ไม่มีใครคิดว่าดวงดาวจะได้แต่งงานเป็นรายแรก…หญิงสาวเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนเรียบร้อยและขี้อาย สมัยเรียนมีคนมาชอบพอเธอบ้างเหมือนกัน แต่ความที่ไม่กล้ากับเรื่องแบบนั้น จึงใช้เพื่อนเป็นโล่ป้องกันตัวมาโดยตลอด
นอกเหนือจากความประหลาดใจ พวกเธอก็มีความเป็นห่วง…กลัวเพื่อนจะถูกหลอก ถ้าไม่หาทางพิสูจน์ ‘ว่าที่เพื่อนเขย’ ให้แน่ใจ พวกเธอคงหาความสบายใจไม่ได้แน่
ดวงดาวรอคอยคำตอบจากเพื่อนด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ผลลัพธ์ที่รออยู่ปลายทางทำให้เธอคิดหนัก ใจหนึ่งอยากปรามเพื่อนให้ล้มเลิกสิ่งที่คิดจะทำ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้ความจริงว่าคนรักเป็นเช่นไรกันแน่
หญิงสาวกวาดตามองไปรอบตัวราวกับจะค้นหาความกล้าให้เจอในความมืด ชะงักกึกเมื่อเห็นชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินมาตามทางปูอิฐคดเคี้ยวจากลานจอดรถ ตัดผ่านสนามที่มีไม้ประดับตกแต่งมาจนถึงบันไดเรือน
ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ
“นั่นพี่ภพนี่”
เสียงร้องอย่างดีใจทำให้สามสาวที่ขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิดหันขวับไปมองเป็นตาเดียว
“พวกเธออยากรู้จักแฟนเราใช่ไหม บังเอิญจริง เขาก็มาที่นี่กับเพื่อนด้วย เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักนะ”
“ไม่ต้อง” เสาวนีย์รีบห้าม และหันไปบอกเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความคิดเร็วจี๋ “ยายกุ้งจ่ายค่าอาหารไปก่อน เดี๋ยวค่อยหารกันทีหลัง ส่วนยายดาวกับยายปายตามฉันมานี่ อย่าให้เขาเห็นพวกเธอเชียวนะ”
“จะทำอะไรน่ะนี” ไปรยาถามอย่างข้องใจ ขณะที่ปล่อยตัวไปตามแรงดึงของเพื่อน โดยมีดวงดาวเดินแกมวิ่งตามหลังมาอย่างไม่เข้าใจ เหลียวมองกมลาที่ถูกทิ้งและชะเง้อมองคนรักที่กำลังเดินขึ้นเรือนมา ก่อนวกสายตามองเพื่อนสาวที่อยู่หน้าสุดอย่างงุนงงสงสัย
เสาวนีย์เหลียวกลับไปมองเพื่อน ตอบด้วยใบหน้ายิ้มย่อง
“เราจะพิสูจน์ลายเสือของเขายังไงล่ะ”
สถานที่ที่เสาวนีย์พาเพื่อนไปประชุมคือหน้าห้องน้ำหญิงอันเงียบสงบ หลังจากมองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมี เธอก็กระซิบบอกแผนเด็ดให้เพื่อนรู้ ตอนแรกไปรยาก็เงี่ยหูฟังอย่างสนใจเช่นเดียวกับดวงดาว แต่พอฟังจบก็ตัวแข็งทื่อ มองหน้าเพื่อนอย่างตกใจแกมคาดไม่ถึง ก่อนส่ายหน้าหวือ ปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่เอา! เป็นตายยังไงเราก็ไม่เล่นด้วยเด็ดขาด จะให้เราทำเรื่องน่าอายแบบนั้นได้ยังไง ไม่เอา!”
“น่า…ปาย เพื่อเพื่อนนะ พิสูจน์กันจังๆ ไปเลยว่าลับหลังยายดาว เขาเป็นคนยังไง วิธีนี้แหละเด็ดสุด”
“ด้วยการให้ฉันไปยั่วยวนเขานี่นะ…” ไปรยาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้หรือไม่ก็บีบคอต้นคิดให้ตาย
“ไม่ใช่ยั่วยวน” เสาวนีย์รีบแก้ก่อนจะถูกฆาตกรรม “แค่แกล้งเล่นหูเล่นตาทำเป็นสนใจเขานิดหน่อย…ดูซิว่าเขาจะทำยังไง ปายเหมาะกับหน้าที่นี้ที่สุด เพราะปายไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ เขาคงไม่เคยเห็นปายมาก่อน แล้วปายก็สวย รูปร่างก็ดี เนี่ย…ถอดเสื้อนอกออกอวดเสื้อพอดีตัวสวยๆ ของปาย รับรองว่าพวกผู้ชายต้องมองตรึม”
เพื่อนสาวว่าพลางขยับเข้าไปช่วยถอดเสื้อนอกสีดำเนื้อบางออก ไปรยาต้องยื้อไว้ด้วยความกระดากใจ
“ไปจ้างผู้หญิงอื่นเถอะ”
“ไม่ได้หรอก…เรื่องแบบนี้ใช้คนรู้จักดีกว่า จะได้ไม่เดือดร้อนทีหลังด้วย นะ…ปาย…ช่วยกันหน่อยเถอะ ไม่ยากสำหรับปายหรอก คิดว่าเป็นละครเวทีอีกเรื่องหนึ่งแล้วกัน สมัยเรียนปายก็ขึ้นเวทีบ่อยๆ อยู่แล้วนี่ น่า…ปาย…ทำเพื่อเพื่อนสักหน นะ…นะ…” เสาวนีย์หว่านล้อมระคนอ้อนสุดฤทธิ์
ไปรยาทำหน้าปั้นยาก มองดวงดาวซึ่งหน้าขาวซีดราวกระดาษ ท่าทางหวาดหวั่นกับสิ่งที่คิดจะทำไม่น้อยเหมือนกัน
“ว่าไงดาว” ถามด้วยความหวังว่าต้นเรื่องจะไม่เล่นด้วย เสาวนีย์จะได้เลิกตื๊อ แต่ดวงดาวกลับตอบว่า
“ความจริงเรากลัวนะ แต่เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาเป็นคนยังไง ช่วยเราหน่อยเถอะนะปาย”
คนถูกขอร้องกลอกตาขึ้นข้างบนพลางถอนใจเฮือก
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 11 ก.พ. 64