LOVE
ทดลองอ่านเรื่อง ภาพ รัก ลวง บทนำ – บทที่ 5
เสียงร้องเพลง Happy Birthday ดังขึ้นก่อนขนมเค้กจะเดินทางมาถึงในห้องรับแขกเสียอีก รุทธ์ออกอาการเขินที่ต้องมาเป่าเค้กราวตัวเองเป็นเด็กชายวัยสิบขวบไม่ใช่ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองปี แต่แล้วความรู้สึกดังกล่าวอันตรธานลับหายทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนประคองขนมเค้กเข้ามา
แสงเทียนเล่มน้อยส่องให้เห็นผิวหน้าแดงเรื่อของบงกช รุทธ์ประหลาดใจ ก่อนเข้าใจเรื่องทั้งหมดเมื่อเห็นแม่เดินตามมาข้างหลังด้วย ลูกชายไม่พอใจที่แม่เจ้ากี้เจ้าการบังคับให้บงกชเป็นคนถือขนมเค้กแทนที่จะเป็นชโลธรหรือเพื่อนผู้หญิงคนอื่น แต่เพราะเป็นวันเกิดทั้งยังอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ เขาจึงจำต้องฝืนยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าและช้อนตาขึ้นหลังเสียงเพลงจบลง
“Happy Birthday ค่ะพี่รุทธ์”
หากเป็นเมื่อก่อนรุทธ์คิดว่าตนเองคงหวั่นไหวไปกับดวงหน้าหวานละมุน แต่เวลานี้เมื่อมีดุสิตาเป็นคนรัก ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจึงเป็นความอึดอัด ชายหนุ่มเป่าเทียนแรงจนดับหมดทันที จากนั้นไฟสว่างพึ่บพร้อมกับคำอวยพรของรัชนีกรที่มอบให้ลูกชาย
“สุขสันต์วันเกิดลูกรัก ขอให้ลูกเจริญก้าวหน้าในทุกเรื่อง โดยเฉพาะความรัก แม่ขอให้ลูกมีความรักที่ดีจ้ะ”
รัชนีกรบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ลูกชายและบงกช
ดุสิตาต้องใช้ความพยายามอย่างมากทีเดียวที่จะไม่อาละวาดพังข้าวของภายในห้องรับแขก แต่กระนั้นเธอยังลืมตัวกำหมัดแน่น ส่งสายตาขุ่นมัวไปยังทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้า
แน่ล่ะว่าดุสิตาดูออกเรื่องรัชนีกรไม่ชอบขี้หน้าตน ซึ่งเธอดูออกตั้งแต่วันแรกที่พบรัชนีกรกับรุทธ์ในร้านอาหารที่ตนทำงานพิเศษ โดยเธอเองไม่เคยรู้สาเหตุจึงคาดเดาเหตุผลไว้ว่าอาจเป็นเพราะความจน ความดำ ไม่มีสง่าราศีอย่างพวกคุณหนูที่ทำให้รัชนีกรคิดว่าเธอไม่มีความเหมาะสมกับลูกชายแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอเลยอุตส่าห์ตัดใจถอนเงินหลายร้อยเพื่อลงทุนซื้อชุดกระโปรงชุดนี้เพื่อให้ตัวเองดูดีมีราคาเหมาะกับคฤหาสน์หรูและผู้ชายหรูๆ อย่างรุทธ์
แต่ถึงขนาดลงทุนหลายร้อยกลับไม่พออยู่ดี อีกทั้งเธอยังโดนฉีกหน้าอีกต่างหาก แถมคนที่รัชนีกรใช้เป็นเครื่องมือยังเป็นคนที่ดุสิตาอาฆาตแค้นแช่งชักหักกระดูกให้ล่มจม
ส่งสายตาชิงชังให้บงกชอย่างเปิดเผยก่อนค่อยรู้สึกตัวเมื่อจู่ๆ ได้ยินเสียงกระแอม ดุสิตามองหาต้นเสียง ครั้นรู้ว่าเป็นเสียงของเจ้ายักษ์ตัวโตที่กำลังจ้องมองตนอยู่เธอก็สะบัดหน้าพรืด ก่อนเอ่ยอย่างหมดความอดทน
“นิ้งไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะพี่รุทธ์”
พูดพร้อมก้าวฉับๆ ออกจากห้องรับแขก รุทธ์หน้าเสียจะคว้าแขนดุสิตาก็ทำไม่ได้เพราะถือเค้กอยู่ เขาจึงรีบวางเค้กลงบนโต๊ะ แต่ไม่ทันก้าวตาม เขาได้โดนแม่ดุให้ช่วยตัดแบ่งเค้กก่อน ฝ่ายบงกชหน้าเสียไม่แพ้กัน เธอเอ่ยเบาให้เขาได้ยิน
“ขอโทษนะคะพี่รุทธ์ บัวไม่ได้ตั้งใจให้พี่กับนิ้งทะเลาะกัน”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้โกรธบัว บัวสบายใจได้”
