ทดลองอ่าน รัตติกาลซ่อนกล บทที่ 1 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน รัตติกาลซ่อนกล บทที่ 1

บัดนี้เขาได้ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ผู้เป็นอาก็กำลังมีอำนาจมาก ถ้าอยากจะแต่งภรรยา คุณหนูสกุลฟู่ที่มีความผิดติดตัวย่อมไม่คู่ควร แต่หากไถ่ตัวพานางกลับมาบ้าน ให้นางเป็นเหมือนของเล่น ถือเป็นสินส่วนตัวก็น่าจะพอทำได้

ที่ทำให้พึงพอใจมากที่สุดก็คือคราวนี้ฮ่องเต้มอบหมายให้เขาเดินทางไปอวิ๋นหนานเพื่อริบทรัพย์สินของสกุลฟู่ แล้วนำตัวสมาชิกของสกุลฟู่กลับมาเมืองหลวง ระหว่างเดินทางเขาคงจะทำอะไรๆ ได้สะดวกทีเดียว

หวังซื่อเจาคิดไปคิดมา ในใจพลันบังเกิดความรื่นเริงขึ้นจนแทบยั้งตัวไม่อยู่ นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้

เมื่อได้ฟังหลิวไป่ทงเล่าเรื่องราวสกุลฟู่ทั้งหมด หวังหลิงก็สอบถามเรื่องบุตรีของฟู่ปิงอย่างละเอียด ที่สุดยังซักไซ้ถึงรายละเอียดการตายของฟู่ฮูหยินในอดีตด้วย

หลิวไป่ทงเป็นศิษย์ของฟู่ปิง เมื่อก่อนเคยไปมาหาสู่กับสกุลฟู่อยู่บ่อยครั้ง บุตรและภรรยาของเขายังเคยไปมาหาสู่กับทางบุตรและภรรยาของสกุลฟู่เช่นกัน จึงรู้เรื่องราวในสกุลฟู่เป็นอย่างดี พอรู้ว่าหวังหลิงไม่ยอมให้เขาเล่าอย่างขอไปทีแน่ จึงต้องบากหน้าเล่าทุกเรื่องที่ตนเองรู้ให้เขาฟังโดยละเอียด

หวังซื่อเจาเห็นผู้เป็นอาดูสนใจเรื่องนี้มากก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ พลันหวนนึกถึงเรื่องประหลาดในกาลก่อนได้เรื่องหนึ่ง คำถามนับร้อยก็ผุดขึ้นในใจเขาพร้อมๆ กัน คิดจะออกปากถามแต่ก็ยั้งไว้หลายครา เหลือบเห็นใบหน้าใต้แสงตะเกียงของอาตนเองดูอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด เขาก็จำต้องอดใจไม่ถามไว้

หวังหลิงได้ฟังมากพอแล้วจึงโบกมือให้หลิวไป่ทงเงียบ เขาหลุบตาลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็หันไปยิ้มให้หวังซื่อเจา “ได้ยินว่าฟู่ปิงรักบุตรีผู้นี้มาก เขาเลี้ยงดูนางมาเสมือนเป็นบุตรชายตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เพียงให้นางได้เปิดหูเปิดตาตามพี่ชาย ขณะที่ถูกย้ายไปอยู่อวิ๋นหนานยังได้อบรมสั่งสอนนางด้วยตนเอง นอกจากนี้ฟู่ฮูหยินก็มิใช่หญิงชาวจงหยวน** ขณะยังมีชีวิตอยู่ได้ยินว่ามีความคิดไม่เหมือนผู้ใด เจ้าไปคราวนี้ก็อย่าได้ดูเบาคุณหนูสกุลฟู่เพราะว่าอายุน้อยเด็ดขาด หากสะเพร่าจนเกิดเรื่องไม่คาดฝันแล้วเสียงานขึ้นมา คงไม่อาจทูลรายงานต่อฝ่าบาทได้”

“หลานจะพยายามไม่ให้เกิดเหตุผิดพลาด” หวังซื่อเจาได้ยินแววกำราบตักเตือนอย่างเข้มงวดในน้ำเสียงผู้เป็นอาแล้วก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจยิ่งกว่าเดิม

“แน่นอน” หวังหลิงทำทีปัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่บนชายแขนเสื้อ แล้วพูดอย่างเรียบๆ ว่า “โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือของใต้เท้าหลิว คนของเราจึงแฝงเข้าไปอยู่ในสกุลฟู่ได้นานแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าคุณหนูฟู่ผู้นั้นจะหาทางเล่นลูกไม้อะไร”

หลิวไป่ทงยิ้มเจื่อน ก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อ

จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก มีคนมาขอเข้าพบ

หวังหลิงนั่งอยู่นานแล้วก็รู้สึกเมื่อยไม่น้อย เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวนี้จึงเอนหลังพิงเก้าอี้ไท่ซืออย่างเกียจคร้าน แล้วสั่งให้คนผู้นั้นเข้ามาได้

พอคนผู้นั้นเข้ามาก็ตรงเข้าไปกระซิบสองสามประโยคที่ข้างหูหวังหลิง แล้วรีบถอยออกมาทันที

สีหน้าหวังหลิงแปรเปลี่ยน จากนั้นก็เหลือบมองไปยังหลิวไป่ทงด้วยสายตาคมกริบ เอ่ยว่า “ใต้เท้าหลิวช่วยออกไปข้างนอกสักครู่หนึ่งก่อน ข้ามีเรื่องจะหารือกับหลานชายสักหน่อย”

หลิวไป่ทงกำลังใจเต้นไม่เป็นส่ำ พอได้ยินเขาบอกก็ไม่กล้าเห็นต่างใดๆ รีบถอยออกไปจากห้องอย่างลนลาน

“มีอะไรหรือท่านอา” หวังซื่อเจาจ้องมองใบหน้าผู้เป็นอาครู่หนึ่งก็ยังไม่ได้ยินอะไร จึงถามขึ้นอย่างระมัดระวัง

สีหน้าหวังหลิงกลับมาเป็นปกติแล้ว เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คดีของฟู่ปิงยังอยู่ระหว่างการไต่สวน ที่อวิ๋นหนานจึงขาดคนคอยดูแลจัดการชั่วคราว บัดนี้มีพวกเร่ร่อนออกก่อเหตุวุ่นวายขึ้นหลายแห่ง เมื่อครู่ความทราบถึงพระกรรณฝ่าบาทแล้ว จึงมีรับสั่งให้เลือกขุนนางใหญ่สักคนในราชสำนักไปรับตำแหน่งข้าหลวงตรวจการฝ่ายขวาแทนเขา รับพระบัญชาเดินทางไปยังอวิ๋นหนาน ทั้งยังมีรับสั่งให้ผิงอวี้ไปคุ้มกันด้วยตนเอง พอไปถึงที่นั่นแล้วให้ผิงอวี้เป็นผู้คุ้มกันบุตรีของขุนนางต้องโทษเดินทางกลับเมืองหลวง”

“ผิงอวี้?” หวังซื่อเจาแทบลุกพรวดขึ้นมา “เป็นเขาไปได้อย่างไร! ให้เขาแทรกเข้ามาเช่นนี้ พวกเราจะหาประโยชน์จากคดีสกุลฟู่ได้หรือ”

“ก็แค่บุตรีของขุนนางต้องโทษคนเดียว เขาจะคุ้มกันก็คุ้มกันไปสิ ไยต้องทำเป็นโมโหเช่นนี้ด้วย” หวังหลิงดูสงบใจได้แล้ว “เจ้าอย่าลืม ตอนที่อดีตฮ่องเต้ยังมีพระชนม์ชีพ ฟู่ปิงที่เป็นถึงราชเลขาธิการนึกทะนงตน เคยยื่นฎีกาให้ถอดถอนซีผิงโหวออกจากตำแหน่งหลายครั้ง ความผิดโทษฐานอยู่ในตำแหน่งแต่ไม่ได้ทำงาน ตอนนั้นทั่วทั้งราชสำนักล้วนเป็นศิษย์ของฟู่ปิง เสียงก่นด่าประณามดังขึ้นไม่หยุด ทำให้ซีผิงโหวต้องถูกถอดออกจากตำแหน่งอันทรงเกียรติและถูกเนรเทศไปยังเมืองเซวียนฝู่ทั้งครอบครัว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com