โม่อีเหรินที่ไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่าตนเองถูกไม่พอใจเข้าแล้วจู่ๆ ก็ส่งเสียงฮัดเช้ยขึ้นมาตอนเช้ามืด ตื่นขึ้นมาบนเตียงอันอ่อนนุ่มภายในเรือนไผ่
เสี่ยวเถิงเอาตัวพันต้นแขนซ้ายนาง เขี้ยวเงินเองก็ขึ้นมานั่งบนบ่านางเช่นกัน
หนึ่งคนหนึ่งสัตว์หนึ่งพืชออกมาจากแหวนพู่สวรรค์อย่างเงียบเชียบ ชิงเดินออกจากป่าก่อนที่คนทั้งหลายจะปรากฏตัว
ก่อนไปเสี่ยวเถิงก็ยังนำทางไปยังสถานที่ที่ค่อนข้างเร้นลับจำนวนหนึ่ง ทำให้เก็บพืชวิเศษหายากมาได้อีกไม่น้อย ทำให้โม่อีเหรินดีใจยิ่ง
การจะเดินออกจากป่ามิใช่เรื่องยากเย็น ทว่าหลังออกมา สิ่งแรกที่มองเห็นก็คือหุบเขาที่มีก้อนหินทั้งน้อยใหญ่ตั้งอยู่
โม่อีเหรินกระโดดไปบนหินก้อนที่ค่อนข้างสูง สำรวจดูทั้งหุบเขา
“นี่แทบจะเป็นป่าหินทั้งผืนเลย”
มีสูงมีต่ำ มีใหญ่มีเล็ก มีก้อนหินรูปร่างลักษณะแปลกประหลาดสารพัดแบบรวมตัวกันเป็นอาณาบริเวณเหมือนกับต้นไม้ในป่าไม้
มิหนำซ้ำนอกจากป่าหินก็มองไม่ออกเลยว่าข้างนอกป่ามีอะไรอยู่
นี่คงมิใช่เป็นค่ายกล หรือเป็นสถานที่อย่างทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตาเหมือนที่แรกที่นางมาถึงซึ่งต้องอาศัยการส่งตัวเพื่อที่จะออกไปกระมัง
โม่อีเหรินเหงื่อตกแล้ว ได้แต่เริ่มสำรวจดู
หินที่นี่มิได้เป็นสีเทาทึมๆ ทุกก้อน บางก้อนมีสีแดง บางก้อนเกลี้ยงเกลาเหมือนหยก บางก้อนเป็นสีขาว และบางก้อนยังมีสีเหลืองเหมือนกับทอง
แวบแรกที่มองเห็นให้ความรู้สึกแปลกแตกต่างเป็นอย่างมาก ตรงกับคำพรรณนาที่ว่า ‘หินแปลกหินประหลาด’
แต่เมื่อมองดูดีๆ ก้อนหินที่มีขนาดแตกต่างกันนี้กลับดูเหมือนจะมีระเบียบท่ามกลางความยุ่งเหยิง
นางค้นพบว่าไม่ว่าจะไปในทิศทางใด ก้อนหินทุกก้อนที่เก้าจะมีสีสันเสมอ มีเพียงก้อนที่อยู่ค่อนไปตรงใจกลางที่มีสีเทาปกติ มิหนำซ้ำยังก้อนเล็กเป็นพิเศษด้วย
โม่อีเหรินมองดูอยู่เป็นครึ่งค่อนวัน ที่ใต้เท้าก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว
นางกระโดดข้ามหินทุกก้อนที่ดูสวยงามและมีสีสัน ระยะห่างของแต่ละก้าวสั้นบ้างยาวบ้าง จนกระทั่งมาถึงก้าวที่เก้า ก็มาหยุดอยู่เหนือก้อนหินที่ภายนอกเป็นสีเทาทึมๆ สูงเพียงหนึ่งฉื่อครึ่งก้อนหนึ่งพอดี
โม่อีเหรินมิได้เหยียบลงไป กลับใช้มือเก็บหินก้อนนั้นขึ้นมา แล้วถึงเหยียบลงบนตำแหน่งของมัน…เหมือนเหยียบอากาศ?!
ในป่าหิน โม่อีเหรินหายตัวไปแล้ว แต่ป่าหินยังคงดูเหมือนเดิม ก้อนหินมีไม่มากแต่ก็ไม่น้อย
โม่อีเหรินวิงเวียนตาลายอีกครั้งแล้ว
มิหนำซ้ำยังกำลังอยู่ระหว่างตกลงด้านล่าง
ไม่เพียงแค่นั้น ลมยังแรงเป็นพิเศษด้วย
เขี้ยวเงินจับโม่อีเหรินไว้เพื่อไม่ให้หนึ่งคนหนึ่งสัตว์ถูกลมพัดปลิว ทั้งยังใช้พลังลมชะลอความเร็วที่ตกลงด้านล่าง จากนั้นก็หยุดอยู่ตรงกลาง
ด้านบนเป็นฟ้าครามเมฆขาว ด้านล่างเป็นหุบเขาสีเขียวที่ดูเลี่ยนเตียน
ตรงส่วนสีเขียวคือพืชพรรณ แต่พวกมันกลับขึ้นอยู่เสมอหน้าดินอย่างน่าประหลาด
โม่อีเหรินประคองตัวตกลงจากฟ้าอย่างระมัดระวัง กลับพลันมีลมแรงหอบหนึ่งพัดมา ก่อให้เกิดลมกระโชกแรง
“โม่อีเหริน!” เขี้ยวเงินเปลี่ยนกลับร่างเดิมทันที ขณะให้โม่อีเหรินนั่งบนหลังได้แล้ว ปีกทั้งสองที่อยู่บนหลังก็กางออกก่อนจะกระพือ
ลมกระโชกแรงนั้นจึงถูกมันพัดจนเบนทิศทางไป
ซวบ…