“โธ่ ห่วงอะไรล่ะ มินดูแลเองได้น่า ไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ ดีกว่า มินอยากเห็น”
“คงมีแต่มินคนเดียวล่ะมั้งที่อยากเห็นพี่สวยวันนี้ เพราะใครๆ เค้าก็มาดูเจ้าสาวทั้งนั้น ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่หยาเค้าแต่งตัวเสร็จหรือยัง มินแวะไปดูมาบ้างหรือเปล่า” ลัลน์ถามถึงนางเอกของงานฉลองในค่ำคืนนี้
“ปล่อยเค้าเถอะน่า อย่าไปห่วงนักเลย ญาติๆ ของพี่หยาเยอะแยะ เค้าดูแลกันเองได้” มินบอก
“แล้วตัวเองล่ะเอาข้าวของไปไว้ที่บ้านใหญ่หรือยัง คืนนี้กลับเข้าไปนอนที่บ้านตัวเองไม่ได้แล้วนะรู้ไหม” ลัลน์ถามต่อด้วยความเป็นห่วง คืนนี้บ้านที่มินและเมธิอาศัยร่วมกันมาตลอดจะถูกจัดให้เป็นเรือนหอ คุณภวิชจึงชวนหลานชายคนเล็กให้มาพักด้วยกันที่บ้านใหญ่ เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้มีเวลาเป็นส่วนตัวในคืนพิเศษนี้
“เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก แค่คืนเดียวไม่ต้องมีอะไรมาก พรุ่งนี้พี่เมธิไปฮันนีมูน มินก็กลับไปนอนที่บ้านได้เหมือนเดิมแล้ว”
“พี่เมธิบอกว่ามินจะขอปลูกบ้านที่สวน เอาจริงเหรอ”
“จริงสิ พี่เมธิเค้ามีครอบครัวของเขาแล้ว มินก็อยากแยกไปให้พี่เมธิได้มีพื้นที่สำหรับครอบครัวตัวเองเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ อีกไม่กี่เดือนมินก็เรียนจบ…เลยว่ากลับมาอยู่บ้าน หลังจากนั้นจะขอไปปักหลักที่สวนเลยด้วย” มินเปรยถึงโครงการในอนาคตอันใกล้อย่างมีความสุข
…นอกจากจะแยกไปให้พี่ชายได้มีพื้นที่สำหรับตัวเองแล้ว มินเองก็จะได้มีพื้นที่สำหรับครอบครัวของเขาที่เฝ้าหวังรอคอยมาตลอดเช่นกัน…
“มีครอบครัวไปแล้วเนาะพี่ชายคนโตของเรา เหงาไหมมิน”
“ไม่เหงาหรอก มินยังมีลัลน์นี่นา ทำไมต้องกลัวว่าจะเหงา ลัลน์ต่างหาก เวลามินไปเรียนในเมืองเหงาไหม คิดถึงมินบ้างไหม” มินตั้งคำถามโดยไม่หันมามอง ยังคงก้าวเดินรักษาจังหวะแม้ในใจจะรอฟังคำตอบของเธออย่างใจจดใจจ่อ
ลัลน์ปรายสายตาไปมอง ตัวเองทิ้งบ้าน เอาแต่อยู่ในเมืองไม่ยอมกลับ คราวนี้ทำเป็นมาถามหาความคิดถึง สีหน้าของคนเดินเคียงที่แม้จะนิ่งเรียบเหมือนเป็นปกติ แต่คนที่โตมาด้วยกันรู้ดี…มินกำลังรอฟังคำตอบ…แล้วรอยยิ้มเหมือนเด็กซนก็ฉายขึ้นมาในแววตาของลัลน์
“ก็มีบ้างนะ เพราะเวลามินไม่อยู่ไม่มีคนขับรถให้ ไม่มีคนคอยตามไปกินข้าว ไม่มีคนปั่นน้ำผลไม้ให้กิน แล้วก็ไม่มี…” น้ำเสียงของลัลน์เรื่อยเอื่อยสบายๆ
“พอเลยๆ เห็นมินมีประโยชน์แค่เรื่องแบบนั้นอยู่ได้” น้ำเสียงคล้ายติดน้อยใจของเขาทำให้ลัลน์หัวเราะน้อยๆ พลางเอื้อมมือไปคล้องแขนเขาเอาไว้ แม้ปากจะแกล้งไปอย่างนั้นแต่ลัลน์รู้ดีแก่ใจว่าเขามีความหมายกับเธอมากกว่านั้น
…คนที่เติบโตมาด้วยกัน…ใกล้ชิด…ผูกพัน…
“คิดถึงสิ เรามีกันแค่นี้เอง มีพ่อ มีพี่เมธิ มีพี่ แล้วก็มิน ถ้าไม่คิดถึงกันแล้วจะให้คิดถึงใครจริงไหม” ลัลน์พูดอย่างอารมณ์ดีโดยไม่สะกิดใจเลยว่าคนฟังจะรู้สึกและมีความหวังเพียงใดกับคำพูดของเธอ
ติดตามตอนต่อไปวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น.