ฉินโยวโยวกินอาหารเย็นกับตู้เหวยเหนียงและเสี่ยวถิงฮวาเสร็จ ขณะล้างหน้าบ้วนปากเตรียมจะเข้านอนแล้ว ต้าจุ่ยกับเสี่ยวฮุยก็ยังคงโต้เถียงกันเรื่องแบ่งดอกบัวดอกใหญ่ที่เก็บมาจากในสระบัวอย่างไม่มีใครยอมใคร ฉินโยวโยวกลัวเสียงของพวกมันจะดังจนรบกวนคนอื่นจึงนั่งลงริมหน้าต่างดูต้นทางให้พวกมันอย่างมีจิตสำนึกยิ่ง
ทั้งสามที่กำลังทำเรื่องไม่ดี จู่ๆ เห็นเหยียนตี้มาปรากฏตัวอยู่หน้าประตูอย่างไร้สุ้มเสียงก็ต่างร้อนตัวขึ้นมา
ฉินโยวโยวเคยมีเรื่องขัดแย้งกับเหยียนตี้อยู่ก่อน เดิมทีก็มีความผิดติดตัว ตอนนี้ยังฉวยโอกาสตอนที่เจ้าของจวนไปข้างนอกแอบไปเด็ดดอกไม้เขามา ซ้ำดอกไม้นั้นยังเป็นกลีบหยกเก้าบุตรสมุนไพรวิเศษชื่อดังที่ล้ำค่าหายากยิ่งยวดอีก ถูกจับได้คาหนังคาเขาเช่นนี้ อยากปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีทางพ้นตัว
เสี่ยวฮุยอึ้งไปเล็กน้อยก่อนอ้าปากกลืนดอกบัวขนาดเท่าชามน้ำแกงลงไปทั้งดอกในคำเดียวด้วยความรวดเร็วอย่างที่สุด จากนั้นก็เอาหัวมุดเข้าอ้อมแขนฉินโยวโยวแล้วแกล้งตาย
ต้าจุ่ยเก็บดอกบัวมาจากในสระแล้วนำกลับมาที่เรือนพักด้วยความยากลำบาก ผลคือกินไปได้เพียงสองกลีบ ด้วยความโมโหมันจึงบินมาเกาะบนบ่าฉินโยวโยวด้วยอาการฮึดฮัด คิดจะเล่นงานเสี่ยวฮุย แต่ครั้นเหลือบมองเหยียนตี้ที่มีสีหน้าไม่ดีแล้ว…ช่างเถอะ กลืนดอกไม้ลงไปก็เป็นวิธีทำลายหลักฐานอย่างหนึ่ง มันเป็นผู้มีปัญญาที่สง่าผ่าเผย ไม่จำเป็นต้องถือสาหาความกับกระต่ายทึ่มตัวหนึ่ง และยิ่งไม่อาจทะเลาะให้คนนอกเห็นได้
ฉินโยวโยวกลืนน้ำลาย พยายามแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางยิ้มปะเหลาะพลางเอ่ยทักเหยียนตี้ “ทะ…ท่านกลับมาแล้วหรือ กินอาหารเย็นมาหรือยัง”
รู้ทั้งรู้ว่าฉินโยวโยวไม่ได้พูดมาจากใจ ทว่าเพลิงโทสะของเหยียนตี้ยังคงสลายไปเพราะความห่วงใยจอมปลอมของนาง กระนั้นน้ำเสียงที่เอ่ยก็ยังคงเย็นยะเยือก “กลีบหยกเก้าบุตรในสระเป็นของสำหรับใช้รักษาอาการบาดเจ็บให้เจ้า ถ้าพวกมันกินเข้าไปอีก ข้าก็ได้แต่เอาพวกมันไปตุ๋นมาให้เจ้ากินบำรุงร่างกายแล้ว”
เสี่ยวฮุยที่เพิ่งจะกินดอกบัวกลีบหยกเก้าบุตรเข้าไปตัวสั่นเทิ้มขึ้นมา มันออกแรงขดตัวอยู่ในอ้อมแขนฉินโยวโยวยิ่งกว่าเดิมด้วยท่าทางน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง อีกทางหนึ่งก็แอบหันหน้าไปถลึงตาใส่เหยียนตี้อย่างเข่นเขี้ยว
ฉินโยวโยวรู้ว่ามันถูกทำให้ตกใจแล้วก็รีบลูบปลอบมันเบาๆ
“เข้าไปห้องด้านใน” เหยียนตี้ไม่สนใจกระต่ายสองหน้าตัวนั้นอีก เขาจูงแขนฉินโยวโยวพานางเดินกลับไปถึงเตียงในห้องนอน
เรื่องเช่นนี้เคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ฉินโยวโยวไม่มีอารมณ์แม้แต่จะขัดขืนหรือถือสาอะไร ถึงขนาดจำไม่ได้แล้วว่าการที่มีบุรุษผู้หนึ่งเข้ามาในห้องนอนนาง ซ้ำยังยืนอยู่ข้างเตียงนางด้วยท่าทีวางอำนาจนั้นมีอะไรไม่เหมาะสม
เหยียนตี้หยิบขวดหยกออกมาจากในแขนเสื้อ เทยาลูกกลอนออกมาเม็ดหนึ่งแล้วยื่นไปตรงหน้าฉินโยวโยว “กินเสีย”
เป็นยาลูกกลอนที่ไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรนั่นอีกแล้ว!
ฉินโยวโยวรับยาลูกกลอนมายื่นให้ต้าจุ่ยต่อหน้าเหยียนตี้ “เจ้ามิใช่รู้เรื่องสมุนไพรวิเศษดีที่สุดหรือไร ดูหน่อยว่านี่คือยาอะไร”
ฉินโยวโยวนับว่าคิดได้แล้ว ด้วยท่าทียืนกรานบังคับให้นางกินยาตลอดหลายวันมานี้ของเหยียนตี้ นางไม่มีทางปิดบังเขา แล้วเก็บยาไว้ให้ต้าจุ่ยตรวจดูได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำอย่างเปิดเผยเสียเลย ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้ล่วงเกินเหยียนตี้เป็นครั้งแรกสักหน่อย
ต้าจุ่ยเลื่อนหัวมาใกล้ยาลูกกลอน มันออกแรงสูดลมหายใจสองสามที ก่อนพึมพำ “เห็ดหลิงจือโลหิตมังกร โสมหิมะสวรรค์ หินย้อยเสวียนอู่* เถาวัลย์ดาวเหนือ…” มันร่ายชื่อสมุนไพรวิเศษออกมาหลายสิบชื่อรวดเดียว สุดท้ายก็สรุปว่า “ของดีนี่! นี่คือลูกกลอนเปลี่ยนชีพจร!”
มันพูดพลางน้ำลายหยดติ๋ง อยากจะเอาอย่างเสี่ยวฮุยอ้าปากกลืนยาลูกกลอนลงไป