บทที่ 79
หลังจากเฉิงอวี๋จิ่นฟังจบแล้ว นางนิ่งเงียบไปนานมาก
นางรู้ว่าตนเองไร้เดียงสามากเกินไป นางคิดว่าได้ปฏิเสธตี๋เหยียนหลินแล้ว ตี๋เหยียนหลินจะรู้ถึงความยากลำบากแล้วถอยไปเอง แต่หากตี๋เหยียนหลินไม่เป็นเช่นนั้นเล่า ตี๋เหยียนหลินมีอำนาจบารมีมากกว่าจวนอี๋ชุนโหว น้ำหนักคำพูดในจวนย่อมเหนือกว่าเฉิงอวี๋จิ่นที่เป็นเพียงคุณหนูใหญ่คนนี้ เขาไม่ไว้หน้า จะแต่งเฉิงอวี๋จิ่นกลับไปทำงานหนักให้ได้ ต่อให้เฉิงอวี๋จิ่นไม่ยินดีแล้วจะทำอะไรได้
ความแข็งแกร่งอ่อนแอที่แตกต่างทำให้คนรู้สึกจนปัญญาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นนางทำเช่นนี้อาจจะได้ผลลัพธ์ตรงข้ามกับที่คาดไว้ก็ได้ นางปฏิเสธเขาอย่างไม่ไว้หน้า เป็นไปได้มากที่ทำให้ตี๋เหยียนหลินอับอายจนกลายเป็นโกรธ จงใจแต่งงานกับนางเพื่อแก้แค้น หลังแต่งงาน บุรุษผู้หนึ่งอยากให้สตรีมีชีวิตที่ลำบากก็มีวิธีการมากมายหลายอย่างที่จะทำได้
ตอนที่เฉิงอวี๋จิ่นได้ยินข่าวนี้จากปากท่านหญิงชิ่งฝูก็รู้รางๆ แล้วว่าผิดไปจากแผนที่วางไว้ ตอนนี้ได้ฟังเฉิงหยวนจิ่งพูดจบ นางก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองไร้เดียงสาจนน่าขัน นางคิดว่าสามารถอาศัยตนเองไปพูดเกลี้ยกล่อมไช่กั๋วกงได้ ยามอยู่ต่อหน้าความแข็งแกร่งและอ่อนแอสุดขั้วเช่นนี้ จะมีความยุติธรรมและเหตุผลอะไรให้พูดกันได้เล่า
เห็นเฉิงอวี๋จิ่นไม่พูดอะไร เฉิงหยวนจิ่งพอมองออกถึงความสิ้นหวังของนางได้บ้าง เขาถอนหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง แล้วจัดปิ่นปักผมข้างหนึ่งบนผมของนางให้ตรง “เจ้าไม่ต้องโทษตนเอง เจ้ายังเด็ก ยังไม่เข้าใจความเลวร้ายของบุรุษ นี่เป็นเรื่องปกติมาก”
เฉิงอวี๋จิ่นส่ายหน้า พูดว่า “พูดถึงที่สุดแล้วเป็นข้าที่อ่อนแอเกินไป ข้าไม่รู้อะไรเลย ต่อให้สืบข่าวได้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
เฉิงหยวนจิ่งนิ่งเงียบ ก่อนจะพูดว่า “อันที่จริงเจ้าสามารถบอกข้าได้”
เฉิงอวี๋จิ่นยังคงส่ายหน้า หน้าตาท่าทางไม่ค่อยใส่ใจนัก ตอบกลับโดยไม่คิดอะไรว่า “ท่านอาเก้ามีฐานะสูงส่งเพียงใด ข้าจะรบกวนท่านไปทุกเรื่องได้อย่างไรกัน สรุปแล้วเป็นข้าที่คิดพลาดไปเอง”
รอยยิ้มของเฉิงหยวนจิ่งจางลง เขามองนางอย่างเคร่งเครียด แล้วพูดขึ้นทันใดว่า “เหตุใดจะไม่ได้”
เฉิงอวี๋จิ่นตกใจ เงยหน้าขึ้นมองเฉิงหยวนจิ่ง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ เขาจึงโกรธ
เฉิงหยวนจิ่งจ้องตาของเฉิงอวี๋จิ่น ผ่านไปครู่ใหญ่จึงพูดอย่างจนใจว่า “ช่างเถอะ เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่งแล้ว ข้าจะจัดการเอง”
