“เจ้าไม่สบายหรือ หากเป็นเรื่องอื่นข้าเกรงว่าจะไร้กำลัง มีเพียงเรื่องการรักษาที่พอจะช่วยเหลือได้ หากมีเรื่องทุกข์ใจใดก็บอกให้ข้าฟังเถิด”
“พี่เถา อาการป่วยของรุ่ยเซียงนี้แท้จริงแล้วเป็นอาการป่วยทางใจ…” ขณะที่นางกล่าว สีแดงระเรื่อก็แผ่ลามจากใบหน้าไปถึงลำคอและใบหู
“รุ่ยเซียง เจ้าต้องรู้ว่ายาดีอาจหามาได้ แต่กับโรคทางใจนั้นยากจะรักษา ไม่รู้ว่าข้าจะมีความสามารถหรือไม่” เถาเม่ยเอ๋อร์พลันรู้สึกกระวนกระวายใจ สตรีตรงหน้าผู้นี้ทำให้นางทำอะไรไม่ถูก
“รุ่ยเซียงมีเรื่องหนึ่งอยากจะขอให้พี่เถาเป็นผู้ตัดสินใจ ยามนี้มีเพียงพี่เถาที่จะช่วยเหลือรุ่ยเซียงได้”
“อะไรหรือ”
เถาเม่ยเอ๋อร์เห็นว่าที่ชายกระโปรงของสือรุ่ยเซียงมีดินโคลนเปรอะเปื้อน อีกฝ่ายคงจะมารอนางอยู่นานแล้ว
“พี่เถา นับจากวันนั้นที่รุ่ยเซียงได้รับการช่วยเหลือหลังถูกพิษ รุ่ยเซียงก็มีความรู้สึกลึกซึ้ง…ให้กับพี่หลิน ร่างกายของรุ่ยเซียงเปิดเผยต่อหน้าพี่หลินหมดแล้ว นับจากครั้งนั้นเกรงว่าคงไม่อาจแต่งให้ผู้อื่นได้อีก พี่เถายินดีเป็นแม่สื่อให้รุ่ยเซียงหรือไม่”
น้ำเสียงของสือรุ่ยเซียงเบาลงเรื่อยๆ กระทั่งนางยกชายแขนเสื้อขึ้นบดบังใบหน้าแล้วยิ้มอย่างเขินอาย
“เอ๋?” เบื้องหน้าเถาเม่ยเอ๋อร์ดุจมีคมดาบจำนวนนับไม่ถ้วนแผ่ขยายเต็มแผ่นฟ้าแล้วพุ่งเข้ามาโจมตีในทันที ราวกับร่างกายทุกส่วนกำลังได้รับความเจ็บปวดจากการถูกแล่เนื้อเถือหนัง ทำให้นางไม่อาจทานทน
สือรุ่ยเซียงเห็นเถาเม่ยเอ๋อร์นิ่งอึ้งไร้วาจาจึงก้มหน้าลงทันที “พี่เถา รุ่ยเซียงรู้ว่าวาจาเช่นนี้นับว่าไร้ยางอาย ทว่าเรื่องมาถึงตอนนี้รุ่ยเซียงเองก็ไม่อาจสนใจอะไรได้มากแล้ว”
“เรื่องนี้…” เถาเม่ยเอ๋อร์รู้สึกว่าริมฝีปากตนเองชาหนึบ วาจาเอื้อนเอ่ยลำบากผิดปกติ “รุ่ยเซียง ยามนี้กำลังมีศึกสงคราม จะเหมาะสมในการพูดคุยเรื่องการแต่งงานได้อย่างไร”
“พี่เถารับรู้เรื่องราวเพียงด้านเดียว ท่านพ่อกล่าวไว้ว่าในช่วงเวลาศึกสงครามเช่นนี้ยิ่งต้องรู้จักรักษาตัว หากมีบุตรสาวก็ปรารถนาเพียงจะหาที่พึ่งพิงตลอดชีวิตให้ได้เท่านั้น ชีวิตมนุษย์นั้นแสนสั้น เพียงผ่านไปวันต่อวัน อีกทั้งแม้วันนี้รุ่ยเซียงกับพี่เถายังสามารถสนทนากันได้อย่างสบายใจที่ตรงนี้ ทว่าผู้ใดเล่าจะรู้ ผ่านไปอีกไม่กี่วันรุ่ยเซียงกับพี่เถาจะเผชิญกับการแยกจากกันหรือไม่…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” เถาเม่ยเอ๋อร์พยายามตั้งสติ ตัดบทวาจาของอีกฝ่าย “เจ้าอย่าได้มองโลกในแง่ร้ายเกินไป”
“พี่เถาไม่ทราบอะไร เมืองหลวงไร้กฎมณเฑียรบาลไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ได้ยินมาว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันยังคงเคาะปลาไม้นั่งขัดสมาธิสวดมนต์ ในหมู่ราษฎรต่างเล่าลือกันว่าท้องฟ้าของต้าเหลียงกำลังจะถล่มลงมา ล้วนต้องหาหนทางของตนเองในเร็ววัน”
“ไม่ใช่ว่ามีราชโองการเรียกกองหนุนมาแล้วหรอกหรือ”