หญิงสาวค่อยยิ้มออก รับเค้กจากชายหนุ่มด้วยความสบายใจพลางกินอย่างเอร็ดอร่อย
“เกมพลิกไปพลิกมา สนุกชะมัด” อรอุมาเอ่ยกับชโลธรและเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนที่ยืนอยู่บริเวณมุมด้านในของห้องรับแขก ขณะพวกที่เหลือคุยเฮฮาอยู่ตรงโซฟา
“เกมพลิก? ไม่เห็นมีใครเล่นเกมเสียหน่อย” ชโลธรขมวดคิ้ว มองพวกเพื่อนผู้ชายก็ไม่เห็นใครเล่นเกมสักคน อรอุมากลอกตาอย่างเบื่อหน่ายแล้วเฉลย
“เรื่องนิ้งกับน้องบัวไง ตอนแรกนึกว่างานนี้นิ้งชนะขาดลอยได้เจ้าชายมาครอง แต่ไปๆ มาๆ พระราชินีถึงขั้นลงมาจัดการเขี่ยนางมารเสียกระเด็น แถมยังหาเจ้าหญิงให้เจ้าชายเองอีกต่างหาก งานนี้ห้ามกะพริบตาเพราะเราคิดว่านางมารไม่มีทางยอมแพ้เจ้าหญิงง่ายๆ”
“พูดยังกับนิ้งกับบัวแข่งกันเรื่องรุทธ์” เพื่อนผู้หญิงรูปร่างอวบที่มีชื่อว่ากมลวรรณพูด
“แข่งแน่นอน” อรอุมามั่นใจ “เพราะแต่ไหนแต่ไรยายนิ้งแข่งกับบัวทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องประกวดดาว เรื่องทำขนม”
“ขนม? ตอนไหนเหรอ ทำไมเราไม่เห็นเคยรู้เรื่อง” ปัทมาซึ่งมีรูปร่างตรงกันข้ามกับกมลวรรณอย่างสิ้นเชิงเอ่ย ชโลธรบอก
“บลูเบอรี่ชีสพายน่ะ นิ้งเห็นบัวเอาขนมมาแจกเลยทำมาแจกมั่ง แต่ปรากฏว่า…”
“โดนจุ้ยด่าสาดเสียเทเสีย เสียดายตอนหลังจุ้ยวางมือเรื่องนิ้งไปเสียก่อน ไม่งั้นมันหยด” อรอุมาเหลือบมองแผ่นหลังคนตัวสูงใหญ่ที่สุดในรุ่นซึ่งวันนี้แต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ
“สรุปคือนิ้งแข่งกับบัวมาตลอดและแพ้มาตลอด งานนี้เลยต้องวัดกันที่รุทธ์ แต่เราว่านะ…” กมลวรรณครุ่นคิด “รุทธ์ดูชอบนิ้งจะตาย คงไม่คบกับบัวหรอก”
“ไม่แน่หรอก” อรอุมาเข้าข้างบงกชเต็มตัว “เพราะงานนี้บอกแล้วไงว่าแม่ของรุทธ์ไม่เอาด้วย อย่างว่าเนอะ แค่มองด้วยสายตาก็รู้แล้วว่าใครดีกว่าใคร”
“แต่วันนี้นิ้งสวยออก สวยมากด้วย และถ้าไม่นับตอนโมโหตะกี้” ชโลธรหมายถึงตอนบงกชถือเค้กวันเกิดเข้ามาในห้อง “เราคิดว่านิ้งปรับปรุงตัวเองดีขึ้นตั้งเยอะ ไม่วีน ไม่จิกด่าน้องบัวด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราว่านิ้งต้องเอาเค้กปาใส่หน้าบัวแน่ๆ”
“แหม นี่มันในคฤหาสน์ของรุทธ์นะจ๊ะ ถ้าริอยากเป็นคุณนายก็ต้องรู้จักสร้างภาพสิ ยิ่งต่อหน้าแม่ของรุทธ์ด้วย” อรอุมาเบะปาก “ว่าแต่ทำไมนิ้งถึงเกลียดบัวนัก อยากรู้จังแฮะ”
“เอ้กับเต้ยเคยบอกเพราะนิ้งอิจฉาเรื่องบัวสวยกว่ารวยกว่าไม่ใช่เหรอ” ชโลธรเอ่ยถึงสิ่งที่เพื่อนสองคนเคยบอก
“เมื่อก่อนเราเคยคิดอย่างนั้น แต่ดูเหมือนมันไม่ใช่แค่เรื่องนี้ เพราะน้องบัวหลุดปากพูดกับเราครั้งนึงว่าเคยเจอนิ้งตอนเด็กๆ”
ทุกคนตาโตกับข้อมูลใหม่ล่าสุดจากอรอุมา กมลวรรณเร่งยิกๆ
“อะไร ยังไง เล่าซิ!”
“รู้แค่นี้แหละ เพราะพอรู้ตัวน้องบัวก็ปิดปากสนิท” คนเปิดประเด็นใหม่ยักไหล่ ทว่าคนพูดน้อยที่สุดกลับมีข้อมูลบางอย่างที่ทำเอาทุกคนตาโตยิ่งกว่าเดิม
“เรารู้จักน้องปีหนึ่งคณะครุศาสตร์คนนึง” ปัทมาเริ่มอย่างลังเล จากนั้นลดเสียงลง “คนนี้เคยอยู่แถวบ้านนิ้ง เค้าบอกสมัยเด็กๆ ชื่อเสียงนิ้งไม่ดีเท่าไหร่ เพราะว่า…” คนเล่ากลืนน้ำลายท่ามกลางสายตากระหายใคร่รู้ “นิ้งเคยขโมยของแล้วโดนจับได้…และคนจับได้คือบัว”
“หา!”
ที่เหลือทั้งสามคนร้องดังลั่น ปัทมารีบจุปากให้ทุกคนเงียบพร้อมกับพูด