“อาจารย์ นี่คือสารล่าสุดขอรับ” เซียวเถิงอวิ๋นมอบศิลาบันทึกในมือให้เซียวชิน เขามาที่นี่ก็เพราะได้รับสารนี้
ในศิลาบันทึกก้อนนี้บันทึกรายการของล้ำค่าและทรัพย์สินที่ค้นออกมาจากหอซือมิ่ง สมาคมช่างหลอม ตระกูลนักยุทธ์ต้วน ตระกูลนักยุทธ์ฉู่ สมาคมนักล่า รวมถึงในสำนักเถาฮวากู่ได้เอาไว้
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในนี้ก็คือสิ่งที่ค้นออกมาได้จากหอซือมิ่ง
สั่งสมรากฐานมานานหลายพันปี สมุนไพรเลอค่า อาวุธวิเศษอาวุธล้ำค่า เงินทองของมีค่าจำนวนมหาศาลขนาดที่ใช้ถมสมาคมผู้ครองสัตว์วิเศษจนเต็มแล้วก็ยังเหลือ
“ดีเหลือเกิน” เซียวชินเพียงดูไปส่วนเดียว ในใจก็ให้โล่งอย่างมาก
การสร้างบ้านเมืองใหม่ต้องใช้เงิน การหลอมโอสถมารักษาอาการป่วยอาการบาดเจ็บต้องใช้สมุนไพร การตามจับผู้ทรยศแผ่นดินใหญ่ก็ต้องใช้อาวุธชั้นดี ของเหล่านั้นบัดนี้มีครบหมดแล้ว
เซียวชินดูเสร็จก็ให้ประมุขตระกูลเซียว หัวหน้าสำนักคุนหยาง หัวหน้าสำนักชิงหยวน รวมถึงมู่หรงฉางเฟิงและฉินจ้งเยี่ยดูด้วย
สิ่งของเหล่านี้เพียงพอจะสร้างบ้านเมืองทางตอนเหนือขึ้นใหม่ได้แล้ว
“นั่น…คืออะไร” เฟิงเจ๋ออ่านจดหมายของน้องชายจบก็มีสีหน้าพิกล ก่อนจะเดินกลับมาอย่างเชื่องช้า
“หาสมบัติได้จำนวนหนึ่ง นี่เป็นศิลาบันทึกที่ส่งกลับมาจากที่ต่างๆ” เซียวชินตอบ ทางหนึ่งก็มองเขาแปลกๆ
เฟิงเจ๋ออยากหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ไม่ใช่หรือไร ตนอุตส่าห์ยอมรับชะตากรรมตัดสินใจปล่อยให้เขาทำตามใจชอบแล้ว ไฉนโอกาสดีเพียงนี้ เฟิงเจ๋อกลับเป็นฝ่ายกลับมาเอง
“เป็นของที่ค้นได้จากหอซือมิ่ง สมาคมนักล่า สมาคมช่างหลอม ตระกูลนักยุทธ์ต้วนและฉู่ รวมถึงสำนักเถาฮวากู่?” สีหน้าของเฟิงเจ๋อยิ่งดูพิกล
“ใช่” เซียวชินไม่เข้าใจสีหน้าของเขา แต่ยังคงพยักหน้าพร้อมทั้งกล่าวต่อ “มีของเหล่านี้ พวกเราก็ทุ่นแรงและความยุ่งยากใจไปได้มาก”
เฟิงเจ๋อมองศิลาบันทึกที่หยิบมาจากมือฉินจ้งเยี่ยอย่างเงียบๆ สีหน้าพลันใกล้เคียงกับยามท้องผูก มิหนำซ้ำยังดูเหมือนเจ็บหน้าแข้งอีกด้วย
“เป็นอะไรไป” คนทั้งหมดรู้สึกประหลาดใจยิ่ง สีหน้านี้ของหัวหน้าเฟิง…แปลกยิ่งนัก
เฟิงเจ๋อยื่นศิลาบันทึกให้เซียวชิน ก่อนจะยื่นศิลาบันทึกที่เฟิงเหยี่ยนส่งมาพร้อมจดหมายให้เขาตาม จากนั้นก็โบกมือ “ท่านดูเองแล้วกัน!”
