” รุทธ์มองดุสิตาตาเชื่อมจนเพื่อนบางคนแกล้งทำหน้าเลี่ยน ขณะคนเดิมเอ่ยต่อ
“งั้นก็อีกสามปี ดีเหมือนกัน พวกกูจะได้มีเวลาเก็บเงินใส่ซองงานแต่งมึง”
“พี่อ่ะ แซวอีกละ นิ้งบอกแล้วไงว่าเขิน” ดุสิตาทำหน้าตาน่าเอ็นดู “…แล้วอีกตั้งนานกว่านิ้งจะเรียนจบ ดีไม่ดี ป่านนั้นพี่รุทธ์อาจเปลี่ยนใจแล้วก็ได้” หญิงสาวย่นจมูกใส่คนรักที่ยิ้มกว้างพลางบอกเสียงดังฟังชัด
“ไม่เปลี่ยนหรอกน่า”
เท่านั้นเองเสียงโห่ฮิ้วก็ดังลั่น ใบหน้าดุสิตาแดงก่ำ เธออายจนไม่รู้จะวางมือไว้ที่ไหนเลยหยิกเข้าที่ต้นแขนรุทธ์แก้เขิน ขณะรุทธ์แสร้งร้องโอ๊ย ดุสิตาตกใจปล่อยมือ แต่พอเห็นคนขี้แกล้งหัวเราะเธอจึงหยิกอีกรอบ
ทุกคนต่างมองภาพหยอกเอินของคู่รักด้วยความอิจฉา กระทั่งเสียงโห่ฮิ้วเงียบลง บงกชซึ่งยืนอยู่ใกล้กับภาพวาดมหาสมุทรก็พูดขึ้นมา
“ที่รีสอร์ตพี่รุทธ์มีม้าด้วยเหรอคะ”
“ครับ” รุทธ์ตอบสั้น
“ดีจัง บัวชอบขี่ม้าค่ะ”
บงกชส่งยิ้มเข้าใจว่าเมื่อรุทธ์ประกาศชวนทุกคนย่อมหมายรวมถึงตนด้วย แต่ไม่ทันชวนคุยถึงเรื่องขี่ม้า สายตาน่ากลัวของดุสิตาได้ทำให้บงกชหน้าเจื่อนรู้ตัวว่าตนคือแขกคนเดียวที่จะไม่ได้รับเชิญ หญิงสาวเม้มริมฝีปากพูดอะไรไม่ออกกระทั่งเจ้าของบ้านเข้ามาในห้องรับแขก
“คุยอะไรกันอยู่ เสียงดังถึงข้างบนเชียว” รัชนีกรเอ่ย เธอลงมาจากชั้นบนเพราะมีนัดหมายกับเพื่อนของลูกและอยากลงมาตรวจตราด้วยว่ามีใครแอบดื่มเหล้าหรือเปล่า “ว่าไงจ๊ะหนูบัว คุยอะไรกัน”
ดวงตากลมใสแสดงความแปลกใจที่รัชนีกรเจาะจงถามตน เธอแอบมองดุสิตากับรุทธ์แวบหนึ่ง
“พี่รุทธ์ชวนทุกคนไปเที่ยวรีสอร์ตของคุณแม่ที่เขาใหญ่ค่ะ ได้ยินว่ามีม้าด้วย”
“ใช่ อยากไปเมื่อไหร่บอกกับรุทธ์มาแล้วกัน แม่จะได้ให้เลขาฯ แจ้งทางรีสอร์ต จริงสิ ขี่ม้าเป็นกันหรือเปล่า” รัชนีกรถามเพื่อนลูกซึ่งส่วนใหญ่ไม่เคยขี่ม้า จากนั้นเจาะจงเอ่ยกับบงกชอีกครั้ง “หนูบัวขี่ม้าเป็นด้วยเหรอ”
“เป็นนิดหน่อยค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวให้รุทธ์ช่วยหัด”
ดวงตารัชนีกรมองลูกชายอย่างไม่แลถึงคนด้านข้าง ยุทธนานั้นถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อเห็นดุสิตาหน้าจ๋อยจนโดนชโลธรกระทุ้งศอกเตือน ขณะรุทธ์บุ้ยหน้าไปทางเพื่อนตัวโต
“ให้จุ้ยหัดให้สิครับ รายนั้นขี่ม้าเก่งกว่าผมอีก”
คนตัวโตผู้กำลังอ้าปากเพื่องับคัพเค้กของบงกชหน้าเหลอ ด้วยไม่รู้ว่าตนกลายเป็นคนขี่ม้าเก่งตั้งแต่เมื่อไร แต่ที่แน่ๆ เขารู้ว่ารุทธ์กำลังเอาตัวเองเป็นกันชนและเขาดันต้องช่วยเพื่อนเสียด้วย
“ได้สิ เดี๋ยวเราหัดให้ทุกคนเอง ราคากันเอง ไม่แพง มีประกันหัวแตก ขาหัก ปากฉีกให้ด้วย สำหรับน้องบัว เห็นแก่หัวสวยๆ พี่แถมหมวกกันน็อกให้อีกต่างหาก”
บงกชหน้าเสีย เพื่อนคนอื่นเช่นกัน รัชนีกรสั่นศีรษะ
“พูดจาอะไรน่ากลัว มานี่มะหนูบัว มาใกล้ๆ แม่ อย่าไปยืนใกล้ตาจุ้ย”
รัชนีกรพูดพลางจูงข้อมือหญิงสาวออกจากห้องรับแขกโดยบอกว่าอยากขอสูตรคัพเค้ก จากนั้นทุกคนพูดคุยกันต่ออย่างไม่ทันสังเกตว่ามีเพื่อนหายไปอีกสามคน จนจู่ๆ เกิดไฟดับ คนที่หายไปทั้งหมดถึงกลับมาพร้อมเสียงเพลง