“ข้าจะขอให้หลงจู๊เฉียวเตรียมเสื้อผ้ามาให้เจ้าอีกชุด รอเจ้าผลัดเปลี่ยนเรียบร้อย พวกเราจะออกเดินทางทันที” พูดจบโม่อีเหรินก็หมุนตัวเดินออกจากห้อง
ฉู่เซวียนอั๋งและฉู่เซวียนฉีเองก็เดินตามออกไปด้วย รอน้องสาวสั่งหลงจู๊เฉียวเสร็จแล้ว ฉู่เซวียนอั๋งถึงได้เอ่ยปากขึ้น
“โม่อีเหริน เกาะหุนยามนี้ยังอันตรายมาก” เขาไม่อยากให้น้องสาวไปเสี่ยง
“โม่อีเหริน ข้าจะติดต่ออาจารย์ บอกเรื่องนี้กับอาจารย์ก่อน พวกเรารออาจารย์กับท่านตามาถึงแล้วค่อยว่ากัน” ฉู่เซวียนฉีก็พูดขึ้นเช่นกัน
มีท่านตาอยู่ เชื่อว่าคู่ต่อสู้มีฝีมือสูงส่งเพียงไรก็มิเป็นปัญหา
โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ความแข็งแกร่งของท่านตาก็ได้ทำให้ฉู่เซวียนฉีเห็นเขาเป็นบุคคลต้นแบบแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่เล็ก ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจหรอก” โม่อีเหรินแย้มยิ้มเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แม้แต่น้อย
หากแต่นี่เป็นเพียงภายนอกเท่านั้น
แม้โม่อีเหรินจะไม่ได้แสดงออกมา แต่หากไม่เป็นห่วงไป่หลี่จิงหง โม่อีเหรินก็คงไม่ออกจากเกาะโม่เสวียนมาทันทีที่ได้รับข่าว
โม่อีเหรินมีสติถึงเพียงนี้ กลับทำให้ฉู่เซวียนอั๋งรู้สึกปวดใจ
กล้าทำให้น้องสาวข้าเป็นห่วงเพียงนี้ ไป่หลี่จิงหง วันหน้าได้พบกัน ไม่ ‘แลกเปลี่ยนฝีมือให้เต็มที่สักยก’ ข้าก็ไม่ได้ชื่อว่าฉู่เซวียนอั๋งแล้ว!
“พี่ใหญ่ อย่าลืมสิเจ้าคะว่านอกจากพลังยุทธ์แล้ว ข้ายังมียาลูกกลอนและยาผงมากมายให้ใช้ได้ พิษที่ร้ายกาจที่สุดมิได้มีเพียงหยาดน้ำตาเทพยุทธ์เสียหน่อย” โม่อีเหรินยิ้มตาหยี หากแต่น้ำเสียงทำให้คนรู้สึกเย็นวาบในใจอย่างอธิบายไม่ได้
“มิหนำซ้ำข้ายังมีผู้ช่วยอยู่ด้วย!” โม่อีเหรินเพิ่งจะพูดคำนี้ก็ได้ยิน…
“วู้!”
“โฮก!”
เขี้ยวเงินกับเซิ่นแย่งกันแสดงเจตนายินดีที่จะเป็นผู้ช่วย
ฉู่เซวียนอั๋งโน้มน้าวน้องสาวไม่สำเร็จ ได้แต่กล่าวว่า “รายงานให้ท่านตาเหยี่ยนทราบก่อน จากนั้นพวกเราก็ไปด้วยกัน”
น้องสาวจะไปเสี่ยงอันตราย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้เป็นพี่ชายจะต้องติดตามน้องสาวอย่างไม่คลาดสายตาแน่นอน
แม้จะรู้ว่าฮูหยินน้อยไม่ธรรมดาสามัญ แต่ขณะออกทะเล ไป๋เหยาก็ยังคงถูกพฤติการณ์ของฮูหยินน้อยทำให้สะท้านสะเทือน
“ต้องรบกวนพวกเจ้าอีกแล้ว” หลังหาชายทะเลที่ลับตาคนได้ ฮูหยินน้อยก็ลูบ…หัวฉลามยักษ์สองตัวอย่าง ‘สนิทสนม’
ฉลามยักษ์สองตัวนี้เป็นสัตว์วิเศษระดับแปดแล้วกระมัง!
“อั๋ง” ‘ไม่รบกวนๆ’
โผล่หลังที่กว้างเกินหนึ่งจั้งขึ้นมาให้ โม่อีเหรินกับฉู่เซวียนอั๋งขึ้นหลังตัวหนึ่ง ฉู่เซวียนฉีกับไป๋เหยาขึ้นหลังอีกตัว หลังไป๋เหยาบอกทิศทางจบ ฉลามทั้งสองตัวก็ออกว่ายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ย้อนนึกถึงสภาพตนเองที่ทุลักทุเลมีบาดแผลแทบจะทั้งตัวขณะว่ายน้ำมาถึงเมืองผิงเจิ้นด้วยความลำบากแสนเข็ญ เทียบกับสภาพสบายๆ ที่แค่นั่งเฉยๆ ไม่ต้องออกแรงก็สามารถเคลื่อนที่ไปบนทะเลได้อย่างรวดเร็วเช่นยามนี้ ไป๋เหยารู้สึกว่าตนเองไม่มีหน้าพบผู้คนแล้วจริงๆ
“วู้!” เขี้ยวเงินผิดหวังยิ่ง เหตุใดโม่อีเหรินไม่ให้มันพาไป…
“เด็กดี ประเดี๋ยวอาจจะต้องต่อสู้ เจ้าต้องรักษาพลังไว้” โม่อีเหรินปลอบมัน
“วู้…” เขี้ยวเงินได้รับการเยียวยาในพริบตา
“อั๋ง อั๋ง!” ‘พวกข้าก็ช่วยสู้ได้เหมือนกัน’ ฉลามทั้งสองตะโกนอย่างกระตือรือร้น ศัตรูของโม่อีเหรินก็คือศัตรูของพวกข้า พวกมันจะกัดให้ตาย!
“อืม เช่นนั้นอีกประเดี๋ยวพวกเจ้าก็ซุ่มอยู่ในทะเล มีโอกาสก็ลอบโจมตีนะ” โม่อีเหรินบอก
“อา…” ‘ไม่มีปัญหา’
“…” ฝ่ายหนึ่งพูดฝ่ายหนึ่งร้อง เช่นนี้สื่อสารกันเข้าใจจริงๆ หรือ