“เขาหลอมโอสถไม่เป็น แต่ข้าเป็น เขาแก้พิษไม่เป็น แต่ข้าเป็น แม้จิงหงจะแข็งแกร่งกว่าข้า แต่ความจริงคือจิงหงได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งยังถูกพิษในขณะที่ข้าไม่อยู่ข้างกายเขา ดังนั้นมอบยาให้เขา ข้าจะวางใจมากกว่า” นางถอนหายใจ ที่สำคัญที่สุดคือแม้ยาเม็ดนี้จะมหัศจรรย์มากสำหรับผู้อื่น แต่สำหรับโม่อีเหรินแล้ว มันมีประโยชน์ไม่มากเลยจริงๆ
“…” นี่ไป่หลี่จิงหงถูกหมั่นไส้เข้าแล้วหรือ
หลิงเซ่าจวินมองไป ค้นพบว่าไป่หลี่จิงหงที่ถูกหมั่นไส้…ยังคงแกะเปลือกลูกสนต่อไปโดยไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย
พฤติกรรมตามอกตามใจโดยไม่รู้ตัวพรรค์นี้ก็คือการสาดความหวานอย่างไม่ปิดบังนั่นเอง
นางไม่คิดถึงหัวอกของบุรุษผู้เดียวดายอย่างพวกเขาสามคนสักนิดเลย
“ยา” ไป่หลี่จิงหงเอ่ยปาก
หลิงเซ่าจวินสะดุ้งเล็กน้อย
ไม่เท่าเทียม! ไม่เท่าเทียมเกินไปแล้ว!
เวลาไป่หลี่จิงหงคุยกับโม่อีเหรินไม่เพียงแต่พูดครบจบประโยค ยังมีน้ำอดน้ำทนมากอีกด้วย แต่กับพวกเขากลับเงียบขรึมราวว่ากลัวทองจะร่วงจากปาก
หลิงเซ่าจวินเพิ่งคิดจะระเบิดโทสะ โม่อีเหรินกลับเอ่ยถามว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่ารายชื่ออิสระของผู้ที่จะเข้าแดนสมบัตินั้นคัดเลือกกันที่ใด”
“ท่านถามเรื่องนี้ด้วยเหตุใด…ท่านต้องการชิงที่นั่งเข้าแดนสมบัติ?!” หลิงเซ่าจวินประหลาดใจ
“ถูกต้อง” นางอุตส่าห์มาแล้ว แน่นอนว่าต้องเข้าไป
“ให้ไป่หลี่จิงหงพาท่านเข้าไปมิใช่หมดเรื่องแล้วหรือไร” ไยต้องทำเรื่องยุ่งยากปานนั้น
“ข้ามิใช่คนของภาคีผู้ฝึกตน ทำเช่นนั้นจะเป็นการนำพาปัญหามาให้จิงหง” สีหน้าท่าทางของโม่อีเหรินดูจริงจังยิ่ง
“อาศัยฐานะของพวกข้าสามคน ไม่ว่าผู้ใดอยากได้ที่นั่งอีกสักที่ก็ไม่มีทางจะมีใครกล้าพูดอะไร” ฐานะประมุขหอน้อยมิใช่เอาไว้เรียกกันเล่นๆ
“หากแต่คงจะมีคนด่าจิงหงเป็นแน่ มิหนำซ้ำคนอย่าง…เอ่อ…” โม่อีเหรินพยายามย้อนรำลึก “เว่ย…เว่ย…เว่ยเซียง คนที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา อีกทั้งคิดว่าตนเองแน่อย่างเว่ยเซียงจะต้องยังมีอีกอย่างแน่นอน”
“เรื่องของเว่ยเซียง ท่านไม่ต้องเก็บไปใส่ใจ” หลิงเซ่าจวินไม่เห็นเป็นเช่นนั้น
คนพรรค์นั้นมีอยู่ทุกแห่งหน อาจจะวิพากษ์วิจารณ์ลับหลังหรือทำลายชื่อเสียงของพวกเขา แต่แล้วอย่างไรเล่า ถ้าพวกเขายังใส่ใจแม้แต่คนพรรค์นี้ เช่นนั้นทิ้งตำแหน่งประมุขหอน้อยไปยังจะอิสระเสียกว่า
“อย่าคิดฟุ้งซ่าน” ไป่หลี่จิงหงตบศีรษะนางเบาๆ ทีหนึ่ง เขาเคยบอกแล้วว่าไม่ต้องคิดมาก แต่โม่อีเหรินไม่ฟัง
“แต่ว่าข้าอยากไปดูผู้อื่นชิงที่นั่งกัน…”
ที่แท้นี่ก็คือประเด็นสำคัญกระมัง
“ไปดูน่ะได้ แต่ไปแย่งชิงนั้นไม่ต้องแล้ว” ไป่หลี่จิงหงเอ่ย
“ท่านจะพาข้าไปหรือ”
“อืม พาเจ้าไป”
“อย่างนั้นก็ได้”
หลิงเซ่าจวินและหลงชิงเหยาถึงกับพูดไม่ออก
นี่เป็นรูปแบบการเล่นของทั้งสองคน พวกเขาถูกเมินอีกแล้วใช่หรือไม่
“หืม?” ชิงอู๋หยาพลันลุกขึ้นยืน
หลงชิงเหยามองไปทันที