แม้น้องสาวจะปกป้องเข้าข้างไป่หลี่จิงหงเกินไป ทำให้พวกเขาที่เป็นพี่ชายรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่สักหน่อยจริงๆ ทว่าน้องสาวก็คือน้องสาว ยังคงต้องให้การค้ำจุน หากศัตรูในอนาคตของน้องสาวมีระดับขั้นสูงถึงเพียงนั้น เช่นนั้นพวกเขาก็จำต้องพยายามผลักดันตนเองให้ก้าวหน้าขึ้น
แม้ว่าเมื่อครู่จะไม่ได้สำแดงฝีมือและไม่ได้ออกหน้า แต่พี่น้องสกุลฉู่ยังคงได้รับการกระตุ้นเข้าแล้ว
ถึงจะไม่ได้เผชิญหน้า แต่ระดับขั้นยุทธ์ของชายฉกรรจ์ผู้นั้นกับ ‘ท่านป้า’ ผู้นั้นล้วนสูงกว่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ทว่าโม่อีเหรินอยู่ต่อหน้าคนทั้งสองกลับไม่ขลาดกลัวเลยสักนิด
ผู้เป็นพี่ชาย ต่อให้สู้น้องสาวไม่ได้ ก็ไม่อาจแย่กว่ามากเกินไปได้ สองพี่น้องต่างตระหนักในข้อนี้ดี จึงจำต้องพยายามยกระดับพลังแก่นแท้อย่างสุดชีวิต!
หากแต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องหาความรู้เพิ่มเติมเสียก่อน
“ดินแดนเทพยุทธ์ ขั้นดิน ขั้นฟ้า ขั้นราชันยุทธ์ ผู้ครองสัตว์วิเศษ ผู้บัญชาสัตว์วิเศษ ราชาสัตว์วิเศษ รอพวกเจ้าฝึกบำเพ็ญถึงขั้นสูงสุดแล้วค่อยมาถามคำถามนี้”
“ขอรับท่านตา” สองพี่น้องกล่าวตอบอย่างนอบน้อมพร้อมกัน
เฟิงเหยี่ยนถอนหายใจคำรบใหญ่ “เฉิน ท่านเข้มงวดยิ่งนัก”
โม่ซั่งเฉินไม่ใส่ใจเขา “การฝึกบำเพ็ญเป็นดั่งการพายเรือทวนน้ำ ไม่คืบหน้าก็ถอยหลัง การฝึกฝนทุกเวลาเป็นสิ่งจำเป็น”
เฟิงเหยี่ยนหมดคำพูด
ก็จริง เขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าตัวเฉินเองก็เป็นพวกคลั่งการฝึกบำเพ็ญ ตอนนั้นอายุเพิ่งจะสามสี่สิบปีก็แทบจะเป็นผู้ไร้เทียมทานบนดินแดนเทพยุทธ์แล้ว หากมิใช่ต่อมาถูกคนวางอุบาย ก็คงจะไม่มีเลือดเนื้อเชื้อไขออกมา
หลังจากนั้นเขาก็ยิ่งมุมานะศึกษาค้นคว้าเรื่องการหลอมโอสถและหลอมประดิษฐ์
สิ่งที่คิดไม่ถึงคือมันทำให้เฉินกลายเป็นปรมาจารย์ผู้ชำนาญทั้งยุทธ์ ทั้งโอสถ ทั้งหลอมประดิษฐ์ในคนเดียว นับแต่นั้นก็ยิ่งไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขาแล้ว
เฉินมีชื่อเสียงกระเดื่องในดินแดนเทพยุทธ์ ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง ผลคือเฉินกลับรู้สึกเบื่อหน่าย จึงแล่นออกไปโพ้นทะเล และยังบังเอิญได้พบเกาะโม่เสวียน…
พอคิดถึงตรงนี้ เฟิงเหยี่ยนก็อดจะริษยานิดๆ ไม่ได้
ไฉนเฉินถึงมีสติปัญญาสูงเพียงนี้
ไฉนเฉินถึงโชคดีเพียงนี้
หากเปลี่ยนเป็นเขาออกทะเล ไม่กล่าวถึงว่าสภาพอากาศบนทะเลและสัตว์ทะเลที่จำศีลอยู่นั้นอันตรายมากเพียงไร ลำพังแค่ไม่หลงทางก็ต้องร้องขอให้บรรพบุรุษช่วยคุ้มครองแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องหาเกาะเจอเลย
เปรียบเทียบคนเช่นนี้ทำให้เจ็บใจโดยแท้
“ท่านตา พวกเรากลับเกาะโม่เสวียนกันเถิดเจ้าค่ะ” โม่อีเหรินเอ่ย ดวงตาสุกใสแวววาว
“ไม่เที่ยวต่อแล้วหรือ” โม่ซั่งเฉินยิ้ม
“เอาไว้วันหลัง กลับไปกักตัวก่อน เมื่อครู่นี้ข้าดูเหมือนจะตระหนักรู้อะไรนิดหน่อยเจ้าค่ะ” บางทีบาทาเงามายาของนางอาจจะยังสามารถพัฒนาสูงขึ้นได้อีกขั้น
“ดี” โม่ซั่งเฉินพยักหน้าอย่างพอใจยิ่ง
โม่อีเหรินมองไปยังไป่หลี่จิงหง “จิงหงจะไปด้วยกันหรือไม่”
“ข้าจะไปส่งเจ้า จากนั้นข้าจะกลับเกาะหุน”