ทางด้านผู้อาวุโสไม่กี่ท่านได้แลกเปลี่ยนสายตากัน ตรึกตรองเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากกล่าวว่า ‘ไป่หลี่จิ้งหย่วน หยุดค่ายกลเสีย พวกข้า…ไม่บีบคั้นเจ้าแล้วก็ได้’
‘สายไปแล้ว เลือดแต่ละหยดที่จิงหงเสียไป พวกท่านล้วนต้องชดใช้เป็นเท่าทวี!’ ไป่หลี่จิ้งหย่วนโบกแขนเสื้อ ลงมือไม่ไว้ไมตรีโดยสิ้นเชิง ทุกกระบวนท่าล้วนหมายเอาชีวิต
การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ผู้อาวุโสทั้งหกไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงตอบโต้กลับเพื่อรักษาชีวิต ในขณะที่ไป่หลี่เยียนกลับยิ่งสู้ยิ่งถอย ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางสระน้ำลับ
อีกด้านหนึ่ง สี่เหยาพาไป่หลี่จิงหงมาส่งยังเขตลี้ลับด้วยความเร็วสูงสุด
เขตลี้ลับของเกาะหุน มิใช่สายเลือดของประมุขเกาะมิอาจเข้าไป สี่เหยาอาศัยพันธสัญญาเลือดที่มีกับไป่หลี่จิงหงทำให้สามารถเข้าเขตลี้ลับได้ แต่กลับอยู่ได้ไม่นาน
หลังวางตัวไป่หลี่จิงหงลงในสระน้ำลับแล้ว สี่เหยาก็ถอยออกมาเฝ้าที่ทางเข้าเขตลี้ลับ แต่ละคนมีสีหน้าหนักอึ้ง
ประมุขน้อยกินหยาดน้ำตาเทพยุทธ์ลงไป ซ้ำยังทั้งขวด…
‘น่าจะไม่เป็นอะไร ประมุขน้อยมียาแก้’ ชื่อเหยาพูดขึ้น เขาจำได้ว่าฮูหยินน้อยได้ให้ประมุขน้อยไว้ทั้งขวด
‘แต่ว่าประมุขน้อยดื่มลงไปมากถึงเพียงนั้น ยาแก้จะได้ผลหรือ’ มิใช่ว่าเฮยเหยาสงสัยความสามารถในการหลอมโอสถของฮูหยินน้อย แต่เป็นเพราะ…ได้รับพิษในปริมาณหนึ่งหยด กับดื่มลงไปทั้งขวด แตกต่างกันมากนัก!
‘ไป๋เหยา เจ้าออกจากเกาะหุนบัดเดี๋ยวนี้เลย ใช้ป้ายหยกสื่อสารติดต่อฮูหยินน้อย พาฮูหยินน้อยมาที่นี่’ ชิงเหยากล่าว
‘ใช่แล้ว ฮูหยินน้อยจะต้องมีหนทางช่วยประมุขน้อยได้แน่’ ชื่อเหยาและเฮยเหยาเห็นด้วย
‘ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้’ ไป๋เหยาหมุนตัวทำท่าจะจากไป
‘ประเดี๋ยวก่อน ให้เนตรทองพาเจ้าไป’ ชิงเหยาเรียกเนตรทองออกมา
เหยี่ยวเทพเนตรทอง สัตว์วิเศษที่มีพันธสัญญากับชิงเหยา บินได้เร็วอย่างที่สุด มีมันอยู่ สองชั่วยามก็สามารถไปถึงดินแดนเทพยุทธ์
‘ข้าจะพาฮูหยินน้อยมาให้ได้’ ไป๋เหยากล่าวด้วยท่าทางขึงขัง ขณะกำลังเตรียมตัวจะจากไปกับเนตรทอง รัศมีแสงสีทองอ่อนสายหนึ่งก็โอบล้อมเกาะหุนทั้งเกาะไว้ในทันที
‘นี่คือ…’ สี่เหยาตกใจ
‘ค่ายกลพิทักษ์เกาะ’ ชิงเหยาน้ำเสียงหนักอึ้ง
ท่านประมุขถึงกับเปิดการทำงานค่ายกลพิทักษ์เกาะ เช่นนั้นสถานการณ์ทางด้านท่านประมุข…
‘เมื่อค่ายกลพิทักษ์เกาะถูกเปิดขึ้น ก็ไม่มีใครเข้าออกได้…’ เฮยเหยาเองก็มีสีหน้าหนักอึ้งเช่นกัน เช่นนี้ไป๋เหยาจะไปหาฮูหยินน้อยได้อย่างไร
‘อือ…’ เสียงครวญครางเบาๆ เหมือนกำลังอดทนกับความเจ็บปวดทรมานที่ใหญ่ที่สุด ทั้งๆ ที่เสียงแผ่วเบายิ่ง แต่สี่เหยากลับล้วนได้ยินแล้ว
เป็นประมุขน้อย
ไป๋เหยาผลุบตัวเข้าเขตลี้ลับแล้วออกมาอีกครั้ง
‘ประมุขน้อยเริ่มสูญเสียสติสัมปชัญญะไปบ้างแล้ว’ ถ้ามิใช่สูญเสียสติสัมปชัญญะ ประมุขน้อยไม่มีทางส่งเสียงออกมาแน่นอน
สามเหยาได้ยินแล้วก็ต่างเงียบลง อารมณ์หนักอึ้ง
‘ล้วนต้องโทษไป่หลี่เยียน!’ ชื่อเหยาพูดด้วยความเดือดดาล มีเพลิงโทสะอยู่เต็มท้อง