ชื่อเหยาพาพวกนางมาถึงหุบเขาอันเป็นที่พำนักของประมุขเกาะ
เกาะหุนมีเนื้อที่มาก มีผู้อยู่อาศัยนับแสน ที่ราบกินพื้นที่ครึ่งหนึ่ง อีกสามส่วนเป็นป่าเขา และสองส่วนที่เหลือเป็นภูเขาไฟและหนองน้ำ
ประมุขเกาะหุนทุกรุ่นล้วนพำนักในหุบเขาแห่งหนึ่งใจกลางเกาะเยื้องไปทางด้านขวา นอกจากเรือนพำนักที่มองเห็นแล้ว ยังมีเขตลี้ลับที่ถูกซ่อนเอาไว้อีกด้วย
“…วันนั้นข้ากับชิงเหยาเฝ้าพิทักษ์เขตลี้ลับอยู่ ไป่หลี่เยียนพายอดฝีมือระดับยอดราชันยุทธ์สองคนบุกเข้ามา พวกข้าสองคนกับเฮยเหยาที่รุดกลับมาพยายามต้านทานอย่างสุดกำลัง แต่ยังคงปกป้องประมุขน้อยให้ดีไม่ได้…”
ความสามารถของพวกเขาสามคนรวมกันยังคงรั้งยอดราชันยุทธ์ได้คนหนึ่ง ส่วนยอดราชันยุทธ์อีกคนถูกประมุขน้อย…วางยาพิษฆ่าตายขณะหมายใจจะจับตัวประมุขน้อยไป
แม้แต่ไป่หลี่เยียนก็ถูกประมุขน้อยฟาดไปหนึ่งฝ่ามือเช่นกัน เพียงแต่อาการพิษที่ประมุขน้อยระงับให้คงที่ได้ด้วยความยากลำบากกลับกำเริบขึ้นมาเพราะฝ่ามือนี้ ประมุขน้อยจึงได้หมดกำลังจะต่อต้าน ถูกไป่หลี่เยียนพาตัวไป แล้วยังถูกใช้เลือดเปิดกลไกลับ
ต่อมาพวกเขาถึงได้รู้ว่าในกลไกนั้นซ่อนค่ายกลส่งตัวเอาไว้
ครั้นท่านประมุขไล่ตามมาถึง ไป่หลี่เยียนก็ได้เปิดการทำงานค่ายกลส่งตัวแล้ว พวกเขามองเห็นเพียงภาพประมุขน้อยหายตัวไปต่อหน้าต่อตา
ท่านประมุขกระอักเลือดออกมาตรงนั้น อาการจากการใช้วิชาลับกำเริบในทันที ผมหงอกและใบหน้าแก่ชราลงในชั่วพริบตา
พวกเขากับพวกสี่อวี่ซึ่งเป็นองครักษ์ของท่านประมุขได้พบกันจึงได้รู้ว่าท่านประมุขถึงกับสังหารยอดราชันยุทธ์ไปห้าคนติดต่อกันด้วยตัวคนเดียว รวมถึงคนที่ถูกพวกเขาเหนี่ยวรั้งตัวไว้ด้วย
ประมุขน้อยหายตัวไป แม้วิกฤตภายในเกาะจะถูกคลี่คลายแล้ว แต่เกาะหุนเกิดการบาดเจ็บล้มตายมหาศาล ท่านประมุขก็บาดเจ็บสาหัส ซ้ำนอกเกาะยังมียอดราชันยุทธ์จ้องตะครุบเหยื่ออยู่อีกสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าปิดการทำงานค่ายกลพิทักษ์เกาะ
อาการบาดเจ็บของท่านประมุข พวกเขาเองก็ไม่มีปัญญาจะรักษา ได้เพียงทำตามคำสั่งของท่านประมุข รักษาคนเจ็บ สะสางทุกอย่างบนเกาะหุน และฝังศพคนตายก่อน
“ชื่อเหยา มนุษย์ถ่านสองคนที่ข้างนอกพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลแล้ว ก่อนที่พวกข้าจะกลับมาถึง ฮูหยินน้อยได้…จัดการไปเรียบร้อยแล้ว” นึกถึงแววตาไม่อยากเชื่อของมนุษย์ถ่านร่างสูงก่อนตาย ไป๋เหยาทางหนึ่งรู้สึกสะใจ แต่พร้อมกันนั้นก็ยุ่งยากใจยิ่งเช่นกัน
ทั้งๆ ที่มีฐานะเป็นองครักษ์ แต่คราวนี้พวกเขาสี่คนสอบไม่ผ่านจริงๆ เรื่องนี้ทำให้ไป๋เหยายึดเป็นบทเรียน ทำให้หลังจากนี้เขามุมานะฝึกบำเพ็ญยิ่งกว่าใคร จนเลื่อนขั้นเร็วกว่าอีกสามคน
“จัดการเรียบร้อยแล้ว?!” ชื่อเหยาตกใจลืมตาโพลง จากนั้นก็มองไปยังฮูหยินน้อยอย่างรวดเร็ว
ฮูหยินน้อยดูไม่ได้อ่อนแรงหรือมีท่าทางเหมือนเพิ่งผ่านศึกใหญ่มาแม้แต่น้อย นั่นก็หมายความว่าฮูหยินน้อยจัดการคลี่คลายได้อย่างง่ายดายสบายแรง
ยอดราชันยุทธ์จัดการได้ง่ายนักหรือ ชื่อเหยาสับสนอยู่เล็กน้อย…
ทว่าต่อให้ในสมองสับสนยิ่ง ชื่อเหยาก็มิได้ลืมความเร็วฝีเท้า นำพาพวกโม่อีเหรินมาถึงหน้าเรือนไผ่หลังหนึ่งในหุบเขา
สิ่งที่มองเห็นในแวบแรกมิใช่เรือนไผ่สร้างได้ดูบริสุทธิ์เหนือโลกีย์มากเพียงไร แต่เป็นเฮยอวี่ ไป๋อวี่ ชิงอวี่ ชื่ออวี่ ทั้งสี่อวี่ที่ยืนเป็นทวารบาลเฝ้าประตูอยู่
นี่คือองครักษ์ประจำตัวของไป่หลี่จิ้งหย่วน
โม่อีเหรินเคยพบเฮยอวี่ แต่ไม่เคยพบคนที่เหลือ
ด้านสี่อวี่พอเห็นคนแปลกหน้าก็แสดงแววตาระแวดระวังออกมาทันที ต่อให้เป็นคนที่ชื่อเหยาพามาก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะวางใจโดยสิ้นเชิง
“ท่านนี้…ก็คือคู่หมั้นของประมุขน้อย คุณหนูโม่อีเหริน” ชื่อเหยากล่าวแนะนำ
ที่ปกติสี่เหยาเรียกนางว่า ‘ฮูหยินน้อย’ นั่นเป็นเพราะประมุขน้อยให้การยอมรับ ทว่าก่อนจะได้แต่งงานกันอย่างแท้จริง อยู่ต่อหน้าผู้อื่นจึงยังคงใช้คำว่า ‘คู่หมั้น’
สี่อวี่สบตากันก่อนเฮยอวี่จะเอ่ยปากถาม