“คนของตระกูลไป่หลี่คิดจะทำอะไรกันแน่” หลงชิงเหยี่ยพูดอย่างเข่นเขี้ยว
“ไม่รู้” เฟิ่งไหวซินกอดกระบี่พลางเอ่ยตอบตรงๆ
การใช้สมองเล่นเล่ห์เพทุบายไม่ใช่จุดแข็งของเขามาแต่ไหนแต่ไร สามารถสืบข่าวแล้วมารายงานได้ทันเวลาก็เป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว
“อย่างนั้นก็เอาตามนี้ พวกเราแยกย้ายกันไปเตรียมตัวออกเดินทาง ไปถึงแถวทะเลสาบจงโยวแล้วค่อยดูจังหวะอีกที” หลิงเซ่าจวินกับคนทั้งสองแลกเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว
“ตกลง” เฟิ่งไหวซินและหลงชิงเหยี่ยกล่าวลาแล้วออกไปทันที
แม้จะร่วมมือกัน ทว่าจะอย่างไรพวกเขาก็เป็นตัวแทนของสามฝ่าย กระทำการใดแค่มีแนวทางคร่าวๆ ก็พอ ส่วนรายละเอียดนั้นเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายเอง
เวลานี้ไป่หลี่จิงหงถึงเพิ่งเอ่ยปาก “ตัวประกันเล่า”
“ยังถูกขังไว้ที่คอกม้า” หลิงเซ่าจวินตอบพลางไม่ลืมถลึงตาใส่เขา
โยนเรื่องนี้ทิ้งไว้ให้เขา แล้วตนเองก็หายตัวไปสิบวัน นี่ยังมีคุณธรรมน้ำมิตรอยู่หรือไม่
“ท่าทีของตระกูลไป่หลี่?”
“ไม่มี” หลิงเซ่าจวินเดาว่าอีกฝ่ายคงอยากถ่วงเวลาไปจนกว่าแดนสมบัติจะเปิดออก พวกเขายื่นเงื่อนไขไปก็ไม่มีความหมาย ตระกูลนี้คล้ายว่าไม่คิดจะจ่ายหินวิเศษ ไม่ห่วงแม้แต่น้อยว่าพวกเขาจะลงมือรุนแรงกับตัวประกัน
“บอกให้ตระกูลไป่หลี่ตอบกลับภายในหนึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้น…ทางเหนือยังขาดคนขุดเหมืองอยู่มาก” ไป่หลี่จิงหงกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
หลิงเซ่าจวินหลุดหัวเราะพรืดออกมา “ข้าเข้าใจแล้ว”
ไป่หลี่จิงหงไม่มีความผูกพันใดๆ ต่อไป่หลี่เยียนที่เป็นมารดาแล้วจริงๆ
“ชิงเหยา ให้คนของพวกท่านเตรียมตัวด้วยสักหน่อย รอทางตระกูลไป่หลี่ตัดสินใจได้แล้ว พวกเราจะออกเดินทาง”
“ได้”
เว่ยจิ่งพาตัวเว่ยเซียงกลับไปส่งยังหอลงทัณฑ์ แล้วเปลี่ยนเป็นพาตัวเว่ยเฟิงกลับมาแทนด้วยคำสั่งที่ส่งมาจากอิงอู๋จี๋
ขณะเดียวกันอิงอู๋จี๋ที่รู้ว่าลูกศิษย์ของตนมีคู่หมั้นโผล่มาแล้ว จึงสั่งให้เว่ยจิ่งมาถ่ายทอดคำพูดเป็นพิเศษว่า ‘พาคนกลับมา’
การพาโม่อีเหรินกลับไปพบอาจารย์เป็นเรื่องที่แน่นอน ทว่ายังไม่ใช่ตอนนี้
ในจำนวนรายชื่อเข้าแดนสมบัติหนึ่งร้อยสิบรายชื่อ หอโอสถ หอหลอมประดิษฐ์ หอลงทัณฑ์ได้ไปหอละสามสิบ ที่เหลืออีกยี่สิบมีไว้ให้คนที่อีกสามหอส่งมาหนุนช่วยและหาประสบการณ์ ทั้งหมดมีหลิงเซ่าจวินเป็นผู้กำกับดูแล
ตระกูลไป่หลี่ตอบกลับมาแล้ว พวกเขาเลือกจ่ายหินวิเศษ
มิเช่นนั้นจะมองดูพวกไป่หลี่เยียนกับไป่หลี่จ้งถูกส่งไปขุดเหมืองหรือไร ตระกูลไป่หลี่เสียคนระดับนี้ไปไม่ไหว
ที่น่าแปลกคือไป่หลี่เยียนกับไป่หลี่จ้งเป็นคนของสายตระกูลที่สามของตระกูลไป่หลี่ แต่ผู้ที่จ่ายหินวิเศษกลับเป็นคนของสายที่สี่กับห้า
ขณะไป่หลี่เยียนกับไป่หลี่จ้งจากไป สีหน้าดูไม่น่ามองอย่างยิ่ง