เฉิงอวี๋จิ่นขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเชื่อนัก “จริงหรือ”
“ให้เจ้าคิดหาวิธีการต่อไป ไม่แน่อาจจะเกิดความผิดพลาดอะไรอีก” เฉิงหยวนจิ่งพูดจบ จงใจจิ้มหว่างคิ้วของเฉิงอวี๋จิ่น “อย่าคิดอะไรส่งเดชอีก อยู่เฉยๆ ข้าจะจัดการเรื่องทุกอย่างนี้เอง”
องค์รัชทายาทลงมือเองทั้งที ย่อมมีพลังมากกว่าเฉิงอวี๋จิ่นอย่างเห็นได้ชัด เฉิงอวี๋จิ่นตอบรับด้วยความยินดี เวลานี้ห่างจากที่เฉิงอวี๋จิ่นลอบออกมาจากหอโซ่วอันนานมากแล้ว ลองคำนวณเวลาดูน่าจะถึงเวลาตั้งอาหารพอดี หลังจากเฉิงอวี๋จิ่นเอ่ยเตือนเฉิงหยวนจิ่งก่อนทั้งสองจะลุกขึ้นพร้อมกัน ตอนที่เฉิงหยวนจิ่งเดินออกประตูก็พูดเหมือนไม่ได้ตั้งใจว่า “เจ้าให้ความสำคัญเรื่องที่บุรุษอายุมากกว่าเจ้านักหรือ”
เฉิงอวี๋จิ่นคิดว่าเฉิงหยวนจิ่งหมายถึงตี๋เหยียนหลิน จึงพยักหน้ารับคำทันที “แน่นอน ทั้งที่เป็นบุรุษอายุมากกลับยังจะแต่งกับหญิงสาวอายุสิบห้าสิบหก อายุของเขาเป็นญาติผู้ใหญ่ของอีกฝ่ายได้อย่างไม่มีปัญหาเลย ยังจะฉวยโอกาสที่หญิงสาวไม่รู้เรื่อง หลอกให้หญิงสาวแต่งงานกับเขา ถึงขั้นที่บางครั้งไม่ได้หลอก แต่เลือกใช้การบีบบังคับ ข้าล่ะรังเกียจคนเช่นนี้เป็นที่สุด”
เฉิงอวี๋จิ่นคิดว่านางแบ่งจุดยืนของตนเองกับตี๋เหยียนหลินชัดมาก เดิมทีคิดว่าเฉิงหยวนจิ่งจะวางใจ ทว่าพอเงยหน้าขึ้น นางกลับเห็นเฉิงหยวนจิ่งมีสีหน้าเรียบนิ่ง ท่าทางไม่ค่อยพอใจ
เกิดอะไรขึ้น ข้าพูดไม่ถูกหรือ เฉิงอวี๋จิ่นไม่เข้าใจอย่างยิ่ง
เฉิงหยวนจิ่งเดิมทีเอ่ยปากพูดหยั่งเชิงเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะหยั่งเชิงได้ผลลัพธ์เช่นนี้ออกมา เขาอายุมากกว่าเฉิงอวี๋จิ่นห้าปี ถึงแม้ดูจากตัวเลขแล้วต่างกันไม่มากนัก แต่เฉิงหยวนจิ่งมีประสบการณ์หลากหลาย กอปรกับสาเหตุจากตัวท่านโหวผู้เฒ่าเฉิง ทำให้มีระดับอาวุโสมากกว่าเฉิงอวี๋จิ่นหนึ่งรุ่นจริงๆ
คำพูดของเฉิงอวี๋จิ่นเมื่อครู่แต่ละเรื่องแต่ละราวล้วนปักเข้าตรงกลางเป้า ตรงกับสภาพการณ์ของเฉิงหยวนจิ่งทุกอย่าง เฉิงหยวนจิ่งได้รู้ว่าที่แท้เฉิงอวี๋จิ่นมีความคิดเช่นนี้ สภาพจิตใจซับซ้อนยากจะอธิบายได้ พลังที่แผ่ออกมาจากทั่วร่างลดฮวบลงทุกที
เฉิงอวี๋จิ่นไม่รู้เรื่องราว ถามหยั่งเชิงว่า “ท่านอาเก้า ท่านเป็นอะไรไปหรือ”
“ไม่เป็นไร” เฉิงหยวนจิ่งน้ำเสียงเรียบเฉย “ไปกินอาหารกันก่อนเถอะ”
“อืม” เฉิงอวี๋จิ่นรับคำเสียงเบา ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงทำให้เฉิงหยวนจิ่งโกรธอีกแล้ว ตอนเฉิงหยวนจิ่งอยู่ต่อหน้านาง ความอดทนดูเหมือนจะแย่เป็นพิเศษ มักจะโกรธได้ง่าย จริงดังคาด ไม่มีผู้ใดชอบถูกรบกวน เอาแต่ขอให้องค์รัชทายาทช่วยนาง เป็นเรื่องที่ทำให้คนรู้สึกเบื่อหน่ายได้ง่ายมาก