บทที่ 3
ไอหมอกคลี่ตัวลงมาครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณเหมือนม่านบางๆ ทำให้บรรยากาศยามเช้ามัวหม่น ทิ้งน้ำค้างเม็ดเล็กเกาะอยู่บนยอดหญ้า และในกลีบดอกไม้ที่เริ่มคลี่บานรับแสงอรุณของวันใหม่
ไปรยาห่อไหล่เล็กน้อยด้วยความหนาว ขยับกรรไกรในมือตัดดอกกุหลาบจากต้น เพื่อนำไปจัดใส่แจกันและรับรองลูกค้าที่มาเข้าพักในรีสอร์ต
กุหลาบหลายพันธุ์ที่เติบโตอย่างงดงามคือสิ่งหนึ่งที่บิดาผู้ล่วงลับไปแล้วทิ้งไว้ให้ ปพนชอบปลูกต้นไม้โดยเฉพาะดอกกุหลาบ มีความหลงใหลมากถึงขนาดสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยงเป็นกิจจะลักษณะ
พันธุ์ไหนที่ขึ้นชื่อว่า ‘ยาก’ ปลูกเลี้ยงลำบาก พ่อเธอเป็นต้องลองจนถึงที่สุด จนแน่ใจว่า ‘ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต’ แล้วจริงๆ นั่นแหละ ถึงยอมเลิกราหาพันธุ์อื่นมาปลูกแทน
รีสอร์ตแห่งนี้จึงมีสวนกุหลาบที่งดงามเป็นจุดขาย ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมดื่มด่ำกับความงามของดอกไม้และพฤกษานานาพันธุ์ที่รังสรรค์ให้อยู่รวมกันอย่างลงตัว
หญิงสาวนำดอกกุหลาบไปจัดใส่แจกันซึ่งเป็นงานอดิเรกหนึ่งที่ชอบนอกเหนือจากการปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ และฟังเพลง พอจัดเสร็จก็สั่งให้เด็กรับใช้นำไปวางที่เรือนรับรองลูกค้า ส่วนที่ใช้ประดับบ้านก็นำไปวางเอง ก่อนขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำแต่งตัวลงมารับประทานอาหารเช้ากับปิ่นแก้ว พอสายก็ออกไปทำงานที่รีสอร์ต ซึ่งก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพราะทุกอย่างมีคนทำหมดแล้ว เธอเพียงแต่เข้าไปดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น
ชีวิตเธอดำเนินไปอย่างเรียบง่าย สงบสุข เป็นเช่นนี้ทุกวัน อาจมีบางครั้งที่ทำอะไรหลุดกรอบ แต่ก็ไม่มีผลกระทบให้ชีวิตปั่นป่วน จนกระทั่งเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ไปรยาเอื้อมมือไปรับมากรอกเสียงลงไป หารู้ไม่ว่ามันจะทำให้ชีวิตเธอพลิกกลับในเวลาต่อมา
“ฮัลโหล”
“ยายหนูปายเหรอ” น้ำเสียงนั้นบอกความคุ้นเคย ไปรยาหัวเราะ รู้โดยพลันว่าใครโทรมา คนที่เรียกเธออย่างนี้มีเพียงคนเดียวคือลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของเธอ
“อีกแล้วนะพี่ภัทร์ เรียกปายน่าเกลียดแบบนั้นอีกแล้ว ให้ปายเป็นพาหะนำเชื้อโรคไม่พอ ยังจะให้เป็นยายอีก น่าเกลียดจริง”
“ปากเก่งเหมือนเดิมนะเราน่ะ” ญาติผู้พี่เย้า
“แล้วพี่ภัทร์โทรมานี่มีเรื่องอะไรจะใช้ปายอีกล่ะ”
“แสนรู้จริง”
“นั่นเขาเอาไว้ใช้กับหมา ปายเป็นคนนะ ทำไมพี่ภัทร์ชอบให้ปายกลายร่างเป็นไอ้นู่นไอ้นี่อยู่เรื่อย ไม่ให้เป็นหนูก็เป็นหมา เออ ถ้าเป็นกระต่ายน้อยค่อยน่ารักเหมาะสมกับปายหน่อย”
ปลายสายหัวเราะ “พี่ว่าเป็นกระต่ายมันหรูเกินตัวเราไปหน่อยน้า ยายหนูปาย”
“ปากอย่างนี้มันน่าช่วยไหมเนี่ย…ตกลงจะให้ปายช่วยอะไรล่ะ”
“เป็นกันชนให้พี่หน่อย”
พอได้ฟังคำตอบของญาติผู้พี่ ไปรยาก็แกล้งบ่น “เมื่อกี้ยังเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่เลย แป๊บเดียวกลายเป็นสิ่งของไปแล้ว แถมยังเป็นของที่ถูกกระแทกให้เจ็บด้วยนา”
“น่า…เดี๋ยวเลี้ยงข้าวฟรีมื้อหนึ่ง ช่วยพี่หน่อยเถอะ ไม่งั้นพี่อาจเสียที มีเมียโดยประมาทคืนนี้ก็ได้นะ”
“น่าจะยอมๆ ตัดปัญหาไปเลย คุณชลธิษาจะได้ไม่เฝ้าตามตื๊อ แถมพี่ภัทร์จะได้ลงจากคานทองด้วย”
“พี่อายุแค่ยี่สิบเก้า ยังห่างไกลจากคานเยอะ…แล้วที่พูดเมื่อกี้น่ะเอาจริงเหรอ อยากได้เขามาเป็นญาติสะใภ้จริงน่ะ”
“ไม่” ไปรยาปฏิเสธทันที เพราะรู้จักผู้หญิงที่ชื่อชลธิษาดี…แม่ม่ายสาวคนดังที่มีเรื่องอื้อฉาวติดตัวมาตั้งแต่ตอนที่แต่งงานอย่างหรูหรากับเศรษฐีแก่คราวปู่ เพียงปีเดียวฝ่ายชายก็เสียชีวิต ทิ้งมรดกมากมายไว้ให้เธอเป็นแม่ม่ายทรงเครื่อง และมีข่าว ‘คาว’ พัวพันกับผู้ชายมากหน้าหลายตาจนเป็นที่รู้กันทั่ว