เซียวชินรับศิลาบันทึกสองก้อนมาดูอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
ครั้นแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเปล่งปลั่งกระปรี้กระเปร่าในทันที แต่สุดท้ายก็มีสีหน้า ‘เหมือนท้องผูกและเจ็บหน้าแข้ง’ ดุจเดียวกัน
จากนั้นเขาก็ส่งให้ประมุขตระกูลเซียว ส่งเวียนกันดูทีละคน สุดท้ายก็เวียนกลับไปที่เซียวเถิงอวิ๋น
ทั้งห้องเงียบสงบไร้เสียงใด
ความหมายของโม่ซั่งเฉินชัดแจ้งไม่ซับซ้อน หลานสาวของเขาขจัดภัยจากสัตว์วิเศษและกำจัดซือลิ่งเทียน ต้องวิ่งวุ่นตรากตรำ สร้างความชอบไว้ใหญ่หลวง เชื่อว่าทุกท่านคงไม่ถือสาที่จะมอบสมุนไพรชดเชย มอบวัตถุดิบหลอมประดิษฐ์ ตลอดจนมอบของล้ำค่าที่แปลกและหายากชนิดต่างๆ ให้หลานสาวตัวจ้อยผู้อ่อนแอของเขาได้เล่นยามเบื่อ สุดท้ายก็ยังไม่ลืมระบุเรียกจำนวนเงิน ‘ก้อนเล็กๆ’ ที่จะให้เป็นเงินเก็บส่วนตัวของหลานสาวเขามาด้วย
และ ‘เงินก้อนเล็กๆ’ นี้ก็เป็นจำนวนเท่ากับทรัพย์สินเงินทองที่พวกเขาได้มาพอดี
นอกจากนี้ยังเน้นอีกว่าไม่ต้องให้อาวุธล้ำค่าและอาวุธวิเศษอะไรมา หลานสาวของเขามีเพียงคนเดียว มีมากมายก็ใช้ไม่ไหว ดังนั้นขอจงอย่าส่งมาเยอะเด็ดขาด
ส่งเยอะ?
ส่งเยอะ?!
เขาระบุของทุกอย่างนอกเหนือจากอาวุธล้ำค่าและอาวุธวิเศษมาหมดแล้ว ยังจะมีอะไรให้ ‘ส่งเยอะ’ อีก
คนทั้งหลายราวกับสติหลุดหาย ผ่านไปครู่หนึ่งถึงใจเย็นลงได้เล็กน้อย ความสามารถในการคิดวิเคราะห์กลับคืนมา
“ผู้อาวุโสโม่…ทราบได้อย่างไรว่ามีของเหล่านี้”
“มิหนำซ้ำผู้อาวุโสโม่ยัง…เขียนมาได้…ไม่ขาดไปแม้แต่อย่างเดียวจริงๆ” วัตถุดิบหลอมประดิษฐ์และสมุนไพรชนิดต่างๆ ไม่ตกหล่นแม้แต่อย่างเดียว
“จำนวนเงินนี้…” จะพอดิบพอดีเกินไปหน่อยแล้วหรือไม่
“อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องควักเงินตนเองเพิ่ม”
“หากแต่นี่จะแพงเกินไปแล้วหรือไม่”
“ท่านอยากไปต่อรองกับโม่ซั่งเฉิน?”
“…” มิกล้า
“นอกจากของเหล่านี้แล้ว พวกท่านไม่เห็นหรือว่ายังมีจุดที่สำคัญที่สุดอยู่อีก” เฟิงเจ๋อถามขึ้น
“จุดใด” คนทั้งหลายไม่กระจ่าง
“พอพวกเราได้รับศิลาบันทึกทรัพย์สินสิ่งของนี้ ‘รายการของกำนัล’ ของโม่ซั่งเฉินก็มาถึงพร้อมกัน” มุมปากเซียวชินกระตุกเล็กๆ
“เอ่อ…” เวลาจะประจวบเหมาะกันพอดีเกินไปหน่อยแล้วหรือไม่
หรือว่าพวกเขากำลังทำอะไร ดำเนินการไปถึงขั้นใด โม่ซั่งเฉินล้วนรู้ทั้งสิ้น
หากแต่…ยามนี้เขามิใช่พาหลานสาวออกท่องเที่ยวหรือไร ไฉนจึงรู้เรื่องการดำเนินการของพวกเขาดีปานนี้
นี่ต้องหาข่าวเก่งเพียงใดถึงสามารถสืบรู้เรื่องสิ่งของเหล่านี้ได้อย่างกระจ่างแจ้ง ไม่ตกหล่นแม้แต่นิดเดียว
ไม่ตกหล่นแม้แต่นิดเดียว…
พอคิดถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกคนก็ดูคล้ายจะบิดเบี้ยวไปเล็กน้อยในทันใด
หรือว่า…โม่ซั่งเฉินปีศาจโม่ที่ไปไหนมาไหนตามลำพัง เย่อหยิ่งเย็นชา และบ้าคลั่งไร้ขอบเขตเสมอมาจะยังมีอาชีพเป็นสายสืบด้วย!