ฉินโยวโยวเบะปาก มิน่าถึงจะให้นางติดตั้งกลไกให้ใหม่ ลำพังแค่เรื่องต้องเปลี่ยนสายชนวนทุกครั้งที่จุดตะเกียงก็มีความยุ่งยากที่น้อยกว่าการใช้แรงงานคนไล่จุดไปทีละดวงเพียงนิดเดียวเท่านั้น การออกแบบกลไกเรียกได้ว่าสวยงามแต่ใช้การไม่ได้เท่าที่ควรเลย
เหยียนตี้เห็นท่าทางไม่เห็นด้วยของฉินโยวโยวอยู่ในสายตา เขาก็จูงนางเดินลงด้านล่างไปทีละก้าว
แบบร่างที่ให้นางเมื่อวานเป็นเพียงแผนผังคร่าวๆ ของคลังสมบัติ มิได้ระบุว่ากับดักกลไกมีจำนวนเท่าไร ติดตั้งไว้ตรงจุดใดบ้าง นี่ก็คือความตั้งใจของเขาที่หมายจะทดสอบความสามารถของฉินโยวโยว
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะรู้แล้วว่านางสะเดาะกลไกทั้งหมดในขุมทรัพย์ราชวงศ์ก่อนได้ด้วยตัวคนเดียวโดยใช้เวลาอันสั้นยิ่ง แต่อย่างไรเขาก็ยังไม่ได้เห็นเองกับตา เรื่องที่เขาวางแผนจะให้ฉินโยวโยวทำนั้นมีความสำคัญอย่างมาก จำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของนางด้วยตาตนเองก่อน เขาถึงจะวางใจให้นางไปทำได้
ฉินโยวโยวเองก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง ตลอดทางที่เดินมาสามารถสะเดาะกลไกบนทางเดินทั้งหมดได้โดยแทบไม่เปลืองแรง เพียงเดินสบายๆ เข้าสู่ห้องโถงใหญ่รูปวงกลมที่อยู่ใจกลางคลังสมบัติพร้อมกับเหยียนตี้
“ไม่เลว มีฝีมืออยู่หลายส่วนจริงๆ” เหยียนตี้ยกมือลูบศีรษะฉินโยวโยว ไม่ปิดบังความชื่นชมของตนเองแม้แต่น้อย ผู้ที่ติดตั้งกับดักกลไกในคลังสมบัติให้เขาในตอนแรกก็คือปรมาจารย์กลไกอันดับหนึ่งที่ในวังให้การอุปถัมภ์เลี้ยงดู เขาเคยประกาศไว้ว่าเว้นเสียแต่ว่ามือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อจะมาเยือนด้วยตนเอง มิเช่นนั้นใต้หล้านี้ก็คงไม่มีใครเข้าคลังสมบัติได้โดยที่กับดักกลไกไม่ทำงาน
หากวันนี้ปรมาจารย์กลไกได้มาเห็นฉินโยวโยวสำแดงฝีมือ คาดว่าจะต้องละอายใจจนอยากหาเส้นบะหมี่มาผูกคอตายให้รู้แล้วรู้รอดเป็นแน่
ฉินโยวโยวตะลึงไปเล็กน้อยเนื่องจากท่าทางที่ดูสนิทสนมของเหยียนตี้ รอยยิ้มค่อยๆ จางลง
“เป็นอะไร” เหยียนตี้ถาม
“เมื่อก่อนเวลาข้าสะเดาะกลไกที่อาจารย์ทำได้ หรือไม่ก็ทำเรื่องอะไรให้อาจารย์เบิกบานใจ เขาล้วนจะชมเชยข้าเช่นนี้…แต่อาจารย์ชมข้าได้จริงใจกว่าท่านมากนัก” ฉินโยวโยวเบะปากพูด
ยังคงเป็นเด็กอย่างที่คิดจริงๆ! เหยียนตี้พูดอย่างเฉยเมย “ข้าไม่ใช่อาจารย์ของเจ้า” และยิ่งไม่สนใจจะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเจ้าด้วย
“ก็ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว ท่านฝันไปเถอะ” ฉินโยวโยวหันไปหยิบไข่มุกราตรีออกมาวางไว้บนโต๊ะ อีกทั้งหยิบคันฉ่องแก้วผลึกในถุงหนังที่พกติดตัวออกมาวางสะท้อนแสงไข่มุกให้ส่องไปที่พื้น
บนพื้นหินอ่อนสีขาวเรียบลื่นเกลี้ยงเกลาพลันปรากฏเส้นไขว้สลับกันเหมือนกับใยแมงมุมออกมาทันที เส้นเหล่านี้แทบจะทาบพอดีกับร่องระหว่างก้อนหินอ่อนอีกทั้งยังโปร่งแสง หากมิใช่ฉินโยวโยวจงใจใช้ลำแสงส่องเช่นนี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจเพียงใดก็ยังยากจะค้นพบ
ขอเพียงเหยียบไปบนเส้นนี้แค่ก้าวเดียว กลไกสังหารภายในคลังสมบัติก็จะทำงานทันที ถึงตอนนั้นลูกศรพิษนับไม่ถ้วนก็เพียงพอจะยิงผู้ที่เข้ามาจนพรุนเป็นตะแกรงได้
“ ‘ตาข่ายดินพิฆาตฟ้า’ นี้นับว่ามีระดับอยู่เล็กน้อย” ฉินโยวโยวกล่าวชมอย่างหาได้ยากยิ่ง
“เจ้าสะเดาะได้หรือไม่” เหยียนตี้เห็นฉินโยวโยวรู้ทันกับดักกลไกที่ร้ายกาจและเป็นความลับที่สุดในคลังสมบัติได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ เขาก็รู้ว่าไม่มีอะไรคุกคามนางได้อีก จึงนั่งลงปล่อยให้นางเดินอยู่ในคลังสมบัติเองอย่างสบายใจ
“ไม่ยากสักนิด” เมื่อเกี่ยวกับเรื่องที่ฉินโยวโยวเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว นางก็มั่นใจในตนเองจนเข้าขั้นหลงตนเองทีเดียว ใบหน้าเล็กที่มีแววภูมิอกภูมิใจดูเปล่งประกายอยู่ภายใต้แสงอันนุ่มนวลจากไข่มุกราตรี งดงามกว่าท่าทางที่จงใจแสร้งทำเป็นอ่อนปวกเปียกในยามปกติไม่รู้ตั้งกี่เท่า
เหยียนตี้มองดวงหน้าเปื้อนยิ้มสว่างสดใสของนาง จิตใจก็พลอยเคลิบเคลิ้มหลงใหลโดยมีสาเหตุมาจากสตรีเป็นครั้งแรก “เจ้าลองสะเดาะกลไกทั้งหมดในคลังสมบัตินี้ที ดูว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร”