‘หุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรม’ ที่พิรัลเอ่ยถึงก็มีหน้าตาไม่สู้ดีนัก เมื่อเดินทางกลับถึงที่พักซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดกะทัดรัดในหมู่บ้านชานเมืองกรุง
ไปรยาเองก็ไม่ชอบการจับคู่ตามความต้องการที่อยากดองกันของผู้ใหญ่ไม่แพ้ชายหนุ่ม เพียงแต่เธอไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผยเหมือนเขาเท่านั้น
ปิ่นแก้วบอกเสมอว่าอยากให้เจอกัน จะได้รู้จักกันไว้ ส่วนเรื่องจะแต่งงานกันหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคต ไม่ได้คิดบังคับ หญิงสาวไม่อาจขัดความต้องการของมารดา ยอมตามน้ำไปด้วยคิดว่าไปทำความรู้จักกันไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่พิรัลทำให้เธอเสียความรู้สึกมากขึ้นทุกที…ทุกที! เมื่อแคล้วคลาดกันครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยเหตุผลที่เธออยากเรียกว่าเป็น ‘ข้ออ้าง’ ต่างๆ นานา!
ตอนแรกเธอก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจหรอกว่าเขาจะมาหรือไม่ แต่พอถูกมองด้วยสายตาขอโทษจากราตรี และเจอสายตาสงสารแกมสมเพช บางครั้งก็ขบขันระคนเยาะหยันจากใครหลายคนที่รู้เรื่องการจับคู่ครั้งนี้ดี บ่อยครั้งเข้าก็นึกโกรธชายหนุ่มบ้างเหมือนกัน
เขาทำให้เธอดูไร้ค่า คล้ายกับ…เป็นฝ่ายง้อผู้ชาย อยากรู้จักเขาจนตัวซี้ตัวสั่นขนาดติดตามมารดาไปร่วมงานต่างๆ ที่คาดว่าเขาจะไปด้วยทุกงาน
ทั้งที่จริงแล้ว…ไม่เลย!
ไปรยาไม่เห็นอยากรู้จักลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของราตรีเลยสักนิด แค่ได้ยินกิตติศัพท์และได้พบการปฏิเสธด้วยข้ออ้างน่าชังสารพัด เธอก็ได้ข้อสรุปแล้วว่าผู้ชายพรรค์นี้ไม่คู่ควรแก่การรู้จักคบหาด้วยอย่างยิ่ง
แต่ติดที่ปิ่นแก้วตั้งความหวังไว้มากเหลือเกิน ตรงนี้แหละที่ทำให้เธอกระอักกระอ่วนใจเสมอ
“หนูปาย…คิดอะไรอยู่จ๊ะ”
ปิ่นแก้วเดินเข้ามาในห้องพักผ่อน เอ่ยถามบุตรสาวที่นั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่างซึ่งกว้างและยาวเท่ากับผนังด้านหนึ่ง แลเห็นสนามหญ้าเล็กๆ ที่มีแปลงดอกไม้ติดกำแพงสีขาว และต้นไม้ร่มครึ้มในความมืดสลัว
หญิงสาวหันกลับไปมองมารดา มีแววลังเลเล็กน้อยในดวงตาคมงาม ขณะหยั่งเสียงถาม
“ถ้าปายไม่ได้รู้จักกับคุณพิรัลจริง แม่จะผิดหวังมากไหมคะ”
“ก็คงนิดหน่อย” ปิ่นแก้วตอบพลางถอนใจ เมื่อเห็นแววตารู้ทันของบุตรสาว “เอ้า…ก็ได้จ้ะ แม่ยอมรับว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริง แม่คงผิดหวังมากทีเดียว ไม่ใช่แม่คนเดียวนะ ราตรีด้วย…เพราะเราทั้งคู่ตั้งความหวังกับเรื่องนี้ไว้มาก ความจริงแม่โกรธนะ อุตส่าห์นัดกันดิบดีแล้วแท้ๆ แม่พาลูกสาวของแม่ไปได้ แต่ราตรีกลับพาลูกชายตัวเองมาไม่ได้สักหน…แต่พอเห็นหน้าตาเจื่อนๆ ของราตรีแล้วก็โกรธไม่ลงสักที เพราะแม่รู้ว่าเขาพยายามเต็มที่แล้ว แต่ลูกชายเขาหลบเลี่ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง แม่เสียใจที่มันเป็นอย่างนี้นะปาย…”
ผู้เป็นมารดาถอนใจเฮือก โอบบ่าและลูบผมดำยาวเหยียดตรงของบุตรสาวอย่างขอโทษ
“แม่รู้ว่าหนูรู้สึกยังไง แม่เห็นว่าใครๆ มองหนูด้วยสายตาแบบไหน แต่แม่ก็ยังเอาแต่ใจ พาหนูไปงานนู้นงานนี้เพื่อพบเขา เพราะคิดว่าราตรีอาจพาเขามาได้จริงอย่างที่พูด แต่แม่ก็คิดผิด…”
หญิงสาวไม่ออกความเห็น ปล่อยให้มารดาระบายความในใจต่อไป
“ในเมื่อเขาไม่อยากรู้จักเราก็พอกันที แม่กับราตรีก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ส่วนลูกชายเขาน่ะ แม่ไม่สนแล้ว จบแค่นี้แหละ…พอกันที!”
ปิ่นแก้วกระแทกเสียงดุดันอย่างแค้นเคือง นัยน์ตาวาบวับจัดจ้าอย่างตั้งใจจะทำตามนั้น!