ฮวาชุนซินใช่ว่าไม่กลัว หัวใจดวงน้อยก็สั่นรัวอยู่เหมือนกัน แต่พลาดโอกาสนี้ไปก็ไม่มีโอกาสหน้าอีกแล้ว หากไม่ฉวยโอกาสนี้ตามตื๊อเขาให้ถึงที่สุด เกรงว่าชีวิตนี้ต่อให้นางไล่ตามเขาจนตายก็อย่าฝันเลยว่าเขาจะรับปากเป็นแบบให้นางวาดภาพ
วาดภาพจากความทรงจำ ไหนเลยจะสู้ลงมือ เอ่อ ลงพู่กันกับชายหนุ่มล่ำกล้ามเป็นมัดตัวเป็นๆ ได้เล่า
แค่คิดน้ำลายของนางก็จะหกออกมาอยู่แล้ว
กวนหยางถูกนางจ้องจนขนลุกไปทั้งตัว อยากจะฟาดนางให้สลบ ทิ้งนางไว้ตรงนี้แล้วจากไปเหลือเกิน…ฮึ!
“อย่าเพ้อฝันเลย” เขายิ้มเย็น อย่าคิดว่าแผนการของนางจะตบตาผู้อื่นได้ แค่เห็นดวงตาเจ้าเล่ห์เหมือนหมาป่าของนางคู่นั้นก็รู้แล้วว่านางคิดจะทำเรื่องชั่วช้าอะไร
“ในเมื่อรู้ว่าข้าคิดอะไรอยู่ เช่นนั้นก็อย่าขัดขืนเลย” นางยิ้มหื่นและเจ้าเล่ห์กว่าเดิม ขาดแค่ไม่ได้ถูมืออย่างกะลิ้มกะเหลี่ยเท่านั้น “ทิ้งความงามไว้บนหมึกกับกระดาษ เทียบกับการเข้าไปพัวพันกับข่าวลือ ท่านแม่ทัพใหญ่คงเลือกได้ไม่ยากกระมัง”
เขาโกรธจัดจนหัวเราะออกมา สีหน้าท่าทีพลันผ่อนคลาย เลียนแบบท่าทางของนางเมื่อครู่แบมือทั้งสองข้าง “ข้าไม่รับปาก ต่อให้ต้องพัวพันกับข่าวลือแล้วอย่างไร แม่นางจะทำอะไรข้าได้หรือ”
เมื่อศิษย์รู้วิชา อาจารย์ย่อมลำบาก*…ไม่ใช่สิ บุรุษอกสามศอกทำตัวหน้าด้านเลียนแบบผู้อื่นเช่นนี้ มีอย่างที่ไหน!
ฮวาชุนซินโกรธจนบดฟันไปมา แต่ก็รู้ดีว่าหากข่าวลือนี้แพร่ออกไปจริงๆ การว่าร้ายผืนฟ้าของดินแดนทางใต้ ดูหมิ่นเทพสงครามของดินแดนทางใต้อย่างเขา คนแรกที่จะจมน้ำตายท่ามกลางน้ำลายของชาวบ้านก็คือตัวนางเอง!
“น่าโมโหนัก” นางเดือดดาลเหลือเกิน
ส่วนลึกในดวงตากวนหยางทอยิ้มโดยไม่รู้ตัว กระนั้นใบหน้ากลับสุขุมเคร่งขรึม เอ่ยเสียงเรียบว่า “หากแม่นางฮวาไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน”
นางยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมา เงาร่างสูงโปร่งของเขาก็หายไปไม่เหลือร่องรอยเสียแล้ว
“รีบร้อนถึงเพียงนั้นจะรีบกลับไปกินข้าวที่บ้านหรือไร” นางกระทืบเท้าด้วยความโมโห กำหมัดขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกับท้องฟ้า “ยังจะใช้วิชาตัวเบากับข้าอีก! รู้วิชาตัวเบาแล้วเก่งกาจนักหรือ แต่ก่อนข้าแค่ไม่ได้เรียนเท่านั้น หาไม่แล้ววันนี้ข้าก็จะแสดงวิชาตัวเบาให้ดูเหมือนกัน จะทำท่าอวดดีอะไรนักหนา!”
“คุณหนู…” เสียงขลาดกลัวเสียงหนึ่งดังขึ้น
“อะไร! ไม่เคยเห็นสตรีโมโหรึ” ฮวาชุนซินหันกลับไปอย่างเดือดดาล พาลพาโลอย่างคนนิสัยเสีย “อาหยวน?”
สาวใช้เหมือนจะร้องไห้ออกมาเต็มที “เมื่อครู่ เมื่อครู่ขนมถั่วกวนม้วนยังไม่ออกจากเตา บ่าวจึงรออยู่ที่นั่น ตะ…ตอนนี้ซื้อกลับมาแล้ว…คุณหนู ท่านอย่าโกรธเลยนะเจ้าคะ…”
โทสะเต็มท้องของนางยามเผชิญกับใบหน้าไร้เดียงสาของอาหยวนแล้วพลันดับมอดไปสิ้น
รังแกเด็กตัวเล็กๆ ไม่รู้สึกภาคภูมิใจเลยจริงๆ กลับบ้านไปแล้วยังต้องปลอบประโลมอีกครึ่งค่อนวันจึงจะหายดี
ที่แท้คนขี้ขลาดน่าเอ็นดูอย่างอาหยวน ถึงจะเรียกว่าแสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือ* ที่แท้จริง…
“คุณหนู?”
“ไม่มีอะไร กลับบ้าน!”