บทที่แปด
หลินจื่อเฟิงขมวดคิ้วแน่นอย่างช่วยไม่ได้ ที่นอกกำแพงเมืองมีกองทัพจำนวนมากส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย ภายในเมืองมีราษฎรที่ทำอะไรไม่ถูก ผู้คนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สมุนไพรที่เก็บสะสมมาหลายวันล้วนถูกทางการเรียกเก็บไป เมื่อไม่อาจออกนอกเมือง สมุนไพรก็ถูกใช้จนเกือบหมด หากไร้วัตถุดิบก็ไม่อาจทำการรักษาได้ ร้านไป่เฉ่าใกล้จะต้องหยุดกิจการแล้ว ส่วนเถาเม่ยเอ๋อร์ก็มีท่าทีผิดปกติ นางทั้งพูดน้อยและเงียบขรึม
บนศีรษะเถาจ้งซานเสียบใบบัวอยู่ใบหนึ่ง สองแขนกางออก แสดงท่าโผบินพร้อมหัวเราะกล่าวกับหลินจื่อเฟิง “ข้าคือไท่ซั่งเหล่าจวิน* มาประทานยาลูกกลอนเซียนให้เจ้า ทำให้เจ้าฟื้นจากความตายได้ รีบรับไปสิ ทำไมไม่รับไปเล่า!”
หลินจื่อเฟิงใบหน้าไร้รอยยิ้ม เอาแต่มองเขาด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“พี่ชาย เลิกเล่นได้แล้ว นี่คือซานเย่าแห้ง รีบเอาไปกินเร็ว” เถาเม่ยเอ๋อร์ได้ยินจึงเดินมา รู้ว่าพี่ชายตนเริ่มสร้างปัญหาอีกแล้ว
“ดีๆๆ!” เถาจ้งซานหยิบซานเย่าแห้งขึ้นมากำมือหนึ่งก่อนยัดใส่ปาก
“กินเสร็จแล้วก็ไปแยกถั่วดำกับถั่วเหลืองเหล่านั้นออกจากกันด้วยเจ้าค่ะ หากแยกไม่เสร็จก็ไม่ต้องออกไป จำได้หรือยังเจ้าคะ” ยามมองดูพี่ชายผู้เสียสติ เถาเม่ยเอ๋อร์ก็รู้สึกปวดใจ
พี่ชายผู้ที่แต่ก่อนจะปวดศีรษะขึ้นมาทันทีที่เอ่ยชื่อสมุนไพร นับตั้งแต่เสียสติไปนั้น ไม่นึกเลยว่าเขาจะติดการกินยาสมุนไพร มักชอบใช้โอกาสที่ผู้อื่นไม่ทันระวัง ไม่ว่าสมุนไพรชนิดใดเขาก็ล้วนลอบคว้ามาใส่ปาก
เมื่อไม่กี่วันก่อนยังเผลอกินสลอดเข้าไป ด้วยเหตุนี้จึงท้องเสียติดต่อกันหลายวัน ร่างกายอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงไปหมด พออาการดีขึ้นมาบ้างแล้วก็ยังทำตัวแบบเดิมอีกครั้ง เพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดฝัน เถาเม่ยเอ๋อร์จึงคิดวิธีให้เขานับเมล็ดถั่วขึ้นมาได้ ตั้งใจหยุดยั้งเขานับแต่นี้
“ถั่วดำ…ถั่วเหลือง…” เถาจ้งซานยิ้มตาหยีพร้อมพึมพำท่อง “ข้าอยากกินถั่วคั่ว!”
“ถ้าหากท่านแยกเสร็จก็กินถั่วคั่วได้แล้วเจ้าค่ะ”
“ดีๆ ถั่วคั่ว” เถาจ้งซานถึงได้เดินไปยังลานด้านหลังอย่างพึงพอใจ
เถาเม่ยเอ๋อร์ลอบเหลือบมองหลินจื่อเฟิงแวบหนึ่ง เห็นเขาเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง คล้ายกำลังดูเสี่ยวเอ้อร์ที่ขายสุราข้างทางเก็บกวาดอาหารเหลือ ทั้งยังคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
เสียงปังดังขึ้นคราหนึ่ง ได้ยินเสียงร้านฝั่งตรงข้ามปิดประตูแน่น บ้านชาวบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปซึ่งมักเห็นควันอาหารลอยสูงทุกวันบัดนี้ไม่มีอีกต่อไปแล้ว ต้นเสาเย่าไม่กี่กระถางริมหน้าต่างกำลังออกดอกบานสะพรั่ง ทว่าไม่รู้ว่าบ้านเมืองถูกความวุ่นวายนี้ทำลายชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิมไปตั้งแต่เมื่อใด
“ได้ยินมาว่ากองทัพของโหวจิ่งบุกประชิดกำแพงเมืองแล้ว หลินเฮ่ออ๋องเซียวเจิ้งเต๋อเนรคุณขายต้าเหลียง ตัวการของหายนะที่ล้อมรอบเมืองเจี้ยนคังอยู่ก็คือเซียวเจิ้งเต๋อผู้ใจดำอำมหิตคนนี้ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน นึกไม่ถึงเลยว่าจะทรยศแผ่นดิน ไร้ยางอายต่อราษฎร!” ในที่สุดหลินจื่อเฟิงก็เปิดปากกล่าววาจา ทำลายความเงียบสงบของร้านไป่เฉ่า